นันยาง โตสุดรอบ 5 ปี ครองส่วนแบ่งตลาด 43 % เตรียมเพิ่มกำลังผลิต 25% รับเปิดเทอม

นันยาง โตสุดรอบ 5 ปี ครองส่วนแบ่งตลาด 43 % เตรียมเพิ่มกำลังผลิต 25% รับเปิดเทอม

นายจักรพล จันทวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขาย บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการเติบโตของนันยางในปี 2561 มีอัตราการเติบโตที่ 10% เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2560 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้แต่เดิมที่ 7% ถือเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้นันยางสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดด้านธุรกิจรองเท้านักเรียนของไทยได้ต่อเนื่อง ปัจจุบันนันยางมีส่วนแบ่งการตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนประมาณ 43%

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตเกิดจากกระแสการตอบรับที่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค รวมถึงความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของนันยางที่มีครอบคลุมทั้งสินค้าหลัก และสินค้าใหม่ที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม นอกจากนี้ รองเท้าผ้าใบนันยางยังสามารถขยายฐานไปสู่กลุ่มคนทำงานได้มากขึ้น ทั้งในกลุ่มผู้ที่ทำงานกลางแจ้งและทำงานในสถานประกอบการ

นายจักรพล กล่าวต่อว่า อีกประเด็นสำคัญที่ทำให้นันยางมีอัตราการเติบโตสูงในปีที่ผ่านมา เนื่องจากการส่งออกที่มากขึ้นจากการทำตลาดต่างประเทศ ผ่านกีฬาเซปักตะกร้อ อีกด้วย ปัจจุบันรองเท้านันยางกระจายในช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างครอบคลุม ประกอบด้วย Traditional Trade  75%, Modern Trade 20% และ Online 5% ซึ่งช่องทางนี้ถือเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตอย่างมาก นันยาง จึงมุ่งเน้นขยายช่องทางผ่าน Online marketplace เช่น Shopee, Lazada, e-Trailers และ Social commerce ร้านค้าที่มีหน้าร้านบน facebook และ IG

โดยในปี 2562 ตั้งเป้าหมายการเติบโตอยู่ที่ 5-7% โดยใช้งบประมาณการตลาด 60 ล้านบาท ปัจจุบันตลาดรวมของรองเท้านักเรียนมีมูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรองเท้าผ้าใบ 60%, รองเท้าหนังดำสำหรับนักเรียนหญิง 35% และรองเท้าอื่นๆ 5%

ด้านนายชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด กล่าวถึงแผนในการวางกลยุทธ์ด้านการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตว่า ระหว่างเดือนเมษายน – พฤษภาคมของทุกปี ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของรองเท้าผ้าใบนันยางสำหรับนักเรียน เพราะเป็นช่วงก่อนเปิดเทอมใหม่ ที่โดยปกติจะสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 70 – 80% ของยอดขายทั้งปี ทำให้โรงงานที่ดำเนินการโดย นันยางอุตสาหกรรมปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 25% และกำลังการจัดส่งกระจายสินค้า 40% จากช่วงเวลาปกติ เพื่อรองรับความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครองทั่วประเทศ

ด้านสื่อสารการตลาดของนันยาง จะเน้นการสื่อสารที่หลากหลายแต่เฉพาะกลุ่มเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงและมากที่สุด โดยในปีนี้ภาพรวมของนันยางต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มนักเรียน “เด็กกลางห้อง” ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นและยังค้นหาตัวเองไม่เจอ ผ่านแคมเปญ “คนกลางๆ อย่างฉัน” นำโดยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่และเป็นครั้งแรกที่ทำตลาดใน Twitter เพิ่มเติมจาก Facebook Instagram และ YouTube ตามด้วยการแนะนำรองเท้านันยางรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรม NANYANG U Challenge ที่จะท้าคนไทยทั้งประเทศให้สร้างสรรค์และออกแบบรองเท้านันยาง Limited Edition ในแบบตัวเองที่ไม่เหมือนใครในการเปิดเทอมใหม่

และเพื่อต้อนรับเปิดเทอมในปีนี้  นันยางได้ตัดสินใจขยายสายการผลิตรองเท้าผ้าใบแบรนด์ใหม่ชื่อ  “ซุปเปอร์สตาร์”  เป็นสินค้าราคาประหยัด คุณภาพดี ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 249 บาท ใช้กรรมวิธีผลิตจากหลักการ  Zero-Waste  คือการนำยางพารา 100% ที่เหลือจากกระบวนการผลิตรองเท้านันยาง นำมา Reprocess  ทำให้ได้วัตถุดิบ (ส่วนพื้น)   คุณภาพดีมาก  และลดการสร้างขยะออกจากโรงงาน โดยตั้งเป้าการผลิตอยู่ที่ 50,000 คู่ต่อปี