3 เหตุผลที่โรบอทเหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับการจัดการบรรจุภัณฑ์ในช่วงยอดผลิตสูงสุดตามฤดูกาล

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ประสบกับการบรรจุภัณฑ์สูงและต่ำตามฤดูกาลตลอดทั้งปี คุณควรพิจารณากระบวนการบรรจุภัณฑ์ของคุณให้เป็นแบบอัตโนมัติ สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางส่วนใหญ่ ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับกระบวนการอัตโนมัติเหล่านี้ คือ หุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกันกับมนุษย์

หุ่นยนต์ทำงานร่วมกันกับมนุษย์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เพราะมีราคาไม่แพงมากจนเกินไป เมื่อคุณพิจารณาขนาดของมัน ความง่ายในการเขียนโปรแกรมมัน และความจริงที่ว่ามันใช้งานง่าย มันเป็นระบบหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับความท้าทายเกือบทั้งหมดที่ธุรกิจขนาดเล็กกำลังเผชิญอยู่ในทุกวันนี้ นี่รวมถึงความท้าทายที่บริษัทบรรจุภัณฑ์มักเผชิญในช่วงที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น สิ่งต่อไปนี้คือวิธีการที่ หุ่นยนต์บรรจุภัณฑ์ สามารถช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กดำเนินการธุรกิจต่อได้

สามารถเพิ่มการผลิตตามเวลาที่แจ้ง

โดยปกติแล้ว เมื่อคุณได้รับความต้องการเพิ่มขึ้นในเวลาฉับพลัน คุณจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนคนที่ทำงานในสายการผลิตมากขึ้น สำหรับบริษัทในภาคบรรจุภัณฑ์ สิ่งนี้อาจถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย โดยเฉพาะในช่วงที่ขาดแคลนแรงงาน แม้ในกรณีที่มีแรงงานเพียงพอแล้ว แต่คุณยังต้องรับสมัคร ปรับพื้นฐานแรงงานแล้วฝึกแรงงานจ้างใหม่ นอกจากนี้ยังมีความจริงที่ว่าอาจต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่พนักงานใหม่จะสามารถทำความคุ้นเคยกับระบบใหม่จนถึงจุดที่พวกเขารู้สึกสะดวกสบายพอที่จะเริ่มเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด สิ่งเหล่านี้เสียเวลาและเงินไปมาก ระหว่างยอดสูงสุดตามฤดูกาล ปัจจัยเหล่านี้เป็นแหล่งข้อมูลที่คุณไม่สามารถสำรองไว้ได้

การปรับใช้หุ่นยนต์ทำงานร่วมกันกับมนุษย์เป็นทางออกที่ง่ายที่สุด เนื่องจากโรบอทสามารถทำงานได้ไม่หยุดพัก อีกทั้งพวกมันสามารถทำงานได้เร็วกว่ามนุษย์ จึงช่วยเพิ่มผลผลิตตามที่บริษัทของคุณต้องการเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องจ้างแรงงานสำรอง หรือต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อันเนื่องมาจากการจ้างงานและฝึกอบรมแรงงานใหม่ สิ่งที่คุณต้องทำคือซื้อหุ่นยนต์ จากนั้นตั้งโปรแกรมให้ทำงานบรรจุภัณฑ์ที่คุณต้องการให้พวกมันทำ เนื่องจากบางครั้งใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งวันในการปรับใช้หุ่นยนต์ทำงานร่วมกันกับมนุษย์ นี่ถือเป็นวิธีที่ดีในการประหยัดทั้งเวลาและเงินโดยไม่ทำให้การผลิตของบริษัทลดลง

การสับเปลี่ยนหรือการเขียนโปรแกรมใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น

หนึ่งความท้าทายที่ธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่กำลังประสบจนแทบเอาตัวไม่รอดคือสิ่งที่จะต้องทำหลังจากช่วงเวลาการผลิตสูงสุดตามฤดูกาลสิ้นสุดลง ยกตัวอย่าง เช่น หากคุณได้จ้างงานพนักงานเพิ่มเติมที่ได้รับการฝึกทักษะพิเศษแล้ว คุณอยากเลิกจ้างพวกเขาเหรอ? นี่คือตัวเลือกที่บางธุรกิจในอุตสาหกรรมตามฤดูกาลใช้ อย่างไรก็ตาม มันเป็นตัวเลือกที่มีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณพิจารณาเงินชดเชยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่มักจะมาพร้อมกับการเลิกจ้าง คุณสามารถเลือกฝึกอบรมพนักงานเหล่านี้อีกครั้งเพื่อทำงานบรรจุภัณฑ์อื่นๆ หรือทำงานในพื้นที่อื่นๆ ของบริษัท ของคุณ สิ่งนี้อาจทำให้บริษัทเสียทรัพยากรที่จำเป็นของพวกเขามากเกินไป

หุ่นยนต์ทำงานร่วมกันกับมนุษย์มีความยืดหยุ่นและอเนกประสงค์อย่างเหลือเชื่อ การเขียนโปรแกรมใหม่เพื่อจัดการงานบรรจุภัณฑ์อื่นกลายเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังใช้เวลาไม่นาน ดังนั้นคุณจึงสามารถมุ่งเน้นบริษัทของคุณไปสู่ภาคใหม่หรืออุตสาหกรรมใหม่ได้อย่างง่ายดายเมื่อคุณผ่านช่วงเวลาผลิตสูงสุดตามฤดูกาล ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสทันทีที่พวกหุ่นยนต์นำเสนอตัวเอง บางครั้งหุ่นยนต์เหล่านี้จำเป็นเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและเจริญเติบโตได้อย่างงดงาม

ปลดแอกจากภาระของต้นทุนคงที่ที่เพิ่มขึ้น

หุ่นยนต์ทำงานร่วมกันกับมนุษย์มีน้ำหนักเบา พวกมันมีขนาดเล็กกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับระบบหุ่นยนต์แบบดั้งเดิม และเนื่องจากพวกมันสามารถติดตั้งบนโต๊ะทำงานหรือวางซ้อนกันในแนวตั้งบนชั้นวาง พวกมันจึงต้องการพื้นที่น้อยกว่ามนุษย์

ดังนั้น เมื่อคุณตัดสินใจปรับใช้งานพวกมันในช่วงผลิตสูงสุด คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเค้าโครงการผลิตหรือเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่ เมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่การติดตั้งระบบหุ่นยนต์แบบดั้งเดิมหรือการจ้างแรงงานมนุษย์จะเป็นสิ่งจำเป็นจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ดั่งผลลัพธ์ที่เห็น การเลือกใช้หุ่นยนต์ทำงานร่วมกันกับมนุษย์จะช่วยให้หุ่นยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น แม้ในช่วงฤดูกาลการผลิตต่ำ เนื่องจากไม่ต้องแบกรับต้นทุนคงที่ที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป