กปภ. แก้ปัญหาภัยแล้ง เปิดใช้ “ระบบส่งน้ำจืดผ่านท่อใต้ทะเล เข้าสู่เกาะสมุย”

“ระบบส่งน้ำจืดผ่านท่อใต้ทะเล เข้าสู่เกาะสมุย”
“ระบบส่งน้ำจืดผ่านท่อใต้ทะเล เข้าสู่เกาะสมุย”

กปภ. แก้ปัญหาภัยแล้ง เปิดใช้ระบบส่งน้ำจืดผ่านท่อใต้ทะเล เข้าสู่เกาะสมุย

เมื่อไม่กี่ปีก่อน เกาะสมุย แหล่งทรัพยากรธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่สร้างรายได้ให้ทางจังหวัดได้มากถึงปีละประมาณ 5.7 หมื่นล้านบาท ได้ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำประปา น้ำในพรุที่เคยเป็นแหล่งกักเก็บตามธรรมชาติและเป็นแหล่งน้ำวัตถุดิบในการผลิตน้ำได้เหือดแห้ง ด้วยเหตุผลด้านพื้นที่ที่มีขนาดเพียง 250 ตร.กม. สภาพภูมิประเทศเป็นเกาะ จึงมีน้ำจืดในปริมาณจำกัด ประกอบกับสภาวะโลกร้อน ประชาชนในพื้นที่ต้องแก้ปัญหาด้วยการซื้อน้ำในประปาใช้ในราคาคิวละ 60-70 บาท

จากปัญหาดังกล่าวการประปาส่วนภูมิภาคหรือ กปภ. ในฐานะหน่วยงานสำคัญด้านการผลิตและให้บริการเกี่ยวกับน้ำประปาในเกือบทุกพื้นที่ของประเทศไทย ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลขององค์การอนามัยโลก และมีปริมาณเพียงพอต่อประชาชน ได้ร่วมมือกับจังหวัดสุราษฎร์ธานีในการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด เช่น ปรับปรุงขยายแหล่งน้ำดิบสำรองให้สามารถกักเก็บน้ำดิบได้มากขึ้น ควบคู่กับติดตั้งระบบผลิตน้ำแบบเคลื่อนที่ (Mobile Plant), ก่อสร้างระบบผลิตน้ำจืดจากทะเล (Reverse Osmosis : RO), นำน้ำประปาใส่รถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ ทั้งยังมีการส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมการใช้น้ำอย่างประหยัด ผ่านกิจกรรมต่างๆ ภายใต้แนวคิด Save Water, You make it หรือประหยัดน้ำ คุณทำได้และเมื่อปี 2557 กปภ. ได้ริเริ่มโครงการ การก่อสร้างระบบส่งน้ำจืดมายังเกาะสมุยด้วยเทคโนโลยีการขุดท่อลอดใต้ทะเล เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น มีน้ำประปาใช้อย่างเพียงพอ และเป็นการช่วยพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวบนเกาะ ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2561 (ตามแผนดำเนินการ 2557-2561)

กปภ. ได้ดำเนินการก่อสร้างระบบผลิตที่สถานีผลิตน้ำบ้านนาทราย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำไปยังเขตพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผ่าน อ.ดอนสัก อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช รวมระยะทาง 105 กิโลเมตร และเดินท่อส่งน้ำขนาด 800 มม. ลอดใต้ทะเลลึก 2 เมตร ความยาว 20 กิโลเมตรต่อไปยังอ่าวพังกา อ.เกาะสมุย และก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำหน้าเมือง วางท่อจ่ายน้ำบริการให้กับประชาชนบนเกาะสมุยอีก 14 กิโลเมตร

ซึ่งวันที่ 21 .. ที่ผ่านมา ได้รับเกียรติจากพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดส่งน้ำประปาผ่านลอดใต้ทะเลสู่สมุยอย่างเป็นทางการ ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ ท่าเทียบเรือเกาะสมุย (หน้าทอน) .เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยเชื่อมั่นว่า สมุยจะมีน้ำประปาใช้อย่างเพียงพอไปอีก 10 ปี สามารถรองรับผู้ใช้น้ำได้เพิ่มมากขึ้นอีกประมาณ 64,184 ครัวเรือน แยกเป็นพื้นที่จ่ายน้ำฝั่งสุราษฎร์ธานี 45,284 ครัวเรือน ในอ.พุนพิน อ.เมือง อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก และพื้นที่จ่ายน้ำบน อ.เกาะสมุยอีก 18,900 ครัวเรือน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า โครงการส่งน้ำประปาผ่านท่อลอดใต้ทะเล สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลตามนโยบายข้อ 6 ในการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ และข้อ 3 ในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ซึ่งสร้างโอกาสให้ประชาชน 5 อำเภอตามแนวท่อ ได้เข้าถึงการบริการของรัฐ ที่สำคัญอย่างยิ่งคือช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิต มีความเป็นอยู่ที่ดีและอยู่ในสังคมที่เข้มแข็ง ทั้งนี้ เมื่อมีน้ำลอดใต้ทะเลมาเสริมความมั่นคงแล้ว ประชาชนต้องใช้น้ำอย่างคุ้มค่า และบำบัดน้ำเสียอย่างเป็นระบบด้วย การแก้ไขปัญหานี้จึงจะเกิดความยั่งยืน

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย

ด้านนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กปภ.สาขาสุราษฎร์ธานี มีกำลังผลิตรวม (โรงผลิต) 4,730 ลบ../ชม. (113,520 ลบ../วัน) ซึ่งสถานีผลิตน้ำบ้านนาทรายที่รับน้ำดิบมาจากแม่น้ำคลองพุมดวง ขณะนี้มีกำลังผลิตอยู่ที่ 2,000 ลบ../ชม. (48,000 ลบ../วัน) แบ่งจ่ายน้ำพื้นที่ฝั่งสุราษฎร์ธานี 1,000 ลบ../ชม. และบน อ.เกาะสมุย 1,000 ลบ../ชม. เมื่อโครงการส่งน้ำประปาผ่านท่อลอดใต้ทะเลเดินเครื่องส่งน้ำปะปาเต็มระบบ จะทำให้มีกำลังผลิตเพิ่มเป็น 3,100 ลบ../ชม. และสามารถผลิตน้ำได้เต็มกำลังที่ 4,000 ลบ../ชม. นอกจากนี้ ประชาชนตลอดแนวเส้นท่อประปา ซึ่งประกอบด้วย อ.พุนพิน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก บางส่วนของ อ.ขนอม ยังจะได้มีน้ำสะอาดใช้เป็นจำนวนโดยประมาณ 65,580 ครัวเรือน อีกด้วย ถือเป็นการเตรียมแผนรองรับความมั่นคงของการใช้น้ำในระยะ 10 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้กปภ. ยังได้ดำเนินโครงการฟื้นฟูแนวปะการังในพื้นที่หมู่เกาะสมุย โดยร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปลูกเสริมเพื่อซ่อมแนวปะการังในพื้นที่ ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการไปจนถึงปี 2565 และยังได้รณรงค์ลดการใช้น้ำ การบำบัดน้ำเสีย และนำน้ำเสียที่บำบัดแล้วกลับมาใช้ประโยชน์ ด้วยการจัดทำโครงการครอบครัวฮีโร่พิทักษ์น้ำและชายหาด ให้กับโรงเรียนในพื้นที่เกาะสมุย จัดกิจกรรมเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีในการประหยัดน้ำและรักษาความสะอาดบริเวณชายหาดอ่าวพังกาและอ่าวท้องกรูด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพและโอกาสเข้าถึงการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพที่เป็นธรรมและยั่งยืน

ขณะที่ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย เผยว่า เกาะสมุย มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นปีละ 10% เมื่อเทียบกับปริมาณแหล่งน้ำตามธรรมชาติซึ่งมีอยู่  5 พรุ นับว่าไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรจำเป็นต้องนำน้ำจากบนฝั่งมาใช้ ซึ่งโครงการส่งน้ำประปาผ่านท่อลอดใต้ทะเลมาสมุย เป็นโครงการที่ตอบโจทย์พื้นที่ซึ่งมีความเจริญและปริมาณคนเพิ่มขึ้น จากที่แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาด้วยการซื้อน้ำในราคาคิวละ 60-70 บาท ก็ซื้อได้ในราคาใกล้เคียงกับราคาปัจจุบัน ขณะเดียวกัน เมื่อเราได้น้ำประปามาช่วยในพื้นที่ ก็ได้สร้างจิตสำนึกให้ชาวสมุยใช้น้ำอย่างประหยัดมีการปลูกต้นไม้เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ รวมไปถึงจัดทำฝายชะลอน้ำฝายเพื่อชีวิตที่ปีนี้ตั้งเป้าไว้ 10 ฝาย

กปภ. มีความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน เสริมความมั่นคงในด้านความต้องการใช้น้ำประปาให้กับชาวสมุย โครงการนี้ใช้เวลาก่อสร้างจนแล้วเสร็จประมาณ 5 ปี โดยภาพรวมเบื้องต้นของน้ำ 20% ที่ส่งมาสมุย ถือได้ว่ามีคุณภาพทัดเทียมบนฝั่ง ดื่มได้ และเพียงพอต่อนักท่องเที่ยววันละแสนคน มั่นใจได้เลยว่าปีนี้จะไม่ขาดน้ำเหมือนปีที่ผ่านๆมา จะมีน้ำประปาเพียงพอและไม่กระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างแน่นอนผู้ว่าการกปภ.กล่าวสรุป