SHOPLINE เปิดแผนครึ่งปีหลัง รุกเพิ่มบริการ ตอบรับตลาดอีคอมเมิร์ซไทย

SHOPLINE เปิดแผนครึ่งปีหลัง รุกเพิ่มบริการ เสริมแกร่งผู้ประกอบการ ตอบรับตลาดอีคอมเมิร์ซไทย

SHOPLINE ผู้นำระบบจัดการร้านค้าบนอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซแบบครบวงจร ตอกย้ำความสำเร็จการขยายตลาดสู่ประเทศไทย หลังเข้ามาเปิดให้บริการเป็นเวลา 8 เดือน ประกาศแผนในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เดินหน้าเพิ่มบริการใหม่รองรับการเติบโตของ Social commerce พร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการไทย ตอบรับการขยายตัวอย่างร้อนแรงของ Social commerce ในประเทศไทย

และกลายเป็นช่องทางหลักที่สำคัญในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคคนไทย สะท้อนได้จากการจัดทำ Live commerce ของประเทศไทยที่มีอัตราการขยายตัวสูง สร้างยอดขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์สูงถึง 300% เติบโตสูงกว่าภูมิภาคเอเชียที่ขยายตัว 160% แสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคในไทยที่เปลี่ยนแปลงไป และมุ่งสู่ Social commerce

นายชนนันท์ ปัญจทรัพย์  Country Manager, SHOPLINE Thailand

นายชนนันท์ ปัญจทรัพย์ Country Manager, SHOPLINE Thailand เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 เข้ามาเป็นตัวเร่งสำคัญที่กระตุ้นผู้บริโภคคนไทยก้าวเข้าสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซมีการขยายตัวสูง ซึ่งประเมินว่าภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยในปี 2564 จะมีการขยายตัว 15-20%

โดย SHOPLINE มองเห็นแนวโน้มสำคัญของการใช้ Social commerce ในไทย พบว่า เป็นการใช้งานผ่านช่องทางของ Facebook 58% รองลงมาเป็น Line 35% ตามมาด้วย Instagram 21% และ Twitter 11% ซึ่งลูกค้าประมาณ 69% จะเลือกซื้อสินค้าผ่าน Facebook จากเพจต่างๆ ซึ่งหากแยกตามกล่มผู้หญิงจะสนใจ ความงาม และผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย กลุ่มลูกค้าผู้ชายจะสนใจผลิต Gadget และของตกแต่งบ้าน กลุ่มอายุ 55 ปี จะสนใจเรื่องอาหาร

ขณะเดียวกัน มีผลสำรวจการใช้ Social commerce ของคนไทยจะสนใจพูดคุยและ Live ในสัดส่วน 56% และมีความสนุกและพอใจในการซื้อของผ่าน Social commerce สัดส่วน 62% มียอดการใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000-3,000 บาท และใช้เวลาผ่าน Social commerce ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวัน และช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการทำ Live selling คือ 19.00 น.

สำหรับแนวโน้มการจัดทำ Live commerce ในประเทศไทยก็เติบโตสูงมาก ทำให้มูลค่ารวมของยอดขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ช่วงไตรมาส 2 ของปี 2564 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 300% เมื่อเทียบกับยอดขายไตรมาสแรก เติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 160% และจำนวนคำสั่งซื้อก็เติบโตเพิ่มขึ้น 210% จำนวนการถ่ายทอดสดเพิ่มขึ้น 300%

รวมทั้งจำนวนความคิดเห็นเพิ่มขึ้น 283% โดยในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจะมีออร์เดอร์สูงสุดในวันจันทร์ และออร์เดอร์สูงสุดในช่วง 20.00 น. ส่วนภาพรวมยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ของภูมิภาคเอเชียมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 160% จำนวนคำสั่งซื้อเติบโต 180% จำนวนการถ่ายทอดสดเติบโต 70% และจำนวนความคิดเห็นเติบโตเพิ่มขึ้น 125% โดยเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจะมีออร์เดอร์สูงสุดในวันพุธ และมีการสั่งซื้อสูงสุดช่วงเวลา 22.00 น.

นายชนนันท์ กล่าวต่อว่า SHOPLINE เริ่มเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 โดยขยายแพลตฟอร์มการให้บริการอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซแบบครบวงจร หรือ A Global Smart Commerce Enabler ให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย ช่วยผลักดันสร้างความสำเร็จให้แก่ผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง และมีการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ มาเสริมการให้บริการ พร้อมทั้งเสริมองค์ความรู้ทางธุรกิจใหม่ๆ

สำหรับแผนการขยายตลาดช่วงครึ่งหลังของปี 2564 จะเดินหน้าแพลตฟอร์มการให้บริการแก่ลูกค้า เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดในไทย และร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้ขยายธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีแผนจะเปิดฟีเจอร์ใหม่จำนวน 2 รายการ พร้อมศึกษาการนำฟีเจอร์ใหม่มาใช้บริการที่จะสร้างนวัตกรรมให้แก่ร้านค้า รวมถึงการขยายบริการให้แก่ร้านค้าออนไลน์อย่างใกล้ชิดตั้งแต่ใช้งานและบริการหลังการขาย พร้อมจัด Webinar และ Seminar เสริมองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการในทุกเดือน ซึ่งตามแผนงานจะทำให้ SHOPLINE ติดอันดับหนึ่งของ Smart Commerce Enabler ของประเทศไทยภายในปี 2021”

นายชาญฤทธิ์ อนันตประยูร Marketing Manager, SHOPLINE Thailand

นายชาญฤทธิ์ อนันตประยูร Marketing Manager, SHOPLINE Thailand กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง SHOPLINE มีแผนเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่ LIVE bidding เป็นฟีเจอร์การประมูลแบบ LIVE ที่จะทำให้ลูกค้าที่ให้ราคาสูงสุดใน LIVE สามารถรับสินค้าได้อัตโนมัติ และ Golden Minutes นาทีทอง สำหรับร้านค้าที่จะจัดกิจกรรมเล่นเกมกับลูกค้า เพื่อแจกของกำนัลให้แก่ลูกค้า รองรับความต้องการของการใช้งาน Live commerce ในประเทศไทยที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง

นอกจากนี้ SHOPLINE ยังมีฟีเจอร์ที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบครัน ผ่านแพลตฟอร์มการให้บริการอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซแบบครบวงจร หรือ Smart Commerce Enabler ทั้ง E-Commerce Solution ที่มีฟีเจอร์มากมาย ทั้ง Chat bot, ฟีเจอร์ LIVE, ระบบจัดการหลังบ้าน และการสร้าง Website ทำได้ง่ายใน 5 นาที พร้อมมี Drag & Drop Website, Shoplytics ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า

และ CRM ในการจัดทำระบบสมาชิกและดูแลลูกค้า ขณะที่ Social commerce จะมีบริการทั้ง message center ในการดึงทุกข้อความมารวมไว้ที่เดียว, live streaming tools ช่วยขายสินค้าผ่านไลฟ์สด ช่วยในการดูด CF ส่งออร์เดอร์ผ่านแชตอัตโนมัติ, chatbot ที่สามารถโต้ตอบ และปิดการขายได้ จึงส่งผลดีต่อร้านค้าออนไลน์สามารถเลือกใช้งานได้อย่างสะดวกและพิชิตยอดขายได้ตามแผนงานที่วางไว้