Big C ผนึก กรมการค้าภายใน-กระทรวงพาณิชย์  จัดแคมเปญ ข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทยฯ ครั้งที่ 12 ลดค่าครองชีพผู้บริโภค

Big C –  บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จับมือกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สานต่อแคมเปญ “ข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทย ที่บิ๊กซี” ครั้งที่ 12 ช่วยผู้บริโภคลดค่าครองชีพ พร้อมนำเสนอโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษจากข้าวถุงแบรนด์ชั้นนำ 11 ราย วางเป้าหมายยอดขายครั้งนี้ เติบโต 20% จากปีก่อน

นายสุชาติ สินรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ นายวิชัย เบญญาดิลก รองประธานฝ่ายจัดซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดตัวแคมเปญ “ข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทย ที่บิ๊กซี” ครั้งที่ 12 ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด “ข้าวท้องถิ่นไทย” เพื่อนำเสนอสินค้าข้าวถุงราคาพิเศษจากแบรนด์ต่างๆ และช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภคทั่วประเทศ ทำให้ได้สินค้าคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า ถือเป็นการตอบแทนลูกค้าบิ๊กซี ภายใต้หลักการดำเนินงาน “ห้างคนไทย หัวใจคือลูกค้า” ตลอดจนสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจข้าวถุงของกลุ่มผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยแคมเปญดังกล่าวจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 25 มีนาคม 2563 ที่บิ๊กซี

นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ มุ่งหวังช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะสินค้าข้าวสารถุงที่เป็นสินค้าบริโภคที่สำคัญ ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นการดูแลราคาสินค้า ปริมาณสินค้าและบริการ ภาระค่าครองชีพ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นธรรม รวมถึงดูแลราคาสินค้าเกษตรให้มีเสถียรภาพและสร้างความมั่นคงด้านรายได้ให้เกษตรกร

“นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่เรามีส่วนส่งเสริมข้าวปลอดสาร คุณภาพดี จากเกษตรกร มานำเสนอให้ผู้บริโภคโดยตรง นับเป็นการสนับสนุนให้คนไทย กินของไทย ซื้อของไทย ใช้ของไทย และส่งเสริมภาคการเกษตร อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพ ให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวไทยด้วยกัน” นายสุชาติ กล่าว

นายวิชัย กล่าวเสริมว่า “การจัดแคมเปญ  “ข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทยที่บิ๊กซี” ครั้งที่ 12 ประจำปี 2563” ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่ดีระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และบริษัทผู้ผลิตข้าว ที่ได้ร่วมกันจัดข้าวคุณภาพสูงในราคาลดจากปกติ พร้อมสินค้าแถม โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบแทนลูกค้าบิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศ เนื่องจากข้าวเป็นอาหารหลักในชีวิตประจำวัน จึงคาดว่าจะช่วยผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายจากการซื้อข้าวที่บิ๊กซี รวมถึงคาดว่าการจัดแคมเปญดังกล่าว ครั้งที่ 12 นี้ จะช่วยสนับสนุนเกษตรกรด้วยการกระตุ้นการจับจ่ายข้าวสารในประเทศในช่วงที่จัดงาน เติบโตจากปีก่อน 20%

บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ได้รวบรวมผู้ผลิตข้าวถุงแบรนด์ชั้นนำ จำนวนทั้งสิ้น 11 ราย มาร่วมจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ แบ่งเป็น ข้าวสารถุงคุณภาพเยี่ยมจากผู้ผลิต 8 ราย คือ ข้าวถุงบิ๊กซีแบรนด์ ข้าวถุงเบญจรงค์ ข้าวถุงตราฉัตร ข้าวถุงหงษ์ทอง ข้าวถุงปิ่นเงิน ข้าวถุงแสนดี ข้าวถุงมาบุญครอง และข้าวถุงพันดี รวมถึงข้าวทางเลือกเพื่อสุขภาพอีก 3 ราย คือ ข้าวขันทอง ข้าวรักจัง ข้าวสยามปราณา

สำหรับตลาดข้าวถุงบริโภคในประเทศในปี 2562 มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท และคาดการณ์ราคาข้าวถุง ปี 2563 ปรับราคาเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็นห้างค้าปลีกจำหน่ายข้าวถุงราคาคุ้มค่าต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 บิ๊กซี ยังคงมุ่งมั่นจำหน่ายข้าวคุณภาพดี ราคาคุ้มค่า รวมถึงนำเสนอข้าวทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ได้รับซื้อจากเกษตรกรผู้ผลิตข้าวปลอดสาร และข้าวอินทรีย์ พร้อมจำหน่ายให้แก่ลูกค้าที่สนใจ อาทิ ข้าวขันทองโดยธรรมธุรกิจ ข้าวอินทรีย์รักจัง ข้าวดอยอินทรีย์สยามปราณา

ทั้งนี้ ได้จัดทำโปรโมชั่นสุดพิเศษ เมื่อซื้อข้าวสารถุงทุกยี่ห้อชนิดใดขนาดใดก็ได้ ครบ 550 บาทขึ้นไป ที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า และบิ๊กซี มาร์เก็ต รับฟรีคูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จ มูลค่า 150 บาท เพื่อใช้เป็นส่วนลดซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร่วมรายการ และมีเงื่อนไขตามที่ระบุไว้บนคูปองเพื่อใช้ในครั้งถัดไป

นอกจากนี้ พิเศษอีก 3 ต่อ เมื่อลูกค้าซื้อข้าวสารถุงทุกยี่ห้อ 599 บาทขึ้นไป ต่อที่ 1 รับสิทธิ์แลกซื้อดับเบิ้ลล็อกชุดกล่อง 5 ชิ้น มูลค่า 299 บาท ในราคา 149 บาท ต่อที่ 2 นำใบเสร็จมาลุ้นรับทริป “บิ๊กซีเที่ยววิถีข้าวไทย” พร้อมรับพลังบวก พบกับแขกรับเชิญสุดพิเศษ อ.คฑา ชินบัญชร ณ ฟาร์มข้าวฐานธรรมสันป่าตอง จ.เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน มูลค่า 30,000 บาท ต่อที่ 3 ภายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2563 รับฟรี มรกตน้ำมันถั่วเหลือง ขนาด 1 ลิตร จำนวน 2 ขวด เพิ่มเติมจากคูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จ ทั้งยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าสุดพิเศษจากผู้ประกอบการข้าวถุงทั้ง 11 ราย ที่ร่วมจัดบู๊ธกิจกรรมให้ร่วมสนุกและลุ้นรับรางวัลต่างๆ ภายในงานที่บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า แจ้งวัฒนะ ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม 2563