เผยแพร่ |
---|
มองไปรอบตัวทุกวันนี้ สินค้าจำนวนไม่น้อยต่างเกาะติดเทรนด์ D.I.Y. (Do It Yourself) หรือทำเองได้ไม่ยากเย็น ซึ่งกลายเป็นกระแสที่มาแรงต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคหลายต่อหลายคนรู้สึกชื่นชอบที่ได้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์สิ่งของต่างๆ สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
แต่ก็ใช่ว่า ทุกๆ คนจะปลาบปลื้มกับเทรนด์ D.I.Y. เสมอไป บางครั้งกลับกลายเป็นภาระที่ทำให้เสียเงิน เสียเวลามากกว่าเดิม
ไม่เชื่อก็ลองถามพวกที่ไม่มีความถนัดทาง “ช่าง” เอาเสียเลย แค่ประกอบชั้นวางหนังสือเล็กๆ ก็ทำเอาหงุดหงิดจนแทบจะทุ่มทิ้งไปพร้อมกับความรู้สึก “ช่างมันเหอะ”
บีบีซี ระบุว่า การที่หลายๆ คนไม่มีความถนัดงานช่าง รวมถึงไม่ชอบทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจของผู้ประกอบการชาวไอริชที่มองเห็นโอกาสนี้ กระทั่งผันตัวเองเป็นเศรษฐีที่มีธุรกิจในหลายประเทศ
โออิซิน ฮานราฮัน นักธุรกิจวัย 31 ปี ผู้ก่อตั้งบริษัท แฮนดี้ เป็นคนที่มองเห็นโอกาสธุรกิจจากกลุ่มลูกค้าที่ไม่ปลื้มกระแส D.I.Y. ทำให้ปิ๊งไอเดียบริการช่างมืออาชีพ รับจ้างทำงานที่หลายๆ คนช่างมันเหอะ จนกลายเป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วจนน่าอิจฉา
แฮนดี้ ให้บริการผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์พกพา โดยเปิดให้สมาชิกเข้ามาจองคิวช่างหรือพนักงานทำความสะอาดได้ ไม่ว่าจะต้องการช่างประปา หรือคนที่จะมาช่วยประกอบเฟอร์นิเจอร์ให้แล้วเสร็จ แม้แต่ช่วยติดตั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
ทุกๆ ความต้องการ บริษัทพร้อมจัดให้ โดยลูกค้าสามารถกรอกไว้ในแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกับระบุวันเวลาและสถานที่
จากนั้นแฮนดี้จะเสนอราคากลับมาให้ เมื่อลูกค้าจ่ายเงิน สิ่งที่ต้องทำคือ รอให้ช่างมืออาชีพมาจัดการ ซึ่งพนักงานทุกคนผ่านการลงทะเบียนและตรวจสอบจากบริษัท
ฮานราฮัน ก่อตั้งบริษัทนี้ตั้งแต่เมื่อปี 2555 พร้อมกับหุ้นส่วน “อูมัง ดัว” วัย 28 ปี มีสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก โดยพวกเขาผุดแนวคิดนี้ขึ้นมาเมื่อครั้งเป็นเพื่อนร่วมห้องกันที่เมืองบอสตัน ในระหว่างศึกษาที่ฮาร์วาร์ดบิสซิเนส สกูล
โดยเฉพาะเมื่อทั้งคู่มีไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองยุคใหม่ ที่ทั้งเรียนไปด้วย ทำธุรกิจส่วนตัวไปด้วย การต้องออกไปพบลูกค้า และสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ทำให้ทั้งคู่แทบไม่เหลือเวลาจัดการกับห้องหับที่รกรุงรัง แต่ก็ต้องเผชิญความยากลำบากในการหาคนที่ไว้ใจได้ มาทำความสะอาดอพาร์ตเมนต์ หรือช่วยซ่อมแซมสิ่งต่างๆ
ปัจจุบัน บริษัท แฮนดี้ เปิดให้บริการใน 25 เมือง ทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเพิ่งเปิดสาขาในกรุงลอนดอน เมืองแมนเชสเตอร์ เบอร์มิงแฮม บริสตอล และไบรตัน ของอังกฤษ เมื่อปีที่แล้ว
บริษัทสามารถทำรายได้ปีละราว 108 ล้านดอลลาร์ โดยมีลูกค้าหลายแสนคน และมีช่างมืออาชีพไว้บริการมากกว่า 5,000 คน
แฮนดี้ขยับขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว เพราะได้รับเงินทุนสนับสนุนจากนักลงทุน ประกอบกับนโยบายที่รอบคอบ ทำให้แฮนดี้สามารถต่อกรกับคู่แข่งได้
ฮานราฮัน อธิบายว่า สิ่งสำคัญคือ การสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า พวกเขาจะได้รับบริการจากช่างตามที่ต้องการจริงๆ ดังนั้น จะต้องทำให้บริษัทเติบโตขึ้น เพราะนั่นจะทำให้บริษัทสามารถให้บริการอย่างมืออาชีพได้
นอกจากนี้ ความรวดเร็วก็เป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้ เพราะลูกค้าสมัยนี้คุ้นเคยกับการซื้อหาสินค้าและบริการผ่านอินเตอร์เน็ต หรือสมาร์ตโฟน ซึ่งการใช้โมเดลธุรกิจของแฮนดี้ก็ตอบโจทย์ได้
แฮนดี้ใช้เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคและบริหารจัดการคิวลูกค้า รวมๆ แล้วมากกว่า 200 คน รวมทั้งตรวจสอบประวัติช่างที่ให้บริการเพื่อความแน่ใจว่า จะไม่มีปัญหาอาชญากรรม
ช่างแต่ละคนจะรับงานจากเว็บไซต์ของบริษัท โดยใช้หลักมาก่อน ได้ก่อน และบริษัทจะหักค่าดำเนินการ 20% ของค่าจ้าง
หลังจากทำงานเสร็จแล้ว บริษัทขอให้ลูกค้าแสดงความเห็นต่อบริการที่ได้รับ หากช่างคนไหนมีผลงานไม่ดีก็จะถูกคัดออก
ขณะเดียวกัน ช่างที่รับงานก็สามารถรายงานบริษัทได้ เกี่ยวกับความประพฤติที่ไม่ดีของผู้จ้าง เช่น แสดงนิสัยหรือพูดจาหยาบคาย
แม้ว่าธุรกิจของแฮนดี้จะถูกลอกเลียนแบบได้ง่าย แต่ “ฮานราฮัน” บอกว่า ฟ้าก็ไม่ได้เปิดกว้างสำหรับธุรกิจนี้อย่างที่หลายคนคิด ถึงจะเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาลนับล้านล้านดอลลาร์
เพราะธุรกิจนี้มีจุดขายที่ความสะดวกสบาย ในขณะเดียวกัน ก็ต้องตอบสนองความต้องการของผู้คนนับล้านๆ ที่แตกต่างกัน
“คำถามคือ ทำอย่างไรที่จะค้นหาช่างสาขาต่างๆ ที่ทำงานดี และไว้ใจได้”