“เบเกอรี่เฮลตี้” คนเเพ้แป้งสาลี – นมวัว – เบาหวาน กินได้ ชูเมนู “เค้กเต้าหู้” รายแรกในไทย

ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพมาแรง ทุกคนหันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น มีการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จึงทำให้เกิดธุรกิจร้าน “Meloliz healthy”

คุณวงศกร ศิวะพรชัย หรือ คุณเนม หนึ่งในเจ้าของร้าน เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นว่า ตนเองและเพื่อนอีก 3 คน คือ คุณลิซ่า ทากาชิระ (ลิซ่า) , คุณสิวัจ กุลชล (ตู้) , คุณชินณพัฒน์ ลิ้มกอบฤทธิ์ (แนค) ชอบทานขนมเพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะเมื่อก่อนพวกเราเคยอ้วน  แต่เนื่องจากขนมที่แคลอรี่น้อยหาทานค่อนข้างยาก จึงหัดลองทำทานเอง

ชายหนุ่มทั้ง 4 คน นอกจากจะเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกายแล้ว พวกเขายังออกกำลังกายและกินอาหารคลีนควบคู่ไปด้วย

“เวลาที่พวกผมซื้ออาหาร มักจะดูรายละเอียดโภชนาการอยู่เสมอ ดูส่วนผสมต่างๆ ว่ามีอะไรบ้าง แต่จากการสังเกตตามท้องตลาด  อาหารคลีน หรือ ขนมแคลอรี่น้อยที่ขายทั่วไป มักจะระบุส่วนผสมที่ไม่ค่อยชัดเจน เมื่อเป็นเช่นนั้นเลยคิดว่าทำไมไม่ทำกินเองซะเลย”

เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะทำขนมกินกันเอง คุณลิซ่าหนึ่งในหุ้นส่วน บอกว่า ลองหัดทำโดยสูตรเป็นเบเกอรีแบบญี่ปุ่น ที่สำคัญ คือ ไม่อ้วน คนที่แพ้แป้ง แพ้นมวัวกินได้

หลังจากลองหัดทำขนมกินกันเอง และให้คนใกล้ตัวได้ลองชิม แก๊งค์เพื่อนซี้ทั้ง 4 คน บอกว่า ทุกคนที่ได้ชิมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “อร่อย” และมีกระแสเรียกร้องให้เปิดร้าน

ปี 59 ร้าน Meloliz ถือกำเนิดขึ้น ใช้เงินลงทุนกว่า 2 ล้านบาท ทว่าการเปิดร้านในช่วงแรกไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เจ้าของร้าน เผยว่า ได้ลูกค้าค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม และด้วยทำเลที่ตั้งร้านไม่ได้อยู่ในแหล่งชุมชน ส่งผลให้รายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้ต้องหาช่องทางใหม่ โดยการนำขนมไปฝากขายในห้างสรรพสินค้า ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง ปัจจุบันมีสาขาเปิดในห้าง 3 สาขา หน้าร้าน 1 สาขา

สำหรับเมนูไฮไลต์ของทางร้าน คือ  “เค้กเต้าหู้” เมนูนี้รสชาติใกล้เคียงกับขนมเค้กทั่วไป  สูตรสำหรับคนที่แพ้ถั่ว นอกจากนั้นมีเมนูอื่น อาทิ บราวนี (ไม่มีส่วนผสมของแป้ง) ชาโคลบาร์ ส่วนผสมหลักเป็นธัญพืช ให้พลังงานสูง เหมาะสำหรับนักกีฬาที่ต้องการอาหารที่รับประทานง่าย สะดวก และให้พลังงานพอเหมาะกับการออกกำลังกาย คุกกี้มันญี่ปุ่น เมลตี้ช็อก (ทุกเมนูให้ความหวานด้วยหญ้าหวาน) เป็นต้น

วัตถุดิบที่เลือกใช้ ความหวาน ทางร้านจะไม่ใช้น้ำตาลทราย ใช้หญ้าหวานแทน ส่วนเกลือใช้เกลือหิมาลัย

ด้านกลุ่มลูกค้าของร้านเค้กดังกล่าว เจ้าของร้าน ระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง กลุ่มคนที่ออกกำลังกาย กลุ่มคนที่ทานเจ กลุ่มที่แพ้นม แพ้แป้งสาลี มีกลุ่มแม่และเด็ก  ส่วนราคาขายเริ่มต้น 35 บาท แพงสุด 155 บาท

ในอนาคต ร้าน “Meloliz”  จะมีเมนูใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ  เพื่อผู้ที่แพ้อาหาร เช่น แพ้นำตาล แพ้ไข่ เป็นต้น เป็นเมนูตามฤดูกาล หรือทำเมนูตามลูกค้าเรียกร้อง โดยจะทำแบบสำรวจความต้องการของ ส่วนการขยายสาขา คุณวงศกร บอกว่า อยากขยายไปในโรงพยาบาล และขยายไปในห้างที่มีกำลังซื้อสูงๆ