เผยแพร่ |
---|
SO ตอกย้ำผู้นำธุรกิจเอาต์ซอร์ซ เตรียมขายไอพีโอ 85 ล้านหุ้น เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์
วันที่ 23 ก.ย. 2563 นายจิรณุ กุลชนะรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO เปิดเผยว่า บริษัทได้นำเสนอข้อมูลทิศทางการดำเนินงาน จุดแข็งและโอกาสการเติบโตในอนาคตให้แก่นักลงทุนทั่วไป เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563 ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 85 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 27.42 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 76.5 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวนไม่เกิน 8.5 ล้านหุ้น โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
บมจ.สยามราชธานี มีประสบการณ์บริหารและจัดการ Outsource มากว่า 40 ปี ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์และบริการ 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากร และธุรกิจให้เช่าและบริการ พร้อมสร้างการรับรู้ในแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ ผ่านชื่อ SO People สำหรับการบริหารจัดการพนักงานขับรถยนต์ พนักงานสำนักงาน และพนักงานช่างเทคนิค SO Next สำหรับการบริหารจัดการงานบันทึกข้อมูล SO Green สำหรับบริการดูแลภูมิทัศน์ และ SO Wheel สำหรับบริการรถยนต์ให้เช่า
ภายใต้วิสัยทัศน์ดำเนินงาน สยามราชธานี คือผู้ให้โซลูชั่นที่พลิกการดำเนินชีวิต และการทำธุรกิจให้เป็นเรื่องง่าย มุ่งเน้นสร้างงานบริการหลากหลายและมีคุณภาพ โดยนำความต้องการของลูกค้ามาต่อยอดการให้บริการและขยายธุรกิจ ด้วยความชำนาญของบุคลากรคุณภาพ รวมถึงนำเทคโนโลยีและฐานข้อมูลสมัยใหม่ จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ใช้บริการต่อเนื่อง
ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การจัดหาบุคลากรจากภายนอกเข้ามาดำเนินการแทนในส่วนที่ไม่ใช่หน้าที่หลักของธุรกิจ อาทิ งานธุรการ งานขับรถยนต์ ถือเป็นอีกทางเลือกการบริหารจัดการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพองค์กรของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่บริษัทให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการประกอบธุรกิจของบริษัท
จากศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตที่ดีของตลาดเอาต์ซอร์ซ สะท้อนได้จากวงเงินงบประมาณและมูลค่าการทำสัญญาของโครงการการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ประเภทจ้างทำของ หรือจ้างเหมาบริการ มีมูลค่าเติบโตทุกปี โดยในปี 2562 มีวงเงินงบประมาณดังกล่าว จำนวน 230,533 ล้านบาท และมีมูลค่าที่ทำสัญญา 215,486 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 14 และร้อยละ 12 ตามลำดับ แนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับผลสำรวจของ Monitor Deloitte และ Dubai Outsource City ประมาณการมูลค่าการใช้บริการ Outsource โลกเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5 ในช่วงปี 2562 -2566 จาก 603.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2562 เป็น 731.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามราชธานี เผยต่อว่า จากความต้องการใช้บริการธุรกิจเอาต์ซอร์ซ รวมทั้งความสามารถในการทำธุรกิจที่มีมาอย่างยาวนานและประสบการณ์ที่บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมได้ประมาณร้อยละ 90 และมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 12 ของรายได้ ทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 บริษัทจึงมีความพร้อมที่จะขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในส่วนธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากรและธุรกิจให้เช่าและบริการ เช่น แผนเพิ่มจำนวนพนักงานที่ส่งไปปฏิบัติงานกับลูกค้าในธุรกิจจัดหาบุคลากร แผนขยายการลงทุนในธุรกิจบริการรถยนต์ให้เช่า แผนพัฒนาเทคโนโลยีระบบ Automation เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วและความง่าย ในการให้บริการลูกค้า เป็นต้น แต่ละแผนงานคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในต้นปี 2564-2566

นายณัฐพล วิมลเฉลา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจของบริษัทยังจะมุ่งเน้นขยายตลาดบริการด้านข้อมูล หรือ SO Next แบบครบวงจร เพื่อรองรับการ Transform องค์กรในรูปแบบ Digital Transformation ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในยุคปัจจุบัน ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะงาน รวมถึงระบบที่ตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยของข้อมูลตามมาตรฐาน ISO 27001 : 2013 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการความปลอดภัยด้านข้อมูล และเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัท
นายคมกฤต มีคำสัตย์ กรรมการผู้จัดการสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น กล่าวว่า ผลประกอบการ SO เติบโตและมีกำไรต่อเนื่อง โดยปี 2560 มีรายได้รวม 1,732.32 ล้านบาท กำไรสุทธิ 116.11 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 1,850.88 ล้านบาท กำไรสุทธิ 101.01 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 1,955.98 ล้านบาท กำไรสุทธิ 109.06 ล้านบาท และล่าสุดงวด 6 เดือน ของปี 2563 มีรายได้รวม 1,027.09 ล้านบาท กำไรสุทธิ 58.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 10.57และร้อยละ 22.79 ตามลำดับ
รายได้รวมสำหรับงวด 6 เดือนของปี 2563 เติบโตขึ้นมาจากธุรกิจบริการจัดหาบุคลากร ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทในสัดส่วนมากกว่า 80% ของรายได้รวมปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันลูกค้าที่เป็นหน่วยงานของภาครัฐขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 60% ของรายได้จากการประกอบธุรกิจหลักรวม เทียบจาก 3 ปีก่อนสัดส่วนลูกค้าหน่วยงานภาครัฐจะอยู่ที่ประมาณ 56% ส่วนที่เหลือเป็นลูกค้าเอกชน สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพการให้บริการเป็นที่ยอมรับของลูกค้า และมีความประสงค์จะใช้บริการจัดหาบุคลากรของบริษัทอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ SO มีนโยบายจ่ายเงินปันผลจะจ่ายไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
ปัจจุบัน SO มีทุนจดทะเบียน 310 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 310 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท มีทุนที่ออกและชำระแล้ว 225 ล้านบาท หรือ 225 ล้านหุ้น โดยมีครอบครัววิมลเฉลา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุน SO จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต รวมทั้งนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน