เมืองไทยประกันชีวิต ดันนโยบาย “MTL Everyday Life Partner” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกช่วงชีวิต ตั้งเป้าปี 62 เบี้ยใหม่โตขึ้น 26%

 

เมืองไทยประกันชีวิต ดันนโยบาย “MTL Everyday Life Partner” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกช่วงชีวิต ตั้งเป้าปี 62 เบี้ยใหม่โตขึ้น 26%

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เผยว่า เมื่อช่วงปลายปี 2561 เมืองไทยประกันชีวิตได้รับรางวัล Life Insurance Industry Awards 2018 ซึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิตของประเทศไทยเพียงรายเดียว ที่ได้รับคัดเลือกให้รับรางวัล ทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมา ทางบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 94,467 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับใหม่ 22,773 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยปีต่อไป 71,694 ล้านบาท โดยมีกำไรสูงขึ้นมากกว่าปีก่อนอยู่ที่ 8,600 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงระบบการจัดการที่ดี ทีมงานมีคุณภาพ รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่โดดเด่น สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ของบริษัท

ในปี 2562 บริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่เติบโต 26% และเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม (Innovation)  พร้อมเคียงข้างไปกับลูกค้าในทุกช่วงของชีวิต (Life Stage)  ผ่านนโยบาย “MTL Everyday Life Partner” สามารถตอบโจทย์ความต้องการในรูปแบบที่มีความเฉพาะตัว เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

โดยมุ่งเน้นการขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน เน้นการปลดล็อกข้อจำกัดในการทำประกันชีวิตและสุขภาพ ทั้งในแง่ของการเพิ่มเติมสวัสดิการที่ลูกค้ามีอยู่แล้ว หรือการดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่ครอบคลุมมากกว่าเดิม และรวมถึงค่าเบี้ยประกันภัยที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและสุขภาพของลูกค้าแต่ละคน

อีกทั้งมีการทำการตลาดแบบหลากหลายช่องทาง เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุมกับกลุ่มคนทุกช่วงวัย ทั้งการขายผ่านช่องทางธนาคาร โบรกเกอร์ รวมไปถึงการขายแบบประกันออนไลน์ผ่านทางดิจิตอลแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Shopee, KPlus และ Line Pay และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในต่างประเทศ อาทิ บริการ Global Connect ซึ่งลูกค้าที่เจ็บป่วยในต่างประเทศ นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลในต่างประเทศทั่วโลกได้ตามสิทธิ์ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย

“รูปแบบการดำเนินธุรกิจสำหรับยุคนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นยุคที่ท้าท้ายองค์กรเป็นอย่างมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรจะต้องปรับตัวในมุมนโยบายเชิงกลยุทธ์ในทุกระดับทั้งองค์กร ปรับเปลี่ยนทัศนคติ แนวคิด และวิธีการทำงานใหม่ทั้งหมด ให้สามารถทันต่อโอกาสที่เกิดขึ้น กล้าที่จะลองผิดลองถูก เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาได้อยู่เสมอ

โดยหัวใจหลักของธุรกิจเมืองไทยประกันชีวิต มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ภายใต้ปัจจัยแวดล้อมใหม่ ๆ เมืองไทยประกันชีวิตจึงได้ปรับตัวให้สอดรับ พร้อมปรับภาพลักษณ์สู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม ที่คิดค้นผลิตภัณฑ์ บริการ ที่สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงทุกวัย พร้อมเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแบบเฉพาะตัว  เราจะเติบโตและก้าวไปอย่างมั่นคงเคียงข้างไปกับลูกค้า ด้วยความยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล” นายสาระ กล่าว