ปิ่นโตเถาเล็กมีภารกิจมาสังเกตความอร่อยที่จังหวัดตรังเพียง 1 คืน แต่โชคดีที่พี่สลิล โตทับเที่ยง ช่วยแนะนำร้านอาหารทะเลแห่งใหม่ ซึ่งใหม่สำหรับปิ่นโตเถาเล็กแต่คนตรังคงคุ้นเคยกันดีเพราะเปิดมานาน 4 ปีครึ่งแล้ว ร้านนี้มีชื่อเฮฮาดีว่า “ปูม้า ปาร์ตี้”

ชื่อร้านเหมือนเป็นร้านกินดื่ม แต่ความจริงคือร้านอาหารทะเลในบรรยากาศทันสมัย มีทั้งโซนด้านนอกและห้องปรับอากาศ เหมาะสำหรับมาปาร์ตี้เป็นหมู่คณะ ตัวร้านอยู่ริมถนนควนขนุน ไม่ไกลจาก“สี่แยกอนุสาวรีย์พระยารัษฎา” จากตัวร้านมองเห็นห้างโรบินสันตรงสี่แยกได้ลิบๆ

เจ้าของชื่อว่าคุณชณมนัต (หรือ “คุณชณ”) เป็นคนหาดสำราญ จังหวัดตรัง เคยทำทั้งทัวร์ท่องทะเลและส่งอาหารทะเลมาให้ร้านที่กรุงเทพฯ เป็นศิษย์เก่า ม.เกษตรศาสตร์ เหมือนข้าพเจ้าด้วย (แต่ห่างกัน 11 ปี) มาร้านนี้จึงมีข้อได้เปรียบ มีของทะเลสดๆ ส่งมาจากหาดสำราญ อีกทั้งกันตังและสตูล ล้วนแล้วแต่น่าลิ้มลองทั้งนั้น

คุณชณ บอกว่า ร้านนี้ไม่ใช้ผงชูรส แต่จะต้มน้ำสต๊อกจากกระดูกปลาตั้งแต่บ่าย 2 โมง จึงมีรสหวานอร่อยตามธรรมชาติ น้ำจิ้มซีฟู้ดนั้นก็ตำด้วยมือ ไม่ใช้เครื่องปั่น เครื่องปรุงเช่นซีอิ๊ว จะใช้ของดีท้องถิ่น (ตราแกะ)

มาร้านปูม้า ปาร์ตี้ ถือเป็นสวรรค์ของคนกินหอยทีเดียว ช่วงปลายปีต้นปีถือเป็นฤดูกาลของหอยตะเภา หอยรูปสามเหลี่ยมท้ายงอนขึ้นเหมือนเรือสำเภา เราสั่ง “หอยตะเภาลวกจิ้ม” (350 บาท) เนื้อนุ่มเด้งหวานสด ตัวโตๆ จากหาดสำราญ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านหอมพริกขี้หนู ห้ามพลาดเป็นอันขาด ต่อกันด้วย “หอยหลอดผัดฉ่า” (250 บาท) เป็นหอยท้องถิ่นตรังตัวยาวๆ สดมาก และยังมีอีกเมนูหอยที่คราวหน้าต้องกลับมาลองแน่ คือ “หอยโพง” ตัวเบ้อเริ่ม (ขนาดใหญ่ 2 ตัว 250 บาท) เอามาทำหอยโพงเผาหรือลวกจิ้มก็ได้

อีกอย่างที่ร้านนี้ทำได้เด็ดอร่อยหรอยแรงมากคือ “แกงส้มปลาเก๋าดอกแดง” (หรือปลาเก๋าจุดน้ำตาล) สนนราคาเพียงถ้วยละ 250 บาท ตำเครื่องแกงเผ็ดร้อนเองทุกวัน เปรี้ยวหอมด้วยมะนาว ใส่ทีเด็ดคือ “สับปะรดห่ามๆ” กรอบๆ และมีรสหวานนิดๆ และใส่ยอดมะพร้าวอีกด้วย โดยจะใช้ปลาเก๋าขนาด 3-5 กิโล เนื้อแน่น ถ้าใหญ่กว่านั้นเนื้อจะหยาบ ที่ร้านยังมีปลาเก๋าลายเสือที่จะแพงกว่าเก๋าดอกแดง เอาไปทำปลาดิบหรือซาซิมิได้

แกงส้มนั้นให้แกล้มด้วย “ปลาทรายทรงเครื่อง” (160 บาท) เป็นสูตรเฉพาะของร้านปูม้า ปาร์ตี้ แล่เป็นชิ้นยาวๆ ทอดจนก้างกลางกรอบเคี้ยวได้อร่อยสุดยอด โรยหน้าด้วยเครื่องกระเทียม พริกไทย หอมแดง ผัดกับน้ำตาลปี๊บ ที่ทอดเก็บใส่กระปุกไว้ต่างหาก

ส่วนของทะเลสดๆ นั้นจะสั่งแค่ทีละตัว สั่งหลายตัวหรือสั่งเป็นกิโลก็ได้ทั้งนั้น ที่ขาดไม่ได้คือ “ปูม้านึ่ง” เราสั่งไซซ์ 4 ตัวต่อกิโล (580 บาท/กก.) ไข่เต็มท้อง เนื้อแน่นหวานสด นี่ขนาดคุณชณบอกว่าเป็นช่วงน้ำใหญ่ (น้ำขึ้นลงเยอะ) จะเป็นปูวางลอบ อร่อยน้อยกว่าปูวางอวนที่จับได้ช่วงน้ำตาย (น้ำขึ้นลงน้อย) เนื้อจะแน่นกว่านี้อีก แค่นี้ก็อร่อยเหาะแล้ว หรือจะสั่ง “ปูดำนึ่ง” หรือปูทะเล สนนราคาก็ดีมากๆ เพียงกิโลละ 850 บาท จะทำผัดผงกะหรี่ ผัดพริกไทยดำ หรือใส่ในแกงส้มก็ได้

กินปูแล้วก็ต้องกินกุ้งด้วย ห้ามพลาด “กุ้งลายเสือเผา” ตัวโตๆ เนื้อแน่นสด ขนาด 12 ตัว/กิโล (950 บาทต่อกก.) เผาเตาถ่านหอมๆ ปรุงด้วยซีอิ๊วขาวกับพริกไทย ซึ่งมากันไม่กี่คนจะสั่งแค่ 1-2 ตัวก็ได้

ส่วนของกินเล่นให้สั่ง “ยำสาหร่ายทะเล” (150 บาท) หรือสาหร่ายพวงองุ่นกรอบๆ จากจังหวัดเพชรบุรี ราดด้วยน้ำยำใส่ถั่วลิสงคั่ว (น้ำส้มตำไทยนั่นเอง) ที่ใส่ถ้วยแยกมาให้ต่างหาก ปิดท้ายด้วยใบเหมียงผัดไข่สักจาน

โอ๊ยยังมีของน่ากินอีกมากมาย เช่น “หมึกหอมย่าง” สดจากทะเลไม่แช่น้ำแข็ง “ปลาเผาชาวเล” ที่เป็นสูตรชาวเลจริงๆ คือเอาปลาอังเกยมาแล่ คลุกเครื่องขมิ้น ตะไคร้ กระเทียม แล้วนำไปเผาทั้งเกล็ด หรือจะกิน “กุ้งแชบ๊วยอบวุ้นเส้น” อบเกลือ หรือราดซอสมะขามก็ได้

ขณะที่กำลังเขียนต้นฉบับไปนี้ ท้องก็ร้องจ๊อกๆ เพราะยังฝันถึงรสชาติอร่อยของร้านปูม้า ปาร์ตี้ อยู่เลย ขอเชิญชวนแฟนๆ ไปเที่ยวจังหวัดตรัง ลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ ได้ทุกมื้อเย็น ตั้งแต่บ่าย 4 โมงจนถึง 5 ทุ่มครึ่ง (ครัวปิด 4 ทุ่มครึ่ง) ควรจองโต๊ะก่อนที่เบอร์ 08-1978-8100 นะจ๊ะ

---

ปูม้า ปาร์ตี้

โดย ชณมนัต ทองสถานุสถ์

ที่ตั้ง 43/56 ถนนควนขนุน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง 92000

โทร 08-1978-8100

เปิดบริการ 16.00-23.30 น. (ครัวปิด 22.30 น.) ทุกวัน

แนะนำ หอยตะเภาลวกจิ้ม หอยหลอดผัดฉ่า หอยโพงเผา แกงส้มปลาเก๋าดอกแดง ปลาทรายทรงเครื่อง ปูม้านึ่ง ปูดำนึ่ง กุ้งลายเสือเผา ยำสาหร่ายทะเล ใบเหมียงผัดไข่ หมึกหอมย่าง ปลาเผาชาวเล กุ้งแชบ๊วยอบวุ้นเส้น