เผยแพร่ |
---|
สวก. โชว์สุดยอดงานวิจัยพร้อมใช้ ขับเคลื่อนภาคการเกษตร สู่การทำเกษตรอัจฉริยะ
ดร.สุวิทย์ ชัยเกียรติยศ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวว่า สวก. เป็นหน่วยงานบริหารจัดการทุนวิจัยด้านการเกษตรของประเทศ โดยเน้นการสนับสนุนทุนวิจัย ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เป็นไปตามเป้าหมาย และตัวชี้วัด (OKR) ระดับประเทศ ตามนโยบายและยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) ในโปรแกรมที่ 7 โจทย์ท้าทายด้านทรัพยากร สิ่งแวดล้อม และการเกษตร และโปรแกรมที่ 10 ยกระดับความสามารถการแข่งขันและวางรากฐานทางเศรษฐกิจ
โดยกรอบการวิจัยภายใต้แผนงาน Smart farming เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อยังคงรักษาโอกาส และความสามารถในการแข่งขันสินค้าเกษตรของประเทศไทย โดยใช้เกษตรสมัยใหม่ หรือ เกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming หรือ Intelligent Farming) เป็นการทำเกษตรโดยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย ที่มีความแม่นยำสูง เข้ามาช่วยในการทำงาน ตั้งแต่การปรับปรุงพันธุ์ ไปจนถึงกระบวนการแปรรูป
ซึ่งที่ผ่านมา สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยในด้านที่เกี่ยวข้องกับ Smart Farming อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังให้ความสำคัญในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัย จึงได้จัดกิจกรรมเผยแพร่ผลงานวิจัยสู่กลุ่มเป้าหมาย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มเกษตรกร
ผลสำเร็จของงานวิจัยที่ได้นำเสนอวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของผลงานวิจัยด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเกษตรสมัยใหม่ (Smart Farming) เพื่อส่งเสริมศักยภาพการค้าเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกร โดยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่เป็นเครื่องมือในการพัฒนาให้สามารถยกระดับเกษตรกรรายย่อย เป็นผู้ประกอบการสินค้าเกษตรได้ รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่การผลิต ประกอบด้วยภาคบรรยาย 15 โครงการ และภาคนิทรรศการไม่น้อยกว่า 15 โครงการ และยังมี ผลิตภัณฑ์ผลงานวิจัยจากหิ้งสู่ห้าง เช่น น้ำนมข้าวยาคู คอลลาเจนสกัดจากหอยเป๋าฮื้อ เครื่องสำอางจากข้าวแดง รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร จากนักเรียนทุนของ สวก. ภายใต้ โครงการทุนปริญญาตรี Smart Farmer
พร้อมทั้ง ได้จัดให้มีพิธีลงนามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิผลงานวิจัย แก่ผู้ประกอบการ จำนวน 6 บริษัท ได้แก่ 1. บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด 2. บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท มิตรผลวิจัยพัฒนาอ้อยและน้ำตาล จำกัด 4. บริษัท เซปเป้ จำกัด (มหาชน) 5. บริษัท นวมินทร์ 2019 จำกัด และ 6. บริษัท นิเคโอะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่เล็งเห็นและให้ความสำคัญ พร้อมทั้งรับถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อให้สามารถผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตรสู่การจำหน่ายเชิงพาณิชย์ สามารถเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรในการจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรในท้องถิ่น เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ทดแทนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เพิ่มทางเลือกในการบริโภคสินค้าในประเทศที่มีคุณภาพ รวมถึงการเพิ่มคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในประเทศ คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท