เบทาโกร รุกตลาดส่งออก ตั้งเป้ายอดขายธุรกิจอาหารโต 15%

เบทาโกร รุกตลาดส่งออก ตั้งเป้ายอดขายธุรกิจอาหารโต 15%

เบทาโกร หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมอาหาร ลั่นเดินหน้ายกระดับคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหารเต็มรูปแบบ ชูผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปพร้อมรับประทาน ที่หลากหลายมากกว่า 1,000 รายการ ด้วยกำลังการผลิต 8,000 ตัน ต่อปี จาก Betagro Central Kitchen นวนคร ตอบโจทย์ผู้บริโภคในสังคมเมืองที่ต้องการความสะดวก อร่อย หลากหลาย และมีคุณภาพ พร้อมรุกตลาดส่งออกด้วยสินค้าคุณภาพ ปลอดภัยระดับพรีเมี่ยม ที่ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ฮอร์โมน และสารเร่งเนื้อแดงในกระบวนการผลิต และขยายกำลังการผลิตไก่ปรุงสุก ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น

นายสมศักดิ์ บุญลาภ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจอาหาร เครือเบทาโกร เปิดเผยว่า ในปีนี้ เบทาโกรยังมุ่งมั่นสร้างการรับรู้และความเข้าใจเพื่อหวังให้ผู้บริโภคตระหนักและหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ผ่านแคมเปญ ‘เลือกกิน ให้อนาคต’ ตอกย้ำผลิตภัณฑ์เอสเพียว ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะในขั้นตอนการเลี้ยงตั้งแต่วันแรก หรือ RWA (Raised Without Antibiotics) รับรองโดย NSF เป็นรายแรกของโลก ส่งผลให้ภาพรวมตลาดอาหารสดหมู ไก่ ไข่ ภายใต้แบรนด์เอสเพียวในปี 2561 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 17% ในขณะที่ตลาดสินค้าพรีเมี่ยมเติบโต 10% ถือเป็นสินค้าสำคัญที่ช่วยเปิดตลาดส่งออกอาหารไปยังกลุ่มตะวันออกกลางและตลาดยุโรป ในรูปแบบ OEM และภายใต้ตราสินค้าเอสเพียว ไปยังประเทศฮ่องกงอีกด้วย ส่งผลให้ยอดส่งออกเบทาโกรเพิ่มขึ้น 14% ในขณะที่การส่งออกโดยรวมของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเพียง 11%

ในส่วนของทิศทางธุรกิจของเบทาโกรในปี 2562 นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เบทาโกมีกิจกรรมหลัก 4 กิจกรรม โดยกิจกรรมแรก เป็นการเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จจากแคมเปญ ไส้กรอกรมควันในปีที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อแคมเปญใหม่ ‘ไส้กรอกเบทาโกร ชีส ซีรีส์ ความอร่อยที่ใครก็หยุดไม่ได้’ โดยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ไส้กรอกชีส 6 รสชาติ 6 สไตล์ เพื่อให้สอดรับกับกระแสความต้องการของตลาด ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบชีส และไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของอาหาร

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าพรีเมี่ยมแบรนด์เอสเพียว จึงออกผลิตภัณฑ์ไส้กรอกพรีเมี่ยมสไตล์โฮมเมดที่ผลิตจากเนื้อหมูเอสเพียว เอาใจกลุ่มผู้บริโภคที่ใสใจในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้ตนเองหรือครอบครัว โดยเริ่มวางจำหน่าย 6 สาขา ได้แก่ ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, สยามพารากอน, เดอะมอลล์ บางแค, เซ็นทรัล ชิดลม และเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า รวมทั้งตั้งเป้าขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าเอสเพียวผ่าน Antibiotic Free Zone ในร้าน BETAGRO Shop กว่า 49 สาขา และผลักดันสู่ทุกสาขาของร้าน BETAGRO Shop ทั่วประเทศ ในปี 2020

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปของเบทาโกรถือครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 15% มูลค่าราว 4,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโต 15% โดยแนวโน้มตลาดส่งออกของปี 2562 เป็นไปในทิศทางที่ดี เบทาโกรตั้งเป้าปริมาณการส่งออกทั้งหมดในปีนี้ กว่า 97,580 ตัน ตั้งเป้าเติบโต 12% ในปีนี้ โดยผลิตภัณฑ์หลักยังคงเป็นไก่ปรุงสุกแช่แข็ง และไก่สดแช่แข็ง ซึ่งในปีนี้ยังคงเน้นการทำตลาดสินค้าไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ (RWA) ทั้งภายใต้แบรนด์เอสเพียว และ OEM ไปยังตลาดเอเชีย ได้แก่ ประเทศ ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และยุโรป ในกลุ่มสแกนดิเนเวีย อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีโครงการขยายกำลังการผลิตสินค้าไก่ปรุงสุกเพิ่มขึ้นอีกปีละ 3,000 ตัน เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นซึ่งมีความต้องการสินค้าจากประเทศไทยมากขึ้น