อดีตแอร์โฮสเตสสาวโบกมือลาอาชีพนางฟ้า เปิดคาเฟ่สุนัขสายพันธุ์คอร์กี้ ตูบขาสั้น หูยาว ตัวเล็ก ตูดส่าย เเต่ความน่ารักเกินร้อย ขโมยหัวใจคนรักสัตว์ได้ง่ายๆ หนึ่งเดียวในไทย คนรักตูบแห่เข้า ดังไกลลูกค้าต่างชาติแห่ตีตั๋วข้ามมาสัมผัส

“เส้นทางเศรษฐี” พาไปรู้จักกับ คอร์กี้ อิน เดอะ การ์เด้น (corgi in the garden) – คาเฟ่สุนัขคอร์กี้ ที่มีเจ้าหมาขาสั้นสุดน่ารักถึง 12 ตัว เจ้าของคือ คุณปุ๊ – ธันย์ชนก คณาวงษ์ วัย 36 ปี ศิษย์เก่าคณะมนุษยศาสตร์ มศว. อดีตแอร์โฮสเตสสาว

คุณปุ๊ เล่าอย่างเป็นกันเองว่า ก่อนหน้านี้เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ทำงานได้ประมาณ 10 ปี ลาออกไปเปิดโรงแรมสุนัขอยู่ที่บ้าน บริหารกิจการได้ 3 ปี ต่อยอดธุรกิจ ทำคาเฟ่สุนัข ที่รู้จักกันในชื่อ คอร์กี้ อิน เดอะ การ์เด้น (corgi in the garden) เป็นพื้นที่แห่งความสุขที่อยากแบ่งปันให้กับผู้อื่น เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา

สำหรับจุดเด่นของ คอร์กี้ อิน เดอะ การ์เด้น คือ สุนัขสายพันธุ์คอร์กี้ 12 ตัว มาอวดโฉมความน่ารัก และแสนรู้ ให้หัวใจละลายกันไปข้าง ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเครื่องดื่มเย็นๆ 27 เมนูให้เลือกสรร และเค้กแสนอร่อยละมุนลิ้นให้ทานระหว่างเล่นกับน้องหมาอีกด้วย

 

“แม้ลูกค้าที่มาจะตั้งใจมาเล่นกับน้องหมาเป็นหลัก แต่ในส่วนของขนมและเครื่องดื่ม ร้านตั้งใจทำทุกแก้ว เราอยากเสิร์ฟสิ่งที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า สูตรที่ใช้ทางร้านคิดค้นขึ้นเอง รับรองว่าอร่อยไม่แพ้ร้านไหนแน่นอน” คุณปุ๊ กล่าว

ด้วยพื้นที่ภายในร้านมีขนาดจำกัด ทำให้แต่ละวันจะเปิดบริการเพียง 4 รอบเท่านั้น รอบแรก เวลา 10.30-11.30 น. (เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์) รอบที่สอง 12.30-13.30 น. รอบที่สาม 14.30-15.30 น. และรอบสุดท้าย 16.30-17.30 น. หยุดเฉพาะวันจันทร์ โดยในหนึ่งรอบ ลูกค้าสามารถเข้าได้ประมาณ 50 คน

สังเกตว่าก่อนเข้ารอบถัดไป จะมีช่วงพักประมาณ 1 ชั่วโมง คุณธันย์ชนก ให้เหตุผลว่า ต้องทิ้งช่วงพักไว้ เพื่อทำความสะอาดร้าน และให้น้องหมาได้มีเวลาพัก เพราะหากอยู่ในคาเฟ่นานทั้งวัน จะเกิดความอึดอัดและเครียดได้

ด้านค่าบริการมี 2 ราคา เริ่มต้นที่ 250 บาท สามารถเลือกเครื่องดื่มได้ 1 แก้ว ส่วน 350 บาท จะได้เครื่องดื่ม 1 แก้ว และเค้กได้ 1 ชิ้น

ถามถึงวิธีการดูแลคาเฟ่สุนัข คุณปุ๊ ระบุว่า สิ่งแรกที่ต้องควบคุมให้ได้ คือ พฤติกรรมของน้องหมา มีบางครั้งที่ดื้อหรือซนไปบ้าง แต่สุนัขทุกตัวในร้านได้รับการฝึกมาแล้ว มั่นใจได้แน่นอนว่าจะเป็นมิตร ไม่กัด และเชื่อฟังคำสั่ง ยิ่งให้ขนม จะยิ่งเชื่อฟังเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ ยังต้องควบคุมปริมาณการกินของสุนัขในแต่ละวัน โดยให้อาหารหลักตอนเช้า 50% และให้ทานขนมในร้านอีก 30% เพราะฉะนั้น ในหนึ่งวันน้องหมาจะได้ทานไม่เกิน 2 กิโลกรัมแน่นอน ที่สำคัญ ยังต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ ช่วงพักทุกรอบจะมีการกวาด ถู เก็บโต๊ะ ดูดขนสุนัข พร้อมดับกลิ่น

“ลูกค้าที่มาใช้บริการต้องทำตามกฎของร้านอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของน้องหมา ได้แก่ 1. ห้ามนำสัตว์ทุกชนิดเข้ามาในร้าน 2. ห้ามใช้แฟลตถ่ายรูป 3. ล้างมือให้สะอาดและสวมที่ครอบเท้าก่อนเข้าร้าน 4. ห้ามอุ้มสุนัขโดยไม่มีพนักงานดูแล 5. ในกรณีที่สุนัขทะเลาะกัน ควรออกห่าง เพื่อให้พนักงานเข้ามาดูแล”

สำหรับลูกค้าที่เข้ามาคาเฟ่แห่งนี้ คุณปุ๊ กล่าวว่า มีทุกเพศทุกวัย ทั้งชาวไทยและต่างชาติ อาทิ ออสเตรเลีย อเมริกา อังกฤษ จีน ไต้หวัน เรียกได้ว่าดังไกลข้ามประเทศ แม้จะเปิดตัวได้ไม่นานก็ตาม

อย่างไรก็ตาม แม้จะได้ผลตอบรับดีมาก แต่คุณปุ๊ยังไม่มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มเติม เพราะต้องการรักษามาตรฐานคุณภาพที่ดี ของการบริการ อาหาร เครื่องดื่ม และดูแลสุนัขให้ดีที่สุดก่อน

ด้านปัญหาและอุปสรรค เจ้าของกิจการ กล่าวว่า ตอนนี้ขาดกำลังคนในการทำงาน เพราะกว่าจะอบรมพนักงานให้ได้มาตรฐานต้องใช้เวลาพอสมควร และในทุกวันอาทิตย์ จะมีคุณครูมาเทรนสุนัขอีกด้วย

  

สำหรับหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ คุณธันย์ชนกกล่าวว่า ต้องให้บริการอย่างเต็มที่ เมื่อลูกค้าเข้ามาในคาเฟ่แล้ว จะต้องได้รับบริการอย่างครบครัน คุ้มกับเงินที่จ่ายมา ที่สำคัญต้องมีความสุขในการทำ

ก่อนจบบทสนทนา คุณปุ๊ทิ้งท้ายเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า “คาเฟ่นี้ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ทำเพราะเป็นความสุขด้วยเช่นกัน ดิฉันถือคติว่าเงินและความสุขควรมีควบคู่กันไป หากทำงานที่ได้เงินเยอะ แล้วไม่มีความสุขก็ไม่ทำ แต่ถ้าทำแล้วได้แต่ความสุข ไม่ได้เงิน ก็อยู่ไม่ได้อีกเช่นกัน”

สนใจถามเพิ่มเติมได้ที่ facebook : Corgi in the Garden คาเฟ่หมาคอร์กี้ หรือโทรศัพท์ ( 062) 865-6156