หนุ่มเบื่อชีวิตเมืองนอก กลับมาช่วยเมียขาย “ถังทอง-เบื้องกรอบ” โกยเดือนละ 7 หมื่น หาเงินส่งลูกเรียน

ปลื้ม! สองผัวเมียขาย “ถังทอง-เบื้องกรอบ” เดือนละ 6-7 หมื่น ส่งลูกเรียน-ใช้หนี้ ธ.ก.ส. สามีเผยเบื่อชีวิตลูกจ้างเมืองนอกกว่า 10 ปี ขอกลับบ้านอยู่กับครอบครัวลูกสาวรู้งานปิดเทอมช่วยพ่อแม่ค้าขายส่งน้องเรียน

เมื่อวันที่ 5 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีสองสามีภรรยาคนขยันสู้ชีวิตทำขนมถังทองและเบื้องกรอบขายหน้าตลาดสดสบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ทุกวัน เพื่อหารายได้ส่งลูกสาวกำลังเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ชั้นปีที่ 1 ลูกชายวัย 12 ปี เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และเลี้ยงดูแลแม่วัย 62 ปี รวมทั้งนำรายได้จากการขายขนมถังทองและเบื้องกรอบส่วนหนึ่งออมเพื่อชำระหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) โดยเฉลี่ยมีรายได้จากการขายขนมทั้งสองชนิดวันละ 2,000-2,500 บาท

นายศรชาย กองมงคล อายุ 40 ปี จ.พะเยา กล่าวว่า ตนเองเป็นลูกชาวนาพ่อเสียชีวิตตั้งแต่เด็กอยู่กับแม่และน้องชาย จนกระทั่งแต่งงานมีครอบครัว พบว่าภาระที่ต้องรับผิดชอบมีมากขึ้น 10 ปี ที่ผ่านมาจึงได้ดิ้นรนไปทำงานรับจ้างที่เมืองนอก โดยไปเป็นลูกจ้างในโรงงานที่ไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น สุดท้ายเมื่อกลางปีที่ผ่านมาตนเบื่อชีวิตการเป็นลูกจ้างที่เมืองนอกและอยากกลับบ้านมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ได้ดูแลแม่ที่อายุมากขึ้นทุกวัน จึงตัดสินใจกลับบ้าน พบว่าภรรยาของตนได้ทำขนมถังทองขาย ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่ทำแล้วมีความสุขและมีรายได้พออยู่ได้ ภรรยาขายขนมถังทอง ตนจึงคิดว่าอยากขายเป็นคู่ภรรยาหนุนเสริมกัน จึงได้ไปศึกษาการขายขนมเบื้องกรอบจากคนใน อ.เชียงคำ ซึ่งได้ขายแป้งและสอนทำไส้ขนมให้ เริ่มขายขนมเบื้องกรอบได้ประมาณ 2-3 เดือน เฉลี่ยขายได้วันละ 50-60 ถุงๆ ละ 10 บาท ถือว่าช่วยกันสองแรงแข็งขัน

ด้านนางสุพรรณ กองมงคล อายุ 38 ปี ภรรยาของศรชาย เปิดเผยว่า ช่วงที่สามียังทำงานต่างประเทศก็ยอมรับว่ามีภาระค่าใช้จ่ายและดูแลลูกทั้งสองคนในวัยเรียนหนักพอสมควร เพราะลูกสาวเรียนราชภัฏ ปี 1 ค่าใช้จ่ายสูง เฉลี่ยเดือนละ 10,000 บาท รวมค่าหอพัก ค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่ากิจกรรม ค่าหน่วยกิต ปีละประมาณ 150,000 บาท นอกจากนี้ยังมีภาระหนี้ ธ.ก.ส.ที่กู้มาทำนาทุกปีๆ ประมาณ 100,000 บาท ดังนั้นตนจึงได้พยายามคิดหาทางทำการค้าขายเพื่อให้มีรายได้เสริมจากการทำนาปี ทดลองค้าขายมาหลายอย่างแต่ในที่สุดก็มาพบขนมถังทอง ได้ไปเรียนและซื้อสูตรมาจำนวน 15,000 บาท มีไส้มะพร้าว-น้ำตาล ใบเตย ฝอยทอง เม็ดขนุน ลูกเกด พริกเผา-หมูหย็อง ทองหยอด ข้าวโพด และครีม เปิดร้านขายหน้าตลาดสดสบบง ขายมาได้ประมาณ 5 เดือน ขายได้วันละ 150-170 ชิ้นๆ ละ 10 บาท ถือว่าเป็นจุดที่สามารถอยู่ได้ เลี้ยงลูก ช่วยเหลือดูแลคนในครอบครัวอย่างมีความสุข

ขณะที่ น.ส.ศิริญญาพร กองมงคล หรือ ฟิล์ม ลูกสาววัย 19 ปี กำลังเรียนคณะมนุษย์ศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เปิดเผยว่า กลับมาบ้านช่วงปิดภาคเรียนเห็นพ่อกับแม่ทั้งสองคนช่วยกันขนของออกไปทำขนมขายที่หน้าตลาดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 น. กว่าจะเลิกขายเมื่อแป้งและไส้ขนมหมดประมาณ 18.00-19.00 น. เมื่อปิดภาคเรียนมีโอกาสจึงได้ออกมาช่วยพ่อกับแม่ขายขนม แบ่งเบาภาระได้ก็รีบทำโดยที่ไม่ต้องให้พ่อกับแม่ได้ร้องขอ ซึ่งมาเห็นพ่อกับแม่ขายขนมแล้วรู้ว่ากว่าจะหาเงินได้เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ดังนั้นการใช้จ่ายต้องรู้คุณค่าของเงิน จากการที่ได้มาช่วยพ่อกับแม่ขายของทำให้เห็นว่าคนเราขอเพียงขยันและสู้ชีวิต ค่อยๆ คิด เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ