TGO หนุนผู้ประกอบการและภาคส่วนต่างๆ มีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจก

TGO หนุนผู้ประกอบการและภาคส่วนต่างๆ มีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจก

นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อํานวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หรือ TGO เปิดเผยผลการดำเนินงานส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจกด้วยนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือคาร์บอนเครดิตของ TGO ในปีงบประมาณ 2563 มีผู้ที่มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศและขึ้นรับเกียรติบัตรทั้งสิ้น 323 ราย โดยคาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ 3,923,930.14 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งมาจากกลไกและเครื่องมือที่ อบก. พัฒนาและส่งเสริม ดังนี้

  • กิจกรรมชดเชยคาร์บอน มีปริมาณการชดเชยคาร์บอนประเภทองค์กร ผลิตภัณฑ์ การจัดงานอีเว้นต์ และกิจกรรมส่วนบุคคล รวมทั้งสิ้น 166,136 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งกระตุ้นให้เกิดตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศโดยมีมูลค่าการซื้อขายคาร์บอนเครดิตกว่า 33 ล้านบาท
  • ฉลากคาร์บอน โดย อบก. ได้ทำการพัฒนาฉลากคาร์บอนขึ้น 3 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นต์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product : CFP) เครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์หรือฉลากลดโลกร้อน (Carbon Footprint Reduction : CFR) และฉลากคูลโหมด (CoolMode) ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในอาเซียนที่มีระบบการรับรองสอดคล้องตามหลักสากล มีผลิตภัณฑ์ที่ได้ขึ้นทะเบียนทั้ง 3 ฉลาก รวมจำนวน 596 ผลิตภัณฑ์ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1,308,240 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
  • คาร์บอนฟุตพริ้นต์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization : CFO) เป็นเครื่องมือสำคัญที่สนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำข้อมูลและรายงานปริมาณก๊าซเรือนกระจกในระดับองค์กร โดยองค์กรภาครัฐและอุตสาหกรรมที่ผ่านการรับรองปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรจำนวน 170 องค์กร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 34 แห่ง มีปริมาณที่คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน (อุตสาหกรรมและบริการ) โดยพิจารณาจากแนวทาง/แผนการลดก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะลดลงได้ 454,417.14 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
  • โครงการ การพัฒนาแนวทางลดก๊าซเรือนกระจกระดับจังหวัด” เป็นการส่งเสริมให้มีการจัดทำข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับจังหวัดและจัดทำแผนหรือแนวทางการบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับจังหวัด ซึ่งจากการประเมินศักยภาพการลดก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะลดได้จากกิจกรรม/แผนงาน/โครงการลดก๊าซเรือนกระจก ภายในขอบเขตจังหวัด พบว่า ตามแผนหรือแนวทางดังกล่าวของ 5 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ เชียงใหม่ นครราชสีมา สุพรรณบุรี และอุทัยธานี คาดว่าจะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 440,667 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
  • โครงการ “สนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก” (Low Emission Support Scheme : LESS) มี 173 หน่วยงานหลักที่ได้รับการรับรอง รวมจำนวน 242 กิจกรรม สามารถลดหรือกักเก็บปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ 840,269 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
  • โครงการ “ลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย” (Thailand Voluntary Emission Reduction Program : T-VER) หรือ โครงการ T-VER มีโครงการที่ขึ้นทะเบียนทั้งสิ้น 29 โครงการ โดยมีปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะลดได้รวมกัน 714,201 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และในจำนวนนี้มีโครงการที่ได้ผ่านการรับรองปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจก (TVERs) หรือที่เรียกว่า “คาร์บอนเครดิต” จำนวน 23 โครงการ คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 568,063 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า