ไม่ได้ฮิตแค่ไทย! “ร้านต้นไม้ในอเมริกา” ยอดขายพุ่ง สวนกระแสธุรกิจอื่น 

ไม่ได้ฮิตแค่ไทย! “ร้านต้นไม้ในอเมริกา” ยอดขายพุ่ง สวนกระแสธุรกิจอื่น

ช่วงกักตัวอยู่บ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายคนได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง อยู่กับครอบครัว และอยู่กับ “ต้นไม้” มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจขายต้นไม้ ธุรกิจจัดสวนทั้งแบบเอาต์ดอร์, อินดอร์ นอกจากไม่ล้มตายเหมือนธุรกิจหลายประเภท ยังเติบโต ทำรายได้ดีอย่างไม่คาดฝัน

และปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ได้ทำให้ร้าน Plantz ของ สตีฟ สแตนฟอร์ด ในแทมป้า เบย์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ที่เปิดมา 10 ปี เจอพิษโควิด-19 กระทั่งคิดว่าจะต้องปิดกิจการ ไม่เพียงพลิกฟื้นอยู่ต่อได้ แต่ยังขายดีกว่าเดิมด้วย

สตีฟ สแตนฟอร์ด ประธานและเจ้าของ Plantz ซึ่งขายต้นไม้ระดับไฮเอนด์ ให้แก่บริษัท ห้างร้านต่างๆ เล่าว่า “ธุรกิจของเราส่วนใหญ่ มีลูกค้าเป็นบริษัท โรงแรม และโรงพยาบาล ตึกอาคารพาณิชย์ในย่านแทมป้า เบย์ ซึ่งมาตรการกักตัวได้ส่งผลอย่างรุนแรงต่อธุรกิจ เพราะลูกค้ารายใหญ่ของผมต่างหยุดซื้อ ความคิดที่ว่าผมอาจต้องปิดธุรกิจมันน่ากลัวมาก”

สตีฟ เล่าว่า เขาคิดวนอยู่กับความคิดที่บั่นทอนจิตใจนั้น กระทั่งต่อมาเขาได้เห็นยอดขายออนไลน์ในเดือนเมษายน ที่ไม่ใช่มีแค่จากลูกค้าในพื้นที่เท่านั้น แต่มาจากทั่วประเทศ ที่มียอดขายสูงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์”

สตีฟ ว่า “ผมคิดว่าเป็นเพราะการที่คนเราได้ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้พวกเขาอยากอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ”

และที่น่าประหลาดใจ ก็คือ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็น กลุ่มคนที่สตีฟไม่คาดฝัน “ผมอยากจะขอบคุณกลุ่มมิลเลนเนียล ที่หันเข้าหาต้นไม้ และช่วยผลักดันยอดขายให้แก่ธุรกิจต้นไม้”

สำหรับกลุ่มต้นไม้ที่ได้รับความนิยม ขายดีที่สุดคือ Fiddle leaf fig หรือต้นไทรใบสัก โดยต้นไม้ที่สตีฟขายมีราคาเริ่มต้นจาก 50 ดอลลาร์ หรือราว 1,600 บาท

“ต้นไม้ สามารถช่วยลดมลพิษ ช่วยเพิ่มออกซิเจน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานในชีวิตคนเรา และถ้าหากคุณกำลังมองหาสิ่งที่จะช่วยลดความเครียด อย่าลืมมองหาเรา Plantz”

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ