เผยแพร่ |
---|
จากร้านโชห่วยในรุ่นพ่อ ที่ช่วยกันพัฒนาจากพี่น้องสามคนของตระกูล ‘เสรีโยธิน’ จนขยายกิจการเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายแห อวน ตาข่าย และอุปกรณ์การประมง การเกษตร ภายใต้แบรนด์สินค้าตรา ‘เรือใบ’ หรือ SHIP ในนามบริษัทขอนแก่นแหอวน จำกัด หรือ KKF ที่ผงาดสู่ระดับโลกได้สำเร็จ จากแนวคิด Family Business ของ คุณบวร เสรีโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ขอนแก่นแหอวน จำกัด หนึ่งในผู้ก่อตั้งธุรกิจแหอวนระดับโลกจากสามพี่น้องตระกูลเสรีโยธิน
คุณบวร เล่าว่า ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2520 โดยเริ่มจากที่อยากพัฒนาบ้านเกิดตนเอง ซึ่งเป็นการทำธุรกิจที่เริ่มจากรับสินค้าจากชาวบ้านในจังหวัดขอนแก่น ที่ถักแหอวนด้วยมือ แล้วส่งไปขายต่อ จากนั้นเมื่อเข้าสู่ยุคสั่งสินค้า semi product จากญี่ปุ่น ก็มีการสั่งสินค้านำมาแปรรูปใส่ตะกั่วใส่ทุ่นเพิ่มทำให้อวนสำเร็จรูปมากขึ้น แล้วส่งขายไปทั่วภาคอีสาน เมื่อมีปริมาณการซื้อเพิ่มมากขึ้น จึงขยายตลาดไปภาคอื่นๆ ทั่วประเทศ
สำหรับขอนแก่นแหอวนเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า ตาข่าย สายเอ็น ที่ใช้สำหรับการเกษตรและการประมง เช่น ข่ายเอ็น ข่ายเอ็นเกลียว อวนไนลอน อวนโปลี อวนปั๊ม อวนรุม แห สายเอ็น เชือก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ดพลิกผันด้านกำแพงภาษี ก่อนแจ้งเกิดระดับโลก
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ครอบครัวเสรีโยธินต้องพัฒนาสินค้าขึ้นเอง ตั้งแต่กระบวนการผลิตเส้นใย ด้วยเหตุที่ญี่ปุ่นตั้งกำแพงภาษีสำหรับสินค้าเส้นใย ทำให้ต้นทุนมีราคาที่สูงขึ้น จนหันมาตั้งโรงงานและเป็นผู้ผลิตแทนการนำเข้า โดยเริ่มจากการซื้อเครื่องจักรมือสองของไต้หวัน 10 เครื่อง
“เนื่องจากเรามีคอนเนคชั่นที่ดีกับทางไต้หวัน ก็ประชุมกันสามพี่น้อง ติดต่อโรงงานที่ไต้หวันซื้อเครื่องจักร 10 เครื่องเพื่อมาผลิตเอง รวมถึงให้ทางไต้หวันส่งช่างฝีมือที่มีความรู้เรื่องเครื่องจักรช่วยเรา 2 -3 ปี จากตรงนั้นก็ทำให้เราเติบโตไปต่อได้”
ปัจจุบันคุณบวรเล่าอีกว่า มีการปรับใช้ Know-how ต่างๆ เข้าไปเพื่อให้เครื่องจักรทำงานได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เป็นระบบออโตเมชั่น ทำให้การใช้แรงงานคนลดน้อยลง
วิกฤตสร้างโอกาส ขยายตลาดไม่หยุดยั้ง
ปี 2540 เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้ต้องมีการกู้เงินตราต่างประเทศเพื่อขยายกิจการ จึงเป็นที่มาทำให้ขอนแก่นแหอวนหันไปบุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง เพื่อนำเงินสกุลต่างประเทศมาชดเชยกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าในช่วงนั้น โดยเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จนขยายไปยุโรป อเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ยังมีการสร้างเครือข่ายร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเป็น Joint Venture ร่วมกันพัฒนาสินค้า และกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เนื่องจากสินค้าได้รับการตอบรับอย่างดีในตลาดโลก
หลังจากที่เติบโตมาได้ระดับหนึ่ง ทำให้มองเห็นช่องทางโอกาสในการเติบโตที่มากขึ้น จึงค่อยๆ ขยายโรงงานเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันมีโรงงานอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด 6 แห่ง ประเทศจีน 2 แห่ง และประเทศเมียนมา 2 แห่ง ซึ่งกว่า 60% กระจายไปในตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ส่วนอีก 40% กระจายอยู่ในประเทศไทย
ปรับตัวให้ทันโลกยุคใหม่ ใช้ระบบ ERP ช่วยการผลิต
ขอนแก่นแหอวน มีนโยบายที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ โดยปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิตต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องการวางแผนระบบการทำงานได้เป็นอย่างดี
“ERP มีระบบการวางแผนการผลิตที่เรียลไทม์ รู้ได้ว่าสินค้าจะออกมาเมื่อไหร่ สามารถส่งมอบสินค้าได้ช่วงเวลาไหน นี่คือสิ่งที่เราพยายามใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการปรับตัวของเราให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก”
นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาเครื่องจักรให้มีคุณภาพที่สูงขึ้น เพื่อให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ช่วยลดต้นทน และทำให้มีความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
สร้างจุดแข็งด้วยกลยุทธ์ Holding Company
นอกจากมีการจัดตั้งธรรมนูญครอบครัว ขอนแก่นแหอวนยังมีกลยุทธ์ในการวางแผนบริหารธุรกิจโดยการจัดตั้ง Holding Company โดยผู้บริหารมาจากคนในตระกลูทั้งหมด โดยแบ่งหน้าที่ให้สอดคล้องกับความชำนาญของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ธุรกิจครอบครัวมักที่จะใช้ในการวางแผนบริหารธุรกิจ
สำหรับกลยุทธ์ระบบโฮลดิ้ง คุณบวรมองว่า ถือเป็นจุดแข็งในการแบ่งธุรกิจแต่ละหน่วยงานให้กับลูกหลานเพื่อไม่ให้ทำธุรกิจร่วมกันในที่เดียว และยังเป็นการดูแลสวัสดิภาพคนในครอบครัว รวมถึงผลประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย ซึ่งจะใช้นโยบายร่วมกันทั้งหมด
“การที่มีโฮลดิ้งจะมีจุดแข็งคือ การใช้ระบบร่วมกันแบบ ERP ทำให้ผู้บริหารสูงสุดเห็นข้อมูลอย่างเรียลไทม์และรวดเร็ว ซึ่งการบริหารต้องมีนโยบาลมาจากส่วนกลาง แต่ก็ปล่อยให้บริษัทลูกต่างๆ มีอิสระในการบริหารจัดการ”
Recycle สู่การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในแต่ละปีนั้นมีอวนที่ไม่ใช้งานแล้วถูกทิ้งลงทะเลจำนวนมาก ซึ่งกลายเป็นปัญหาให้สัตว์ในทะเลต้องมาติดกับดักและเสียชีวิตลง รวมถึงส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมอื่นๆ ในท้องทะเลให้ต้องเสียหายตามไปด้วย
เรื่องนี้ คุณบวรมองว่า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกบริษัทต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ สำหรับขอนแก่นแหอวนได้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่องจากมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคม จึงต้องต้องตระหนักให้มากและช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ให้ดีขึ้นและเร็วขึ้น
นอกจากที่กำลังมีการจัดตั้งกองทุนเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ยังมีการรับซื้ออวนเก่าที่ชำรุดเสียหายจากชาวประมงที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว สามารถนำมาแลกซื้ออวนใหม่ในราคาที่ถูกลงอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีโครงการรีเทิร์นสินค้ากลับมาใช้ได้อีก ด้วยการนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลออกมาเป็นผลิตภัณฑ์พาเลทสำหรับชั้นวางของ วิธีการนี้ถือเป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล และลดภาระให้กับชาวประมงให้ซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง
แนวคิด ‘ธรรมนูญครอบครัว’ เพื่อความสำเร็จอย่างยั่งยืน
ขอนแก่นแหอวนถือเป็นต้นแบบการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัวที่ดีเยี่ยมมากว่า 44 ปี โดยมีการบริหารจัดการธุรกิจแบบ ‘ธรรมนูญครอบครัว’ ซึ่งเป็นการสร้างข้อตกลงร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว โดยสมาชิกที่เกี่ยวข้องจะมีส่วนร่วม มีสิทธิและเสียงในการสร้างข้อตกลงต่างๆ ขึ้นมา
สำหรับธรรมนูญครอบครัวของขอนแก่นแหอวน คุณบวรเล่าว่า เนื่องจากเป็นธุรกิจครอบครัวและมีหลายเจนเนอเรชั่น จึงจำเป็นต้องสร้างหลักเกณฑ์ที่เป็นธรรมให้กับทุกคนในครอบครัว เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
“มีการประชุมกงสีทุกไตรมาส ไม่น้อยกว่า 2 ครั้งต่อปี ในขณะที่มีการประชุมสภาครอบครัว เราก็มีการสังสรรค์ร่วมกัน เพื่อให้แต่ละเจนเนอเรชั่นเรียนรู้ซึ่งกันและกันให้มากขึ้น เชื่อว่าถ้ามีความสามัคคีกันจะทำให้แข็งแกร่งและอยู่ได้อย่างยั่งยืน จึงพยายามปลูกฝังให้ตระหนักร่วมกัน”
ดังนั้น ขอนแก่นแหอวน นับว่าเป็นตระกูลที่สามารถสร้างกิจการครอบครัวให้เติบใหญ่และประสบความสำเร็จทางธุรกิจ โดยยังรักษาความเป็นครอบครัวที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ปัจจุบันนอกจากเป็นผู้สร้างธุรกิจแหอวนระดับโลกแล้วนั้น ขอนแก่นแหอวนยังแตกไลน์ธุรกิจอีกมากมายเพื่อรองรับทายาทรุ่นต่อไปในการบริหารธุรกิจในอนาคตอีกด้วย
จากความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการทำธุรกิจ และจากความเชี่ยวชาญกว่า 44 ปี ในการเป็นผู้สร้างธุรกิจแหอวนจนผงาดสู่ระดับโลกได้สำเร็จ เชื่อว่า ‘ขอนแก่นแหอวน’ จะยังครองใจผู้บริโภคในระดับโลกได้ต่อไปอย่างยั่งยืน จากการทำธุรกิจแบบมีคุณธรรมที่คำนึงถึงการอยู่ร่วมกันในสังคม
รู้จัก ‘ขอนแก่นแหอวน’ ได้ที่ : https://www.facebook.com/KKFTHAILAND/