อดีตครูสาวผลิต ‘เฉาก๊วยโฮมเมด’ เนื้อหนึบโดนใจลูกค้า ยอดขายทะลุ หมื่นถ้วย/เดือน

อดีตครูสาวผลิต ‘เฉาก๊วยโฮมเมด’ เนื้อหนึบโดนใจลูกค้า ยอดขายทะลุ หมื่นถ้วย/เดือน

เฉาก๊วย เมนูขนมหวาน ในช่วงหน้าร้อนจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษ มีลักษณะสีดำสนิท ทานแล้วให้เนื้อสัมผัสเหนียว หนึบ และนุ่ม อร่อยเลยทีเดียว ตามท้องตลาดมีหลากหลายแบรนด์ ชูจุดเด่นต่างกันไป มีทั้งเฉาก๊วยแบบโบราณ หรือจะสีสันขึ้นมาหน่อยคือทานคู่กับนมสด เพิ่มท็อปปิ้งก็นิยมไม่แพ้กัน

“ไฉไล เฉาก๊วย” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่กำลังตีตลาดเฉาก๊วย กับสโลแกน เนื้อหนึบ น้ำอร่อย ด้วยการผลิตแบบโฮมเมด มี คุณจิ๊ก-นันทิยา อัจฉราวรรณ วัย 32 เป็นเจ้าของ เธอเล่าให้ฟังถึงที่มาว่า แต่ก่อนยึดอาชีพเป็นครูสอนชั้นประถม ภายหลังลาออกมาช่วยกิจการค้าขายของที่บ้านแถวพระประแดง ด้วยเป็นร้านของครอบครัวจึงอยากได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์ของตัวเองวางจำหน่าย ซึ่งเมนูที่คิดได้คือ เฉาก๊วย

หลังได้ไอเดีย สิ่งแรกที่คุณจิ๊กเริ่มทำ คือเนื้อเฉาก๊วย เธอเฟ้นหาวัตถุดิบจากหลายแห่ง ทำทิ้งอยู่หลายรอบที่สุดก็พบแหล่งเฉาก๊วยคุณภาพดีจากเวียดนาม ใช้กระบวนการต้ม ตี และคั้น เพื่อเอาน้ำยางจากใบจนได้เนื้อสัมผัสเหนียวหนึบคล้ายกับเนื้อไข่มุกเมนูยอดนิยม

เมื่อได้เนื้อเฉาก๊วย สิ่งที่ทำต่อมา คือน้ำชาสำหรับทานคู่กับเฉาก๊วย ด้วยความที่คุณจิ๊กเป็นคนชอบทานชาไทย ชาเขียวอยู่แล้ว จึงลงมือคิดสูตรเอง ฝึกฝีมือชงน้ำอยู่นาน นำใบชาจากหลายๆ ที่มาชงเพื่อหารสชาติที่ดีที่สุด

“เพื่อดึงรสชาติของชาให้โดดเด่นและแตกต่าง จิ๊กผสมคาราเมลกับโอวทึ้งลงไปในน้ำชาด้วย กลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไปโดยปริยาย ใช้เวลาคิดอยู่นาน เพราะต้องดูเรื่องอัตราส่วนให้รสชาติโอเคที่สุด เน้นหวานน้อย ให้ลูกค้าทานโดยไม่ต้องใส่น้ำแข็ง”

ขั้นตอนต่อมาคือแพ็กเกจจิ้ง เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของเมนูนี้เลยก็ว่าได้เพราะต้องนำน้ำชามารวมไว้กับเฉาก๊วย ตามแนวคิดพกพาสะดวกเปิดทานที่ไหนก็ได้ สาวเจ้าของไอเดียคนเดิม เล่าว่า ครั้งแรกนำน้ำชากับเฉาก๊วยใส่รวมกันในแก้วเดียว ปรากฏว่าสีของเฉาก๊วยกลบสีชา มองแล้วไม่น่าทาน จึงต้องหาวิธีให้สองสิ่งนี้ไม่ปนกัน ให้แยกชั้นแล้วดูน่าทาน

“ลองใหม่แยกถ้วยดูซิ เทกั้นด้วยวุ้นและโอวทึ้ง สีจะเนียนไปกับตัวเฉาก๊วยเลย มองไม่ออก วิธีการทานง่ายมาก เปิดถ้วยน้ำ แล้วราดไปบนเนื้อเฉาก๊วยที่อยู่ด้านล่างหั่นเต๋าพร้อมทาน ยิ่งเย็นยิ่งอร่อย ไม่ต้องใส่น้ำแข็ง รสชาติกลมกล่อม”

กระทั่งสำเร็จเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ไฉไล เฉาก๊วย ประกอบด้วย เฉาก๊วยบรรจุถ้วยทานคู่ชาไทย ชาเขียว นมสด โกโก้ มีสองราคา แพ็กเกจแยกถ้วยแยกชั้น  20-25 บาท และแบบแยกชั้นแต่ไม่แยกถ้วยเล็กราคา 15 บาท และเฉาก๊วยโบราณหั่นเต๋า ทานคู่คาราเมลโอวทึ้งบรรจุถุงครึ่งกิโล 35 บาท

“แพ็กเกจสองตัวนี้เจาะลูกค้าคนละกลุ่ม ถ้วยใหญ่เจาะกลุ่มคนออฟฟิศ ที่ชอบแพ็กเกจสวยงาม และกลุ่มใช้งาน เช่น งานโศกเศร้า งานบุญ เป็นต้น ส่วนถ้วยเล็กเจาะกลุ่มพนักงานโรงงาน ชาวบ้าน”

ต่อกันที่การทำตลาด คุณจิ๊ก บอกว่า อาศัยเสนอผลิตภัณฑ์ตามร้านอาหารใกล้บ้าน นำสินค้าไปให้ชิม เพื่อให้เห็นถึงความต่างจากแบรนด์อื่น โชคดีได้รับโอกาสจากลูกค้าให้วางจำหน่าย ผลตอบรับดีเกินคาด ตลาดขยายขึ้นตามลำดับ ช่วงหลังจึงกระจายสินค้าไปยังร้านอาหารที่ไกลออกไป เมื่อแบรนด์เริ่มติดตลาด เริ่มใช้สื่อออนไลน์เป็นตัวช่วยกระจายชื่อสินค้าอีกแรงเกิดเป็นยอดขายให้ชื่นใจบ้าง

“ทำแรกๆ หลายอย่างไม่ลงตัว โดนปฏิเสธ ไม่ได้รับการตอบรับ มีเสียน้ำตาเหมือนกัน เพราะไม่เคยเจอสถานการณ์หรือความกดดันทำนองนี้ โชคดีที่ได้คำแนะนำ และกำลังใจจากคุณพ่อ จากแฟนที่พร้อมสู้ไปด้วยกัน ทำซ้ำๆ จนแกร่ง ผลิตภัณฑ์เริ่มเข้าที่เป็นที่รู้จัก”

การจำหน่ายนอกจากช่องทางข้างต้น ไฉไล เฉาก๊วย ยังกระจายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย เงื่อนไขตัวแทนเขตละ 1 คนเท่านั้น คุณจิ๊ก ให้เหตุผลว่า ป้องกันการทับซ้อนและแย่งลูกค้า อีกทั้งไม่อยากให้ใครก็ได้นำผลิตภัณฑ์ไปขาย แต่อยากได้คนที่มีความตั้งใจจริง ส่วนตัวแทนในต่างจังหวัดมีน่าสนใจ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุย

“ยอดขายทั้งหมดอยู่ที่หนึ่งหมื่นถ้วยต่อเดือนโดยประมาณ สำหรับการสั่ง ถ้าคนต่างจังหวัดอยากทานครึ่งโหลหรือหนึ่งโหลเราส่งให้หมด แพ็กอย่างดีถึงมือพร้อมทานค่ะ หากจัดงานแนะนำขั้นต่ำ 50 ถ้วยจะได้คุ้มค่าจัดส่ง”

สำหรับก้าวต่อไปของ ไฉไล เฉาก๊วย เจ้าของธุรกิจสาว เผยว่า เตรียมออกบู๊ธเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น พร้อมกันนี้ ถ้าธุรกิจไปได้ดียอดขายทะลุ 5,000 ถ้วยต่อวันจะเปลี่ยนจากผลิตแบบโฮมเมด เป็นการผลิตด้วยเครื่องจักร รวมทั้งเตรียมจดเครื่องหมายการค้า และจดชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการ

ในอนาคตอีก 1 ปีข้างหน้า หากทุกอย่างลงตัวเตรียมเปิดแฟรนไชส์ เงื่อนไขที่เน้นคือเรื่องสถานที่ขาย เพื่อให้เกิดยอดขายตามที่ตั้งใจไว้

สนใจสามารถติดได้ที่ โทรศัพท์ 099-429-7441, 083-287-1625 เฟซบุ๊ก และไลน์ chailaichaoguay