อาทิตย์นี้ขอตามรอยพ่อนำร้านเก่ามาเล่าทบทวนใหม่ ซึ่งปิ่นโตเถาเล็กยกให้เป็นสุดยอดร้านข้าวหมูแดงในดวงใจเลยทีเดียว ร้านนี้มีชื่อว่า นายฮุย

ร้านนายฮุยได้ชื่อเสียงเรียงนามจากเถ้าแก่รุ่นแรกคือนายหลี่จูฮุย ซึ่งเริ่มขายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 2484 ตรงใต้ถุนโรงหนังนาครสนุก นับเป็นข้าวหมูแดงเจ้าดั้งเดิมตัวจริงเสียงจริงของโรงหนังแห่งนี้ที่เลิกกิจการไปนานแล้ว แต่ถ้าไปหาที่เก่าก็จะได้ลิ้มลองเจ้าอื่นแทน (ซึ่งอร่อยใช้ได้เช่นกัน) เพราะร้านนายฮุยย้ายมาปักหลักที่ ย่านวังบูรพาในซอยพิชิต นานนมเนแล้ว

วังบูรพายุคนี้ค่อนข้างเงียบเหงาพอตัว ไม่เหมือนกับยุคโก๋หลังวังเมื่อ 60-70 ปีก่อน ซึ่งผมเกิดไม่ทัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีของกินอร่อยในย่านนี้อยู่มากมายหลายเจ้า เช่น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ๊ผอม จาก เวิ้งนาครเขษม ตลาดปีระกา ก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ใกล้ๆ ร้านนายฮุยเช่นกัน

ช่วงที่ปิ่นโตเถาเล็กยังหนุ่ม ย่านวังบูรพาไม่มีโรงภาพยนตร์แกรนด์ คิงส์และควีนส์หลงเหลือแล้ว แต่ก็ยังทันไปถ่ายรูปติดบัตรที่ร้านฉายาจิตรกร กับไปซื้อหนังสือที่ร้านโอเดียนสโตร์ (วังบูรพา)

ขอบอกว่าการมาชิมที่ย่านวังบูรพาแสนสะดวกสบาย มีที่จอดรถให้เลือกหลายแห่ง ทั้งที่ อาคารรวมทนุไทย ตึกสีน้ำเงินขาว ริมถนนมหาไชย ตรงข้าม เมก้าพลาซ่า (Mega Plaza) สะพานเหล็ก (เมอร์รีคิงส์เก่า) ซึ่งที่ห้างนี้ก็มีที่จอดรถใต้ดินเช่นกัน และยังมี ลานจอดหัวมุมด้านในใกล้ร้านฉายาจิตรกร ถัดมาคือ ที่จอดในโรงหนังควีนส์เก่า ซึ่งอยู่ในโรงจริงๆ เพราะบริเวณที่เราจอดนั้นเดิมเป็นส่วนของจอหนังและที่นั่งชม หรือข้ามไปจอดที่ ดิโอลด์สยาม ด้านหลังวังบูรพา (มีทั้งใต้ดินและตึกสูงข้างศาลาเฉลิมกรุง) ให้ดูแผนที่ประกอบนะจ๊ะ

พอจอดรถเสร็จให้มาที่ถนนรอบวังบูรพาแล้วเลี้ยวเข้า ซอยพิชิต ซึ่งเป็นซอยที่อยู่ตรงใจกลางวังบูรพา ซอยนี้ช่วงต้นซอยเป็นทางสำหรับคนเดิน รถเก๋งเข้าไม่ได้ ทะลุไปยัง ถนนเจริญกรุง ถ้าไปไม่ถูกหรือหลงทิศให้ถามทางจากคนแถวนั้น เข้าไปนิดเดียวจะเห็นร้านข้าวหมูแดงนายฮุยอยู่ทางขวามือ

พอมาถึงที่ร้าน เจ๊มารศรีเจ้าของร้านจำหน้าได้ทันที บอกว่าผมห่างหายไปนาน ความจริงแล้วปิ่นโตเถาเล็กทันสมัย ใช้บริการส่งอาหารไปกินที่บ้านเช่นไลน์แมนอยู่บ่อยครั้ง

เจ๊มารศรีคือหลานสะใภ้ สืบทอดมาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว ซึ่งยังคงรักษาเอกลักษณ์ไว้ได้ กล่าวคือยังใช้เตาถ่านย่างหมูแดง หมูกรอบ กุนเชียง หุงข้าว และทำน้ำราด ใช้เตาถ่านทำทุกอย่างว่างั้นเถอะ

ร้านนี้แปลกแต่จริง เจ๊มารศรีบอกว่า สมัยก่อนเวลาบิดามาประชุมที่ปุ้มปุ้ยฝั่งธนฯ จะสั่งข้าวหมูแดงไปกินอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เคยมาให้ตราเชลล์ชวนชิม ปิ่นโตเถาเล็กเคยสอบถามคุณชายถนัดศรีก็บอกว่าโอ๊ยพ่อกินมานานแล้วไอ้หนู ตั้งแต่ฮุยยังไม่ตายเลย จึงไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เคยเขียนถึง เอาไว้คงต้องไปค้นต้นฉบับของเก่าของพ่อมายืนยันอีกครั้งหนึ่ง

ขอสาธยายสรรเสริญความดีงามว่ามีอะไรเลิศเลอบ้าง เริ่มจากตัวข้าวนั้นเป็นข้าวเก่าชนิด 100% เวลาหุงจะได้เป็นเม็ดสวย โดยจะหุงด้วยเตาถ่าน พอสุกได้ที่ก็จะคดข้าวมาใส่ถังไม้มีฝาปิด ทำให้เก็บความร้อนได้ดีระอุอยู่ตลอดเวลา

เนื้อหมูแดงนั้นก็นุ่มนวลชวนกินมาก ไม่มีเอ็นเหนียวหรือความแข็งกระด้างให้รำคาญปากแม้แต่น้อย ทำจากเนื้อหมูส่วนสันนอกแต่ไม่มีมันแทรก กลับมีความอร่อยกว่าหมูแดงที่ยังมีมันติดอยู่บ้าง แถมยังหอมกลิ่นควันไฟถ่านอีกด้วย

ส่วนหมูกรอบนั้นก็มีทีเด็ดตรงที่อุดมด้วยไปด้วยเนื้อ มีมันแทรกนิดเดียว หนังบางๆ แต่กรอบเหลือหลาย ถามเจ๊ว่าคงใช้ส้อมจิ้มจนพรุนจะได้กรอบๆ เจ๊ตอบว่าไม่ทันใจหรอก มันต้องใช้สันมีดเฉาะให้เกิดรอยแยกเยอะๆ เวลาย่างแล้วจะได้กรอบสะใจ

กุนเชียงนั้นก็เป็นกุนเชียงย่างหอมกรุ่นอร่อยจริงๆ ห้ามพลาดเลย ยังไม่หมดนะครับ ที่พิเศษกว่าเจ้าอื่นๆ อยู่ตรงที่เขามี กระเพาะหมู กับ ตับหมู ที่นุ่มแสนนุ่มให้ด้วยอย่างละ 1 ชิ้นต่อจาน

ของดียังไม่หมดนะครับ ที่อร่อยจนอยากกินทุกอาทิตย์ก็คือ ไข่ต้ม หรือ ไข่พะโล้ (ฟองละ 12 บาท) จะเป็นยางมะตูมเยิ้มนิดๆ ทุกลูก ผิวนอกเคลือบด้วยน้ำพะโล้จนเป็นสีน้ำตาล ซึ่งกรรมวิธีคือจะต้มแล้วปอกเปลือกก่อน จากนั้นนำไปต้มน้ำพะโล้อีกที

สนนราคาข้าวหมูแดงปริมาณปกติจานละ 50 บาท พิเศษ 70 บาท และมีขนาดซุปเปอร์ 100 บาทด้วย แต่ผมนิยมสั่งพิเศษเอาแต่เครื่องใส่จานแยกมาต่างหาก ซึ่งที่นี่จะเรียกว่าเกาเหลา (หมายถึงไม่ใส่ข้าว) เริ่มที่ 150 บาท แต่ไหนๆ จะกินทั้งทีต้องสั่งเกาเหลาจานใหญ่ 300 บาทเลย

ส่วนน้ำราดเป็นน้ำสีเข้มๆ หอมที่สุด ไม่เหนียวหรือหวานจนเกินไป การปรุงด้วยเตาถ่านทำให้น้ำราดมีกลิ่นหอมสุดยอด อร่อยถึงขนาดต้องขอมาเพิ่มอีกถ้วย ให้กินข้าวหมูแดงแกล้มพริกชี้ฟ้าและต้นหอมอวบใหญ่ที่ใส่จานมาให้ต่างหาก

อยากรู้ร้านนี้เก๋าแค่ไหน โปรดไปยืนดูเขียงเก่าที่แขวนอยู่ตรงฝาผนัง ซึ่งใช้มาเพียงแค่ 10 กว่าปี โดนใช้งานเสียจนบางเฉียบ

ร้านนายฮุยเปิดบริการทุกวันตั้งแต่แปดโมงไปจนถึงบ่ายสามโมงครึ่ง เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมา หยุดทุกวันอาทิตย์แล้ว อย่าเผลอตามไปชิมเป็นอันขาด และจะหยุดตามเทศกาลต่างๆ เป็นเวลานานพอตัว อาทิ ตรุษจีน 5 วัน สงกรานต์ 10 วัน

บริเวณนี้ยังมีของอร่อยให้ลิ้มลองอีกเพียบ เช่น ร้านกาแฟออนล็อกหยุ่น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ๊ผอม เอาไว้ว่างๆ ปิ่นโตเถาเล็กจะไปทบทวนให้อีกทีนะจ๊ะ

---

ข้อมูล

นายฮุย

โดย คุณมารศรี ลีลาสัมพันธ์เลิศ

ที่ตั้ง 728/1 วังบูรพา ซอยพิชิต ถนนภาณุรังษี เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

โทร 0-2222-1630 08-1567-2147

เปิดบริการ 08.00-15.30 น. จันทร์-เสาร์

หยุด ทุกวันอาทิตย์และเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์

แนะนำ ข้าวหมูแดง หมูกรอบ ใส่ตับและกระเพาะหมู ไข่ยางมะตูมเยิ้มๆ กุนเชียงย่าง