ถูกปากคนไทย! กิมจิ สูตรหมอประพจน์ แหล่งโปรไบโอติกส์ ชั้นยอดจากแดนโสม

กิมจิ สูตรหมอประพจน์ แหล่งโปรไบโอติกส์ ชั้นยอดจากแดนโสม
กิมจิ สูตรหมอประพจน์ แหล่งโปรไบโอติกส์ ชั้นยอดจากแดนโสม

อร่อย ถูกปากคนไทย! กิมจิ สูตรหมอประพจน์ แหล่งโปรไบโอติกส์ ชั้นยอดจากแดนโสม

กิมจิ หรือ ผักดองเกาหลี เป็นอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน และช่วยในการย่อยอาหาร กิมจิทำมาจากผักหลายชนิด แต่ที่เป็นหลักก็คือ พืชตระกูลผักกาด กับเครื่องเทศ ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ถือเป็นอาหารที่ นิตยสาร Health Magazine จัดให้เป็น 1 ใน 5 อาหารสุขภาพ และในเอกสารของพิพิธภัณฑ์กิมจิในโซล บอกว่า กิมจิมีมากกว่า 187 สูตร โดยจะแตกต่างกันตามถิ่นและสภาพอากาศ

มีการศึกษาวิจัยของประเทศเกาหลีร่วมกับฝรั่งเศส ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส พบว่า อาหารพื้นบ้านของเกาหลีนี้อาจช่วยลดความรุนแรงในการเกิดโรคจากไวรัสได้ด้วย เพราะส่วนผสมต่างๆ ในกิมจิ ออกฤทธิ์ต่อ Nrf2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกลไกการอักเสบของร่างกายนั่นเอง

ซึ่ง นายแพทย์ประพจน์ เภตรากาศ ผู้สนใจการดูแลสุขภาพ ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ ได้พัฒนาสูตรกิมจิที่ถูกปากคนไทย และคงคุณค่าอาหารสุขภาพระดับโลก โดยเพจ สมุนไพรอภัยภูเบศร ได้นำสูตรและวิธีการทำมาฝาก ดังนี้

ส่วนประกอบ

1. ผักกาดขาว 10 กิโลกรัม

2. กุยช่ายเขียว 3 กำมือ

3. กระเทียม 1 กิโลกรัม

4. ขิงพอประมาณ

5. พริกชี้ฟ้า 1/2 กิโลกรัม

6. ข้าวเหนียวนึ่งสุกแล้ว (ซื้อจากร้านขายข้าวเหนียวหมูปิ้งก็ได้ 5 ถุงเล็กๆ)

7. เกลือแกง

อุปกรณ์

1. กะละมังที่ใช้ขยำผักกับเกลือ ไม่ต้องใหญ่ เพราะจะหั่นผักเป็น 4 ส่วน ขยำทีละส่วน

2. กะละมังที่ใช้พักหลังขยำเกลือทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง ใช้ใบเล็กหลายใบ

3. ขวดโหลแก้ว หรือไหใบเล็กๆ ไว้หมัก 1-2 วัน แล้วค่อยตักออกใส่ตู้เย็น

วิธีทำ

1. นำผักกาดขาวทั้งหัว ล้างน้ำให้สะอาด ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ

2. นำผักกาดขาวทั้งหัว หรือจะผ่าแบ่งเป็น 4 ส่วนตามยาวก็ได้มาทาเกลือ บริเวณกาบใบสีขาวที่มีความแข็ง โดยคลี่ออก ทาให้ทั่วทั้ง 2 ด้านของกาบใบ บริเวณใบสีเขียวไม่ต้องลงเกลือมาก พักไว้ให้ใบสลดประมาณ 1 ชั่วโมง สังเกตว่าน้ำที่อยู่ในภาชนะจะมีมากขึ้น และใบผักจะมีความเหนียวไม่แตกง่าย

3. เมื่อได้ที่ ให้นำไปล้างเกลือออก เมื่อล้างน้ำแรกแล้วให้ชิมผัก หากยังมีรสเค็มจัดให้ล้างออกอีกครั้งหนึ่ง พักให้สะเด็ดน้ำ

4. นำกุยช่ายหรือผักอื่นๆ มาทำแบบเดียวกับผักกาดขาว แต่ต้องหั่นก่อน ผักจำพวกหัว เช่น แคร์รอต หัวไชเท้า ต้องซอยเป็นเส้นบางๆ ก่อน แตงกวาจะต้องเอาส่วนที่เป็นเมล็ดออกก่อนแล้วจึงนำมาทาเกลือ

5. ปอกเปลือกกระเทียม ขิง ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย พักไว้

6. นำพริกมาหั่น เอาไส้ในออก เพื่อใช้เฉพาะสีแดง หากต้องการให้เผ็ดก็ไม่ต้องนำไส้ออก จากนั้น นำกระเทียม พริก ขิง ข้าวเหนียวนึ่งสุกมาปั่น แล้วแยกกันไว้ ข้าวเหนียวอาจใส่น้ำลงไปเล็กน้อยเพื่อให้ปั่นง่ายขึ้น

7. นำผักกาดขาวที่ได้มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นค่อยๆ คลุกกับกระเทียม พริก ขิง ข้าวเหนียว ตามความชอบ แต่ไม่ควรใส่กระเทียมกับขิงมากเกินไป จะทำให้มีกลิ่นฉุน ข้าวเหนียวถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้กิมจิมีรสเปรี้ยวจัด

8. นำมาบรรจุใส่โหลแก้ว หรือภาชนะที่มีฝาปิดสนิท ขนาดพอเหมาะกับปริมาณที่ทำ ไม่ควรเหลือช่องว่างระหว่างฝากับกิมจิมาก เพราะจะทำให้เสียง่าย

9. ตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 1 วัน แล้วชิมรสว่ามีความเปรี้ยวหรือยัง หากยังให้ทิ้งไว้จนกว่าจะมีรสเปรี้ยวตามชอบ เมื่อได้ที่แล้วนำไปใส่ในตู้เย็นเพื่อไม่ให้กิมจิมีรสเปรี้ยวมากขึ้น

ข้อมูลจาก หนังสือบันทึกของแผ่นดิน 6 สมุนไพรท้องไส้ ในวิถี ASEAN โดย ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร