ลาบอ้ายแดง ร้านลาบที่เมืองกำลังมาแรงแห่งหละปูน (ลำพูน) โดย ปิ่นโตเถาเล็ก

จากการที่ปิ่นโตเถาเล็กได้ตระเวนชิมทั่วทุกทิศทั่วไทยมาเกือบ 20 ปี ได้ค้นพบสัจธรรมที่ว่า ร้านอร่อยชื่อดังประจำแต่ละเมือง จะเล็กใหญ่เก่าใหม่ไม่เป็นไร แต่สำคัญต้องเป็นร้านที่เจ้าของลงมือปรุงอาหารด้วยตัวเอง เห็นได้ชัดว่าร้านไหนเจ้าของใส่ใจทำเอง ร้านนั้นอร่อยผิดหูผิดตา

คราวนี้ได้มาเที่ยว เมืองลำพูน สุดแสนดีใจได้เจอร้านลาบอาหารเมืองขึ้นชื่อแห่งเมืองหละปูน เปิดมานาน 8 ปีแล้ว ตอนกลางวันมีขาประจำทั้งคนทำงาน ข้าราชการ มาอุดหนุนกันตึม ถึงขนาดต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีแย่งกันชิม ร้านนี้มีชื่อว่า ลาบอ้ายแดง

ทางไปร้านให้ตั้งต้นที่หน้า แจ่มฟ้าช้อปปิ้งมอลล์ ศูนย์การค้าใหญ่ประจำเมือง ตรงมาที่ สามแยกป่าสัก ใกล้ๆ กัน แล้วเลี้ยวขวามาตาม ถนนเลี่ยงเมืองลำพูน สาย 116 เพียง 1 กิโล แล้วเลี้ยวซ้ายที่สี่แยก ซึ่งคนลำพูนเรียกว่า สี่แยกโรงแรมเอทีเอ็ม เลี้ยวซ้ายอีกครั้งเข้าซอยแรกทันที เข้ามานิดเดียวก็จะเห็นร้านลาบอ้ายแดงอยู่เบื้องหน้า เป็นบ้านชั้นเดียว มีที่จอดรถหลายจุดรอบๆ

คุณนงลักษณ์ ภรรยาของอ้ายแดง (คุณชัชวาล) พื้นเพเป็นคนเชียงราย เคยขายอาหารอยู่หน้าเครือสหพัฒน์ลำพูน จากนั้นจึงออกมาเป็นแม่ครัวว่าการเรื่องอาหารให้อ้ายแดงเอง ฝีมือเด็ดขาดจนคนติดกันงอมแงม

มาร้านนี้ควรรีบมาตอนสายๆ ประมาณ 10 โมงเช้า ก่อนที่คนจะเยอะ ซึ่งเวลานั้นจะมีของทุกอย่างเตรียมเสร็จครบถ้วนแล้ว อยากกินอะไรให้ทำเครื่องหมายจดจำนวนที่ต้องการในเมนูกระดาษแผ่นยาวๆ ซึ่งมีให้ตามโต๊ะ เมนูมีไม่มาก ประมาณ 20 อย่างเท่านั้น

ของดีที่มีจำนวนจำกัด ห้ามพลาดเป็นอันขาดคือ หางหมูกรอบ ซึ่งเขาจะเอาหางหมูมาคลุกเกลือแล้วลงทอดจนหนังกรอบฟู เนื้อในนุ่มๆ หอมๆ แทะมัน อร่อยกว่ากินหมูกรอบเสียอีก ซึ่งวันที่ไปชิมมีแค่ 7 กิโล หรือ 23 จานเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย ควรโทรจองนะจ๊ะ

มาร้านลาบ แน่นอนว่าต้องมีลาบขึ้นชื่อประจำร้าน ทั้ง ลาบหมูใส่เครื่องใน และ ลาบควาย ทั้งดิบและสุก ซึ่งคนเหนือจะชอบกินลาบดิบสีแดงสด ส่วนผมชอบกินลาบคั่ว หอมพริกลาบซึ่งที่ร้านซื้อมาปรุงเพิ่มเอง ลำแต๊ๆ นัวอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา คนกินเนื้อได้ ให้สั่งลาบควายยิ่งอร่อย

เมนูเนื้ออาหารเมืองอีกอย่างคือ แกงอ่อมเนื้อ ใส่เนื้อติดมันสามชั้นและเครื่องในอย่างเช่นปอดนุ่มๆ เครื่องแกงอ่อมแสนอร่อยนั้นทางร้านทำเอง เก็บใส่หม้อไว้ใช้ได้ทีละ 1 อาทิตย์

และที่ห้ามพลาดเช่นกันคือ ต้มแซ่บเนื้อ ใส่เนื้อสามชั้นหอมมัน รสแซ่บหอมพริกขี้หนูทุบ ปรุงด้วยขึ้นฉ่าย อีกอย่างที่เด็ดมากคือ จิ้นนึ่ง (60 บาท) หรือเนื้อน่องลายนึ่งนุ่มๆ หนึบๆ จิ้มกับน้ำพริกข่า

ส่วนคนไม่กินเนื้อ ก็มีเมนูหมูสารพัดอย่าง สุดยอดทั้งนั้น ให้สั่ง ต้มซี่โครงหมู ใส่ซี่โครงหมูอ่อนต้มนานครึ่งชั่วโมงจนได้ที่ เปรี้ยวหอมจัดจ้านถึงเครื่อง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมใหญ่ และขมิ้น ใส่ทั้งพริกแห้งและพริกขี้หนูสด อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือ ยำตับหวาน (หมู) ชิ้นโตๆ หนานุ่มสดอร่อย ปรุงด้วยข้าวคั่ว อร่อยเด็ดไม่แพ้ร้านอีสาน

ต่อด้วย แกงฮังเล ใส่เนื้อสันคอหมูติดมันนุ่มอร่อย ปรุงพริกแกงเพิ่มใส่น้ำมะขามเล็กน้อยไม่เปรี้ยวจนเกินไป รสกลมกล่อมนัวมาก

เมนูพื้นบ้านซึ่งเป็นของหายากในกรุงเทพฯ น้อยร้านที่จะมี ได้แก่ แป้งนมย่าง (60 บาท) หรือนมหมูย่าง ย่างได้นุ่มหอมมากที่สุดเท่าที่เคยกินมาทีเดียว หรือจะสั่ง หมูย่าง แทนก็ได้

มาเมืองเหนือต้องกินแหนม หรือ จิ้นส้ม ซื้อแหนมมาหมกเองจนสุกนุ่มหอมเปรี้ยวอร่อย แคบหมู ชิ้นยาวๆ นั้นก็น่าลอง รีดมันออกแล้วทอดจนกรอบอร่อย และก็มี ต้มยำไส้ตัน ใส่ผักไผ่หรือผักแพวหอมๆ ด้วย ไส้ตันนุ่มกรอบเด้ง สนนราคาอาหารทุกอย่างคือ 50 บาทเท่านั้น ยกเว้นแป้งนมย่างกับจิ้นนึ่งที่คิด 60 บาท

สรุปว่ามาร้านอ้ายแดง สั่งอะไรมาชิมก็ถูกใจไปหมด คุณนงลักษณ์บอกว่า ยังขาดอีก 1 อย่างที่ยังไม่ได้ลิ้มลองคือ อบปลาดุก หน้าตาคล้ายฉู่ฉี่แต่ไม่มีกะทิ ปรุงด้วยพริกแห้ง ตะไคร้ หอมแดง หอมใหญ่ ใบมะกรูด ขมิ้น กระเทียม ไม่เป็นไร คราวหน้าต้องแวะมาชิมใหม่อีกแน่นอน

ใครบินมาเที่ยวเชียงใหม่ ขอให้ตั้งใจมาเที่ยวลำพูนด้วย แค่ขับมาครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ขอเชียร์ให้มาชิมร้านลาบอ้ายแดงให้จงได้ ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น (ถึงแม้จะบอกว่าเปิดถึง 6 โมงเย็น แต่ส่วนใหญ่อาหารหมดก่อนตลอด) มาไม่ถูกโทรถามทางได้ที่ 08-1300-0921 นะจ๊ะ

ลาบอ้ายแดง

โดย คุณชัชวาล (อ้ายแดง) สุยะสัก

ที่ตั้ง 63/1 หมู่ 4 ถ.เลี่ยงเมืองลำพูน (สาย 116) ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน 51000

โทร 08-1300-0921

เปิดบริการ 08.00-16.00 น. (ไม่เกิน 18.00 น.) ทุกวัน

หยุด เมื่อมีงานในหมู่บ้าน (ไปช่วยงาน)

แนะนำ หางหมูกรอบ ลาบหมู ลาบควายทั้งดิบและสุก แกงอ่อมเนื้อ ต้มแซ่บเนื้อ จิ้นนึ่ง ต้มซี่โครงหมู ยำตับหวาน (หมู) แกงฮังเล แป้งนมย่าง จิ้นส้ม แคบหมู ต้มยำไส้ตัน