นักการตลาดหนุ่มหัวคิดดี ปรับสูตรขนมครกสิงคโปร์ เพิ่มสีสัน จนขายดิบขายดี

นักการตลาดหนุ่มหัวคิดดี ปรับสูตรขนมครกสิงคโปร์ เพิ่มสีสัน จนขายดิบขายดี

แม้เปิดได้ไม่ถึงปี แต่ ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์ ก็เป็นที่โด่งดังในหมู่นักชิมไปแล้วโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง ทั้งหมดนี้เป็นการสร้างแบรนด์ของนักการตลาดเฉพาะทางมากความสามารถ ที่ปรับโฉมขนมไทยธรรมดาๆ ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นโดนใจทั้งไทยและต่างชาตินั่นเอง

คุณใบพัด-อธิษฐ์พัชร นิพิษฐาภัทร วัย 36 ปี นักการตลาดเฉพาะทางและเจ้าของร้าน “ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์” เล่าจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ให้ฟังว่า ตนชอบทานขนมหวาน และมีมรดกเป็นสูตรขนมครกสิงคโปร์จากญาติผู้ใหญ่ติดตัว บวกกับช่วงนั้นกระแสละครบุพเพสันนิวาสกำลังมาทำให้อินกับการทานขนม จนนำมาสู่การสร้างแบรนด์ “ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์” เมื่อต้นปี 2561 โดยนำสูตรมาปรับใหม่ให้โมเดิร์นตามแนวคิดคนรุ่นใหม่ ที่มีความคิดครีเอตมากกว่าคนยุคก่อน

“เลือกทำเลทองใกล้บ้านเปิดเป็นร้านคีออส ย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญ 23 ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านดัง และมากด้วยลูกค้าขาจรหน้าใหม่ทุกวัน”

ถามถึงชื่อร้าน คุณใบพัด บอกว่า มีที่มาจากประวัติศาสตร์ยาวนาน ในสมัยก่อนท่าช้างอยู่แถวพระบรมมหาราชวัง คนในวังเมื่อว่างจากการรับใช้เจ้านาย จะนำของมาขาย เช่น ขนม น้ำอบ จึงเรียกเวิ้งนี้ว่าดินแดนของกินแสนอร่อย”

สูตรที่ดัดแปลงคือการเพิ่มสีสันที่ได้รสชาติจากธรรมชาติให้แปลกใหม่ ไม่ใช่แค่ขนมครกสิงคโปร์สีเขียวที่เห็นกันทั่วไป

“ช่วงนั้นมันม่วงกำลังมาเลยจับมาทำ เช่น สีม่วงมันม่วง สีเขียวใบเตย สีขาวจากมะพร้าว สีเหลืองจากทุเรียน สีชมพูจากสตรอว์เบอร์รี่ สีส้มจากชาไทย สีดำจากข้าวเหนียวดำ สีน้ำตาลจากช็อกโกแลต ซึ่งในทุก 15 วัน จะมีรสชาติใหม่ๆ ให้ลูกค้าสนุกกับการกิน”

แม้จะเปิดขายเมื่อต้นปี 2561 แต่ “ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์” มีกระแสตอบรับดีเกินคาด สร้างรายได้แล้วกว่า 100,000 บาท ต่อเดือน จากลูกค้าหน้าร้าน 4,000 บาท ต่อวัน และ LINE MAN ประมาณ 5,000 บาท ต่อวัน รวมทั้งรายได้จากงานจัดเลี้ยง เช่น ทำบุญ งานออฟฟิศอีกหลายงาน

“อยากให้เอสเอ็มอีให้ความสำคัญของตลาดขนส่ง เพราะตลาดนี้ทำให้ลูกค้าใกล้ชิดสินค้าเรามากขึ้น โลเกชั่นก็เป็นสิ่งสำคัญ นี่คือหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ร้านขายได้ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือแบรนด์จะอยู่ได้ คือการทำแบรนดิ้งให้แข็งแรง และการตลาดต้องดี”

เมื่อกระแสตอบรับดี ย่อมเป็นที่สนใจ เพราะได้รับการติดต่อจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศซึ่งทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างพูดคุยกัน และมีลูกค้ากว่า 100 ราย ติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่กำลังสร้างครอบครัว หรือเว้นว่างจากงานประจำ คุณใบพัด บอกยิ้มๆ ว่า ธุรกิจนี้เหมาะสำหรับคนขี้เกียจและไม่ค่อยมีเวลา

ถามเคล็ดลับความสำเร็จ คุณใบพัด แนะว่า การขายอาหารต้องมีพื้นฐานความอร่อย แข่งกันที่ความคิดสร้างสรรค์ ใส่ไอเดียเพื่อเพิ่มมูลค่า ที่สำคัญ ต้องสร้างความแตกต่าง รู้จักการใช้สื่อมาพรีเซ้นต์สินค้า และทำธุรกิจให้มีความสุข ใส่ใจทุกรายละเอียด

“อย่าลืมว่าขนมเป็นคนเลือกคนซื้อ ไม่ใช่คนซื้อเป็นคนเลือกขนม” คุณใบพัด ว่าอย่างนั้น

ในอนาคตคุณใบพัดตั้งเป้ายอดขาย 1 ล้านบาท ต่อเดือน มีแฟรนไชส์ 10 ราย มีร้านต้นแบบเป็น Destiny Street Food of Thailand สัก 3 สาขาเป็นของตัวเอง ตั้งอยู่ในย่านชาวต่างชาติ เช่น สีลม สุขุมวิท นอกจากนี้ ยังมองการขยายไลน์ธุรกิจภายใต้แบรนด์ท่าช้าง พร้อมพาแบรนด์โกอินเตอร์ไปจีน ยุโรป รวมทั้งเร่งพัฒนาแป้งขนมครกให้มีอายุการใช้งานได้ 1 สัปดาห์ เมื่อทุกอย่างลงตัวจะออกมาทำเต็มตัว

“หลายอย่างจะเกิดขึ้นในปี 62 ทำไมถึงเร็ว อย่าลืมว่าการทำธุรกิจ เก่งไม่กลัว กลัวช้า ทุกอย่างแข่งกันที่ความเร็ว คู่แข่งมีมาเสมอ และทุกคนเก่งเหมือนกันหมด แต่ถ้าเร็วกว่าเราได้เปรียบ”

สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ระหว่างพูดคุย คุณใบพัดมีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม และมักมีคำคมการทำธุรกิจมาให้เราได้ชื่นชมเสมอ “เหนื่อยหน่อย แต่คุ้มค่า” คุณใบพัด ทิ้งท้าย

แวะไปชิมความอร่อยของ “ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์” ได้ที่ ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ห้วยขวาง กรุงเทพฯ (ร้านอยู่ปากซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 23) ร้านเปิดช่วงเย็น ปิด 4 ทุ่ม หยุดวันอาทิตย์