“Silk Road on Rails” ทางรถไฟยาวที่สุดในโลกสายใหม่

Russia, Siberia, Baikal Lake, Trans-siberian train

ใครที่ยังใส่ข้อมูลในลิ้นชักความทรงจำไว้ว่า ทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก คือ ทางรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย (Trans-Siberian Railway) นั้น เปลี่ยนความคิดได้แล้วนะคะ

เพราะบัดนี้เรามีทางรถไฟสายใหม่เอี่ยมที่มีความยาวทุบสถิติเส้นทางสายทรานส์-ไซบีเรียอันโด่งดังแล้ว กลายเป็นทางรถไฟสายใหม่ที่มีความยาวที่สุดในโลก

เส้นทางนี้เป็นฝีมือการลงทุนของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน มีชื่อเรียกทางการว่า The China-Europe block train หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึงเส้นทางสายไหมบนรางรถไฟและได้รับขนานนามจากสื่อมวลชนทั่วโลกว่า Silk Road on Rails”

เส้นทางรถไฟสายนี้เริ่มต้นจากเมืองจีนพุ่งเข้าไปเจาะใจกลางกลุ่มสหภาพยุโรป โดยมีจุดหมายปลายทางที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน โดยเริ่มทดลองเดินรถไฟครั้งแรกในวันที่ 18 พฤศจิกายน และไปถึงจุดหมายปลายทางที่มาดริด วันที่ 23 ธันวาคม 2557 รวมระยะเวลาการเดินทางทั้งสิ้น 21 วัน

เส้นทางสายไหมผ่านรางรถไฟแห่งใหม่นี้เริ่มต้นจากเมืองอี้หวู่ มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นเมืองที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ วิ่งผ่านเมืองหลักในจีนแผ่นดินใหญ่ 12 จังหวัดและตัดผ่าน 9 ประเทศสำคัญในยุโรป เช่น คาซัคสถาน รัสเซีย เบลารุส โปแลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปน

เปิดตัวเป็นทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยระยะทางกว่า 13,000 กิโลเมตร

เหนือกว่าสายทรานส์-ไซบีเรียของรัสเซียที่ครองแชมป์มายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การรถไฟโลก ด้วยทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างกรุงมอสโกไปยังเมืองวลาดิวอสตอคในชายแดนรัสเซียติดกับจีน และภายหลังได้ขยายต่อไปยังนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเข้าถึงกรุงปักกิ่งที่มีระยะทางรวม 9,288 กิโลเมตร

Silk Road on Rails ออกแบบมาให้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าเพื่อร่นระยะเวลาการขนส่งจากทางเรือที่เคยทำกันอยู่ โดยการขนส่งในระบบรางนี้สามารถย่นเวลาลงได้ถึง 10 วันเมื่อเทียบกับทางทะเล และยิ่งเมื่อเทียบกับการขนส่งสินค้าทางถนน ระบบรางจะสามารถลดมลพิษทางอากาศลงได้ถึง 3 เท่า เพราะ 1 ตู้สินค้าของรถไฟบรรทุกได้ถึง 114 ตัน ขณะที่รถบรรทุกทำได้ไม่เกิน 44 ตัน

ทางการจีนตั้งใจพัฒนาเส้นทางนี้ให้มีความสำคัญสำหรับส่งเสริมยุทธศาสตร์การพัฒนาเส้นทางสายไหมใหม่  หลังจากก่อนหน้านี้จีนมีบริการรถไฟขบวนสินค้าถึงเยอรมนี ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรปอยู่ก่อนแล้ว

และหนึ่งในเส้นทางเหล่านั้น ได้แก่ สายที่เชื่อมระหว่างเมืองฉงชิ่งกับเมืองดุ๊ยส์บวร์ก เมืองผลิตเหล็ก ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าและการขนส่งที่สำคัญของเยอรมนี ส่วนอีกสายเชื่อมกรุงปักกิ่งกับฮัมบูร์ก เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของเยอรมนี

ขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ดังกล่าวบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์กว่า 40 ตู้ มีสินค้าจำพวกของเล่นสำหรับเด็กและเครื่องมือช่างไปส่งที่ปลายทาง และขากลับประเทศจีนได้บรรทุกสินค้าจากสเปน เช่น ไวน์ น้ำมันมะกอก และสินค้าจำพวกเนื้อสัตว์กลับไป

จีนจะทดลองวิ่งจนกว่าจะมั่นใจว่าเส้นทางมีความพร้อมสมบูรณ์แล้วค่อยเปิดบริการขบวนรถขนส่งสินค้าเป็นเส้นทางประจำ เชื่อมเอเชียเข้ากับใจกลางยุโรปอย่างถาวร คาดว่าจะทำได้ภายในปี 2559 นี้

อย่างไรก็ตาม ทางรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมระหว่างเมืองที่ตัดผ่านภูมิประเทศอันสวยงามของดินแดนต่างๆ มากมาย เริ่มตั้งแต่กรุงมอสโกของรัสเซียไปยังเขตตะวันออกไกลและทะเลญี่ปุ่น และยังมีสายย่อยเชื่อมต่อไปยังมองโกเลีย จีน และเกาหลีเหนือนั้น ยังเป็นขบวนรถไฟที่ดึงดูดใจในเรื่องการท่องเที่ยวอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย

ทางรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย ถึงแม้จะยาวมากแต่ก็มีจุดจอดไม่มากเพื่อร่นระยะเวลาในการเดินทาง การเดินทางตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่กรุงมอสโกไปยังปลายทางที่เมืองวลาดิวอสตอคใช้เวลาถึง 7 วัน ส่วนเมืองสำคัญต่างๆ ที่รถไฟวิ่งผ่าน ได้แก่ มอสโก วลาดิเมียร์ นิจนีนอฟโกรอด คีรอฟ เยคาเตรินบุร์ก โนโวซีบีสค์ ชุมทางสายมองโกเลีย ชุมทางสายแมนคูเรียน คาบารอฟสค์ และวลาดิวอสตอค เป็นต้น

ทางรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย เริ่มต้นการก่อสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1891 โดยการดำริของพระเจ้าซาร์ นิโคลัส ที่ 2 แห่งรัสเซีย และเริ่มเปิดให้บริการในช่วงแรกเมื่อปี ค.ศ. 1916

สำหรับใครที่อยากไปท่องเที่ยวแถบนั้นด้วยขบวนรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย ทุกวันนี้สะดวกสบายมาก เพราะมีบริษัทนำเที่ยวมากมายทั้งไทยและต่างประเทศเสนอขายทัวร์แบบแพ็กเกจ หรือแม้แต่จะเดินทางด้วยตัวเองโดยวางแผนล่วงหน้าเอาไว้อย่างดี

02

สิ่งเดียวที่สำคัญในการโดยสารขบวนรถไฟสายคลาสสิกสุดโรแมนติกนี้ก็คือ “เงิน”

เพราะการเดินทางใช้เวลายาวนาน อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 15 วัน และใช้เงินหลายแสนบาท

ทัวร์ราคาต่ำสุดที่เริ่มต้นออกเดินทางจากกรุงปักกิ่งหรือมอสโก พักห้องรวมแบบธรรมดาสำหรับผู้โดยสาร 4 คน ค่าทัวร์ต่อหัว ตกประมาณ 230,000 บาท

01

ส่วนห้องพักหรูหราสุดคือห้องบอลชอย สำหรับ 2 คน ในพื้นที่ 60 ตารางฟุต มีเตียงนอนใหญ่พร้อมโซฟาเล็กและโต๊ะริมหน้าต่าง ตู้เสื้อผ้าขนาดย่อม ห้องน้ำในตัว ซึ่งมีอยู่เพียง 6 ห้องต่อขบวนนั้น ราคาต่อหัว 587,000 บาท โดยประมาณ

ราคานี้เฉพาะค่าโดยสารและบริการท่องเที่ยวด้วยรถไฟ ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินจากไทยไปจีน ซึ่งทุกคนต้องจ่ายกันเอง