“พริกทอด” สแน็กนำเข้าจากจีน ส่งต่อความฮิตจนคนไทยทำขายเอง

“พริกทอด” สแน็กนำเข้าจากจีน ส่งต่อความฮิตจนคนไทยทำขายเอง

กลายเป็นขนมกินเล่น เเละอาหารว่างสุดฮิตไปซะแล้ว สำหรับ “พริกทอด” ซึ่งเดิมทีเป็นสแน็กนำเข้าจากประเทศจีน ปัจจุบันส่งต่อความฮิตจนผู้ประกอบการไทยทำจำหน่ายเองมากมาย 

คุณอุทัย รุ่งคำ เจ้าของฟาร์มเห็ด ที่ต่อยอดวัตถุดิบธรรมชาติ ด้วยการเเปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เห็ดปรุงรส และพริกทอดกรอบรสต้มยำ แบรนด์ว่า “เอิบอิ่ม” (erb-im)



คุณอุทัย เล่าว่า ทำฟาร์มเห็ดมานานกว่า 10 ปี โดยเห็ดที่เพาะ มีชื่อว่า “เห็ดขอน” มีคุณค่าทางอาหารสูง และเป็นเห็ดที่มีราคาค่อนข้างเเพง จำหน่ายกิโลกรัมละ 100 บาท 
กระทั่ง 3 ปีที่ผ่านมา ได้นำเห็ดขอน มาแปรรูปในรูปแบบของสแน็กทานเล่น มี 2 รูปแบบ คือ เเบกระปุก และ แบบซอง  ขนาด 10 กรัม ราคาซองละ 25 บาท วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ในส่วนของพริกทอดนั้น เป็นเมนูใหม่ที่ทางโรงงานผลิตออกมาจำหน่ายเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา มีด้วยกัน 3 รสชาติ คือ รสต้นตำรับ รสต้มยำ พริกกรอบผสมเห็ด

สำหรับขั้นตอนการทำพริกทอดกรอบ คล้ายคลึงกับการทำเห็ดปรุงรส คุณอุทัย บอกว่า

  1. นำพริกแห้งแกะเอาเมล็ด หรือไส้ในพริกออกบางส่วน จากนั้นนำไปทอด

2.  นำมาผ่านกระบวนการอบ เพื่อไล่น้ำมันออก จากนั้นปรุงรสชาติตามที่ต้องการ 

“เราเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพที่ต้องการสแน็กที่ดีต่อสุขภาพ เพราะพริกทอดกรอบ มีการอบเพื่อไล่น้ำมัน กินได้โดยไม่ต้องห่วงว่าจะได้รับไขมันมากเกินไป ปัจจุบันลูกค้าที่หันมากินพริกทอดกรอบ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงเพราะเชื่องานวิจัยว่า กินพริกจะช่วยลดน้ำหนัก”

ในส่วนของพริกที่ใช้ คุณอุทัย เลือกใช้พริกขี้หนูแห้งเม็ดใหญ่ แต่ละวันใช้พริกไม่ต่ำกว่า 50 กิโลกรัม พริกสั่งซื้อจากพ่อค้าในตลาด ที่ทำส่งขายทั่วไปอยู่แล้ว ส่วนเห็ดขอน เห็ดนางฟ้า ปัจจุบันใช้ วันละ 200-300 กิโลกรัม มาจากเห็ดที่เพาะเอง 30 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือรับซื้อจากเกษตรกร ที่จังหวัดศรีสะเกษ

ด้านการตลาด ปัจจุบันพริกทอดกรอบเอิบอิ่ม ส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศแล้ว อาทิ อินเดีย สหรัฐอเมริกา กัมพูชา จีน ฯลฯ โดยเฉพาะตลาดประเทศจีนลูกค้าตอบรับดีมาก เนื่องจากมีรสชาติต้มยำ เพราะคนจีนชอบเครื่องต้มยำ ในแต่ละวันยอดขายพริกกรอบของเอิบอิ่ม ขายได้วันละประมาณ 500 กระปุก แบ่งเป็นจำหน่ายปลีก 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือการขายส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้ารับไปจำหน่ายต่อ