ประธานบอร์ด อ.ส.ค. คนใหม่ฟิตจัด

ประธานบอร์ด อ.ส.ค. คนใหม่ฟิตจัด
ประธานบอร์ด อ.ส.ค. คนใหม่ฟิตจัด

ประธานบอร์ด อ... คนใหม่ฟิตจัด ชูนโยบายเร่งด่วนเพื่อผลักดัน อ... ก้าวสู่องค์กรชั้นนำด้านอุตสาหกรรมโคนมครบวงจร พร้อมเดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาในองค์กรเร่งระบายสต๊อกผลิตภัณฑ์นมที่ล้น เพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน

นายปริญญา เพ็งสมบัติ ประธานกรรมการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย( อ.ส.ค.) กล่าวถึงนโยบายและทิศทางในการบริหารในโอกาสเข้ารับการดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ อ.ส.ค. คนใหม่ว่า ปี 2564 เป็นปีที่มีความท้าทายยิ่งสำหรับ อ.ส.ค. ทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ที่มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วโลก และกระทบต่อการดำเนินงานของ อ.ส.ค. ด้วยเช่นกัน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเกินกว่าครึ่งปีงบประมาณ 2564 พบว่า รายได้และผลประกอบการจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมยังไม่ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีความต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อการบริโภคของประชาชนโดยทั่วไปรวมถึงการบริโภคผลิตภัณฑ์นมด้วย ทั้งนี้ หากการบริโภคลดลงย่อมส่งผลต่อยอดขายผลิตภัณฑ์นมลดลงด้วย แต่องค์กรยังคงต้องรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเป็นไปอย่างปกติ จึงส่งผลให้มีสต๊อกผลิตภัณฑ์นมสะสมเป็นจำนวนมาก

จากเหตุผลดังกล่าวเป็นความจำเป็นที่องค์กรต้องระมัดระวังการบริหารจัดการให้มีความคล่องตัวทางการเงินในช่วงเวลาปัจจุบัน ควบคู่กับการวางรากฐานของการบริหารจัดการองค์กรที่มีความเป็นเลิศ ให้ อ.ส.ค. อยู่รอดและมีการเจริญก้าวหน้าเป็นองค์กรชั้นนำของประเทศด้านอุตสาหกรรมโคนมแบบครบวงจรในอนาคต พร้อมกับการสืบสานอาชีพการเลี้ยงโคนม ให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้สภาวะการแข่งขันที่รุนแรงเกิดขึ้นจากจำนวนคู่แข่งทางการค้า รวมถึงการเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) และวิถีชีวิตใหม่ของคนไทย โดยมีแนวนโยบายที่มอบให้กับฝ่ายบริหารของ อ.ส.ค. 2 ด้านคือ นโยบายเร่งด่วน และนโยบายด้านการพัฒนาองค์กร ให้เป็นองค์กรชั้นนำด้านอุตสาหกรรมโคนมแบบครบวงจรในอนาคต

สำหรับนโยบายเร่งด่วน จะเร่งรัดแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยการเพิ่มขีดความสามารถขององค์กร ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการตลาดเพื่อนำการผลิต จัดทำแผนตลาดเชิงรุก มุ่งเน้นให้ผลิตภัณฑ์นมถึงผู้บริโภคได้สะดวก รวดเร็ว กระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทางการจำหน่ายและทุกพื้นที่ มีการระบายผลิตภัณฑ์นมที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสต๊อกผลิตภัณฑ์นมที่มีปริมาณมาก และเกิดประโยชน์ต่อองค์กรสูงสุด โดยดำเนินการใน 3 ด้านคือ 1. การจัดทำแผนการตลาดเชิงรุกโดยวางแผนร่วมกับตัวแทนจำหน่ายเพื่อระบายสต๊อกผลิตภัณฑ์นม 2. เร่งรัดการดำเนินงานขององค์กรในด้านการลดค่าใช้จ่าย ปรับแผนงานปี 2564 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการจัดการภายในองค์กร และ 3. เพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในด้านบุคลากรและแผนธุรกิจ สนับสนุนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถให้ทำงานตามความรู้ความสามารถของตนเอง ปรับการจัดทำแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

ส่วนนโยบายด้านการพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรชั้นนำด้านอุตสาหกรรมโคนมแบบครบวงจรในอนาคต จะเน้นให้ความสำคัญตลาดนำการผลิตเป็นการปรับเปลี่ยนต่อยอดธุรกิจ เพื่อเพิ่มตลาดสินค้าด้วยนวัตกรรม การเพิ่มจำนวนคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ หรือการสร้าง New S-curve ควบคู่กับการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนของอาชีพการเลี้ยงโคนมแก่เกษตรกร ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านบุคลากรให้มีความชาญฉลาด กระบวนการทำงานที่ได้มาตรฐานสากล และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อให้ อ.ส.ค. มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยต้นทุนที่ต่ำ รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ที่มูลค่าและกำไรต่อหน่วยที่สูงขึ้น โดยเน้น 4 ด้าน คือ 1. ด้านการบริหารจัดการองค์กร 2. ด้านการส่งเสริมการเลี้ยงโคนม 3. ด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์นม และ 4. ด้านการตลาดและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม

สำหรับนายปริญญา เพ็งสมบัติ ประธานกรรมการ อ.ส.ค. คนใหม่ เคยดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ ตำแหน่งล่าสุดที่ปรึกษากรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นต้น ส่วนด้านการศึกษา ระดับปริญญาตรี เศรษฐศาสตรบัณฑิต (การเกษตร) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ระดับปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จากประสบการณ์จึงถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารธุรกิจได้เป็นอย่างดี