เผยแพร่ |
---|
ไปรษณีย์ไทย เปิดบ้านรับฝากขายสินค้า ช่วยเกษตรกรสู้วิกฤต ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ 200 ล้านบาท
วันที่ 19 ก.พ.64 คุณกาหลง ทรัพย์สอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รวมถึงสถานการณ์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มเกษตรกร ที่ส่วนใหญ่กำลังประสบปัญหาไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตและสินค้าได้ตามปกติ รวมถึงราคาของสินค้าที่อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม

ไปรษณีย์ไทยได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงมุ่งทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนมาตรการเชิงรุก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยทั่วทั้งประเทศ ด้วยการเป็นทั้งช่องทางจัดจำหน่าย การขนส่ง และการประชาสัมพันธ์เพื่อให้สินค้าที่มีคุณภาพจากทั่วทุกภูมิภาคสามารถกระจายไปสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศ รวมถึงเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและสร้างรายได้ให้กับชุมชนตลอดทั้งปี โดยไปรษณีย์ไทยได้วางเป้าหมายในการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท และแนวทางการช่วยเหลือไว้ดังนี้

- ช่วยรับฝาก ซึ่งไปรษณีย์ไทยจะใช้ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ เป็นจุดฝากขายสินค้าให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการฝากส่งพัสดุ หรือทำธุรกรรมต่างๆ ได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าจากเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนในราคาที่ย่อมเยาแต่มีคุณภาพที่ดี โดยมีทั้งผลไม้สด เช่น สตรอว์เบอร์รี่ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง พุทราทันสุข ชมพู่เพชรสายรุ้ง มังคุด ผลไม้ประจำท้องถิ่น อาหาร – ผลไม้แปรรูป รวมถึงของฝากที่ผลิตโดยคนในท้องถิ่น พร้อมกันนี้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการยังสามารถสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ Thailandpostmart.com ที่มีอยู่กว่า 17,000 รายการ กับเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการได้อีกด้วย
2. ช่วยส่ง ผ่านการใช้ศักยภาพการขนส่งของไปรษณีย์ไทยในการช่วยกระจายสินค้าจากผู้ประกอบการชุมชนให้ถึงมือผู้บริโภค ด้วยมาตรฐานส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น ซึ่งผู้ที่สั่งซื้อสินค้าจะได้รับสินค้าในเวลาที่รวดเร็ว สินค้าที่ส่งถึงบ้านมีความสดใหม่ และปลอดภัยในกระบวนการทุกขั้นตอน นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งด้วยการใช้รถควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งจะช่วยรองรับการสั่งซื้อสินค้าได้หลากหลายประเภท เช่น อาหารทะเล อาหารแช่แข็ง อาหารพร้อมรับประทานที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ พร้อมรองรับสินค้าจากผู้ประกอบการได้หลากหลายขึ้น

3. ช่วยประชาสัมพันธ์ ทางเว็บไซต์ Thailandpostmart.com แพลตฟอร์มที่มีสินค้าจากชุมชนมากที่สุดในประเทศ แบ่งตามหมวดสินค้าต่างๆ เช่น ของดีประจำจังหวัด สุขภาพและความงาม ฯลฯ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้เลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งมีความสะดวก ง่าย รวดเร็ว
4. ช่วยยกระดับสินค้า ผ่านองค์ความรู้ที่จำเป็นเพื่อการค้าขายและการทำธุรกิจในโลกการค้ายุคใหม่ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแพ็กเกจจิ้งเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ การตลาดหรือโปรโมชั่นที่ช่วยดึงดูดผู้บริโภคและทำให้สินค้าสามารถขายได้ในปริมาณที่มากขึ้น โดยไปรษณีย์ไทยมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที โดยตัวอย่างชุมชนที่ไปรษณีย์ไทยเข้าไปช่วยในด้านนี้ เช่น ลำไยอบกึ่งแห้งละพูน จ.ลำพูน ไข่เค็มไชยา อสม. จ.สุราษฎร์ธานี พุทราทันสุข จ.กาฬสินธุ์ เป็นต้น

5. ช่วยสนับสนุนผ่านเครือข่ายพันธมิตร โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ฯลฯ เพื่อสนองนโยบายแต่ละด้านของแต่ละองค์กรให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่จะช่วยกันยกระดับชุมชนให้เดินหน้าต่อได้ โดยตัวอย่างความร่วมมือ เช่น การขนส่งสินค้าในราคาพิเศษให้กับผู้ประกอบการในเครือข่ายของแต่ละหน่วยงาน การเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์เข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ของไปรษณีย์ไทย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ที่ต้องการร่วมเป็นพันธมิตรและจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางไปรษณีย์ไทย ยังคงสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ทางที่ทำการไปรษณีย์ในพื้นที่ รวมถึงสามารถสมัครด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ Thailandpostmart.com ซึ่งไปรษณีย์ไทยยินดีที่จะเป็นช่องทางในการสร้างรายได้รวมถึงช่วยพัฒนาธุรกิจอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเดินหน้าและก้าวข้ามผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน