“ข้าวตราฉัตรไลท์” เปิดตัวหนังโฆษณาใหม่ ในคอนเซปต์ “ทานเท่าเดิม น้ำตาลน้อยลง”

ข้าวตราฉัตร ผนึกพันธมิตรเกษตรกรสมาชิก ภายใต้โครงการส่งเสริมการปลูกข้าว กข 43 กว่า 2,500 ราย เขย่าตลาดปลุกกระแสคนรักสุขภาพ ด้วยการส่งผลิตภัณฑ์น้องใหม่ ข้าวเพื่อสุขภาพ “ข้าวตราฉัตรไลท์” สู่ตลาดผู้บริโภคทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวหนังโฆษณา ชุด “Rice Is Happiness” ชวนคนไทยสนุกกับการกิน เพิ่มความสุขให้คนกินข้าว กินข้าวได้ไม่ต้องกลัว ในคอนเซปต์ “ทานเท่าเดิม น้ำตาลน้อยลง”

นายยงยุทธ พฤกษ์มหาดำรง รองกรรมการผู้จัดการ ดูแลธุรกิจข้าวภายในประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การบริโภคของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไป มีการเลือกซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ข้าวตราฉัตรเล็งเห็นโอกาสทางการตลาด ปลุกกระแสคนรักสุขภาพ ด้วยการส่งผลิตภัณฑ์น้องใหม่ ข้าวเพื่อสุขภาพ สู่ตลาดผู้บริโภคทั่วประเทศ

“ข้าวตราฉัตรไลท์” ข้าวเพื่อสุขภาพ กข43 เป็นข้าวดัชนีน้ำตาลปานกลางค่อนไปทางต่ำ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ หรือคนที่ต้องการลดปริมาณน้ำตาลจากข้าวและอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ เมื่อทานข้าวเข้าไปแล้ว แป้งจะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลได้ช้าลง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และช่วยให้อิ่มนานขึ้น

นอกจากนั้น ยังเปิดตัวหนังโฆษณา ชุด “Rice Is Happiness” ชวนคนไทยให้สนุกกับการกิน เพิ่มความสุขให้คนกินข้าว กินข้าวได้ไม่ต้องกลัว ในคอนเซปต์ “ทานเท่าเดิม น้ำตาลน้อยลง” ซึ่งหนังโฆษณา คือส่วนหนึ่งในแผนการตลาดส่งเสริมการขายข้าวตราฉัตรไลท์ บริษัทฯ ยังมีการวางกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้และตระหนักถึงการมีสุขภาพดี เริ่มต้นจากการบริโภคในชีวิตประจำวัน ผ่านสื่อผสมผสาน เพื่อสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจงมากขึ้น อีกทั้งยังมีช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค ผ่านห้างสรรพสินค้า ตัวแทนจำหน่าย

รวมถึงการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ คาดว่าปิดสิ้นปี 62 ยอดจำหน่ายข้าวตราฉัตรไลท์ทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่าจำนวน 250 ล้านบาท ในตลาดข้าวเพื่อสุขภาพ อีกทั้งทุ่มงบ 15 ล้านบาท เปิดกลยุทธ์ Sport Marketing Platform และส่งมอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพน้องใหม่ “ข้าวตราฉัตรไลท์” เข้าไปให้กับกองทัพนักกีฬาไทย เพื่อสร้างเสริมโภชนาการ มีสุขภาพที่ดี ซึ่งนักกีฬาถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของข้าวตราฉัตรไลท์ และหนึ่งในตัวอย่างผู้บริโภคข้าวตราฉัตรไลท์ที่มีการเห็นผลได้ชัดเจน

นายไตรรัตน์ อุดมศรีโยธิน รองกรรมการผู้จัดการ งานพัฒนาวัตถุดิบต้นน้ำ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกข้าว กข 43 ร่วมกับกรมการข้าว และเชื่อมโยงการตลาด ร่วมกับกรมการค้าภายใน ผ่านสหกรณ์และเครือข่ายเกษตรกรสมาชิกกว่า 2,500 ราย ในเขตพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก และพื้นที่อื่นๆ รวมพื้นทั้งหมด 50,000 ไร่ โครงการฯ ดังกล่าว จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องเกษตรกรสมาชิก ผู้ปลูกข้าวเพื่อสุขภาพ “ข้าวตราฉัตรไลท์”

โดยบริษัทฯ จะรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรสมาชิกในโครงการฯ 100% ด้วยประกันราคาขั้นต่ำ 12,000 บาทต่อตัน (ความชื้นที่ 15%) จากเกษตรกรสมาชิกทุกราย ทำให้มั่นใจได้ว่า ผลผลิตที่ออกมามีตลาดรองรับที่แน่นอน ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่คอยดูแลและให้คำแนะนำ ตลอดช่วงกระบวนการผลิต และเทคโนโลยีระบบ laser land leveling ปรับระดับพื้นที่แปลงนา เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดความเสียหาย ทำให้เกษตรกรสมาชิกได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และยังเป็นการลดต้นทุนอีกด้วย

อีกทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมการข้าว เรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวแท้ ที่ใช้ในกระบวนการปลูก นี่คือจุดแข็งของข้าวตราฉัตรไลท์ เพราะเราปลูกเอง จึงทำให้เราแตกต่างจากข้าวแบรนด์อื่นๆ นอกจากจะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมีรายได้ที่มั่นคงแล้ว ยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ว่าจะได้รับประทานข้าวที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอนการผลิต

ด้านเกษตรกรที่ร่วมโครงการปลูกข้าว กข 43 อย่าง นางสวณีย์ โพธิ์รัง ตัวแทนเกษตรกรสมาชิก อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ตนเป็นคนกล้าลองกล้าลุยสิ่งใหม่ๆ และเคยปลูกข้าว กข 43 มาก่อน แต่เป็นการปลูกทดลอง เพราะตอนนั้นไม่มีแหล่งตลาดรับซื้อ ภายหลังจากที่ภาคเอกชนได้เข้ามาแนะนำและเชิญเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการปลูกข้าว กข 43 จึงตอบรับเข้าร่วมไม่ยาก

อีกทั้งบริษัทฯ ตอบโจทย์ในสิ่งที่ตนต้องการ คือ เป็นแหล่งตลาดรับซื้อวัตถุดิบทั้งหมดจากเกษตรกรสมาชิก 100% ตามประกันราคาที่ตกลงไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งรอบแรกที่ปลูกในพื้นที่ส่งเสริมฯ คือ รอบฤดูนาปี 61 จำนวนพื้นที่ 34 ไร่ ผลผลิตที่ได้ จำนวน 850 กก./ไร่ และรอบปัจจุบันถือเป็นการปลูกข้าว กข43 ครั้งที่ 2 คือ รอบฤดูนาปรัง 62 เพิ่มพื้นที่ปลูกเป็น จำนวน 55 ไร่

“การเป็นเกษตรกร ถ้าผลิตอย่างเดียวแล้วไม่มีตลาดรองรับ ก็เหมือนทำไปเปล่าๆ ไม่เห็นปลายทาง แต่ถ้าเราทำแล้วมีตลาด มันก็มีที่ขาย แล้วยิ่งมาปลูกข้าว กข 43 กับทางบริษัท แถมยังมีการประกันราคาที่แน่นอน มีกำไรเหลือกิน เราก็เห็นปลายทางในสิ่งที่ทำอยู่ คุณภาพชีวิตเราก็ดีขึ้น” คุณสวณีย์ กล่าว

สามารถรับชมหนังโฆษณา ชุด “Rice Is Happiness” ได้ที่ Facebook : ตราฉัตร Family หรือ Youtube : ข้าวตราฉัตร KhaoTraChat