ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะมีร้านข้าวเหนียวมูนเปิดขายมานานเกือบ 80 ปี แต่ข้าวเหนียวมูนเสวยแม่นงนุช ที่หัวหินสามารถทำได้ และยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจไม่หยุด ลูกค้าต่างชาติรู้จัก ลูกค้าไทยที่ผ่านไปต้องแวะซื้อ ว่ากันว่าความอร่อยของขนมไทยร้านนี้ เคล็ดลับอยู่ที่การนึ่งข้าวเหนียว การันตีได้จากห้องเครื่องเสวยในวัง ยังมาอุดหนุน
คุณอัจนิริยา ศิลปสุนทร ทายาทรุ่นหลาน เท้าความว่า “ตั้งแต่จำความได้ เห็นคุณย่า (นงนุช ศิลปสุนทร) ทำข้าวเหนียวมูนขายมาตลอด รวมระยะเวลาจนถึงบัดนี้เกือบ 80 ปีแล้ว เป็นสูตรโบราณ ถึงเครื่องถึงรส โดยมีหน้าสังขยา ปลาแก้ง หน้ากุ้ง และหน้ากระฉีก แต่ในฤดูร้อนจะมีมะม่วงเสิร์ฟคู่ข้าวเหนียว ส่งผลให้ลูกค้าทยอยเดินทางมาอุดหนุน จนกระทั่งเกิดการบอกต่อ กลายเป็นสินค้าดังในอำเภอหัวหิน
“ฤดูร้อนคือเวลานาทีทอง ลูกค้าสั่งซื้อข้าวเหนียวมูนมากถึงคนละ 20 – 30 กิโลกรัม ซึ่งถ้านับจำนวนยอดขายข้าวเหนียวมูน ตกวันละ 30 กะละมัง (1 กะละมัง ประมาณ 30 กิโลกรัม) ส่วนราคาขายเริ่มต้นในยุคคุณย่ากิโลกรัมละไม่กี่สิบบาท”
ปัจจุบันคุณอัจนิริยา คือ ทายาทธุรกิจรับไม้ต่อกิจการจากคุณย่า เธอยกระดับมาตรฐานขนมไทยและพัฒนาเมนูข้าวเหนียวมูนเรื่อยมา ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความสะอาดและรสชาติอร่อย (คลีนฟู๊ด กู๊ดเทส) จนบัดนี้มากกว่า 70 เมนูแล้ว ซึ่งจะสลับกันไป อาทิ ข้าวเหนียว+น้ำกะทิทุเรียนหมอนทอง ป่าละอู ข้าวเหนียวตัด ข้าวเหนียวเปียกลำไย ขนมเทียน ขนมกล้วย ขนมต้มไส้มะพร้าว ปลาป่นจิ้มกับแตงโมเย็น
สำหรับราคาขายสินค้า ปัจจุบัน ข้าวเหนียวมูนกิโลกรัมละ 240 บาท สูตร 80 ปี รสชาติเป็นเช่นไร วันนี้ก็ยังคงรสเดิม
“สินค้าเน้นความสดใหม่ อย่างข้าวเหนียวมูน ใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูจากจังหวัดเชียงราย คุณภาพดี เม็ดสวย ขึ้นเงา ไม่แตกหักง่าย ทำทีละกะละมัง แล้วนำออกมาจำหน่าย สำหรับกะทิ ใช้มะพร้าวมาจากอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์”
ไม่เพียงเท่านั้น คุณอัจนิริยา ยังเผยเคล็ดลับ นึ่งข้าวเหนียวอย่างไรให้เม็ดสวย ก่อนอื่นนำข้าวเหนียวไปซาวน้ำเบาๆ มือ จนน้ำใส แล้วแช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง จึงนึ่งให้สุก แล้วมูนกับส่วนผสมของกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ ที่ผสมรวมกันไว้เรียบร้อยแล้ว เทราดลงบนข้าวเหนียว ใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน ปิดฝาทิ้งไว้สักครู่ ให้ส่วนผสมซึมสู่เม็ดข้าวเหนียว จึงนำออกไปจำหน่าย
คุณอัจนิริยา ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงรสชาติข้าวเหนียวมูนเสวยแม่นงนุช ว่า เข้มข้น มันกะทิ แต่ไม่หวานเกินไป “คุณย่า พูดเสมอว่า อย่าให้ผู้บริโภครู้สึกในคำแรกว่ารสหวาน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นปริมาณการกินจะน้อยลง หรือไม่กินต่อ แต่ต้องทำขนมให้ออกมา กลมกล่อม”