สองสามีภรรยาอดีตเจ้าของร้านอาหารเจอพิษเศรษฐกิจจนต้องปิดกิจการ จนลูกสาวไปกินข้าวเห็นแม่ค้าขายใส่ถาดปิ๊งไอเดียบอกพ่อแม่ลองขายข้าวกระเพราถาดยักษ์เจ้าแรกของบุรีรัมย์ พร้อมถ่ายรูปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก วันต่อมามีลูกค้าแน่นร้านจนทำไม่ทัน ยอดขายวันละเกือบ 300 ถาด

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีสองสามีภรรยาเปิดร้านขายข้าวกระเพราถาดยักษ์ เป็นที่ฮือฮาของชาวบ้านมีลูกค้าอุดหนุนแน่นร้าน จึงเดินทางไปตรวจสอบ ทราบว่าสองสามีภรรยาดังกล่าวคือ
นายชวเลิศ และนางกณิการ์ สุขนิพันธ์ สองสามีภรรยา อดีตเจ้าของร้านอาหารชื่อดังที่จังหวัดบุรีรัมย์ที่เปิดขายมานานกว่า 5 ปี แต่สู้วิกฤตเศรษฐกิจไม่ไหวตัดสินใจปิดกิจการ หันไปเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง แต่ก็ยังไม่ค่อยมีลูกค้าเท่าที่ควรยอดขายวันละไม่ถึง 1,000 บาท

กระทั่งลูกสาวซึ่งเรียนอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ไปกินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่ง เห็นแม่ค้าใช้ถาดเป็นภาชนะใส่อาหารแทนจาน แต่กลับได้รับความสนใจจากลูกค้า จึงเกิดไอเดียมาบอกพ่อกับแม่ให้ลองขายข้าวผัดกระเพราถาดยักษ์ จึงตัดสินใจลองทำตามที่ลูกสาวแนะนำ อีกทั้งลูกสาวยังได้ถ่ายรูปโพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวนลูกค้าเปิดแล้ว “ครัวแฟร์แฟกระเพราถาด” เจ้าแรกของบุรีรัมย์ ที่ซอยบุลำดวนเหนือ ต.ในเมือง อ.เมืองบุรีรัมย์ เพียงวันแรกก็มีลูกค้าทั้งข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปแห่มากินข้าวผัดกระเพราถาดยักษ์แน่นร้านจนทำไม่ทัน และถาดที่เตรียมไว้เพียงพอกับลูกค้า จนต้องไปซื้อถาดเพิ่ม

สำหรับข้าวกระเพราถาดของที่ร้านจะมีทั้งกระเพราหมูสับ กระเพราะหมูกรอบ และกระเพรารวม โดยทุกถาดจะมีไข่ดาวด้วย แต่ขายเพียงถาดละ 40 บาทเท่านั้น ด้วยปริมาณที่เยอะเต็มถาดและรสชาติอร่อย ทำให้เป็นที่ถูกใจของลูกค้าและกลายเป็นจุดขายของร้าน โดยลูกค้าที่มารับประทานก็จะถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กด้วย หลังจากเปิดขายข้าวกระเพราถาดมาได้เพียง 11 วัน ก็มีลูกค้าแน่นร้านทุกวัน มียอดขายวันละ 200-250 ถาด บางวันเกือบถึง 300 ถาด หากคิดเป็นยอดขายก็ไม่ต่ำกว่าวันละ 10,000 บาท

น.ส.เกวลิน สุขนิพันธ์ หรือน้องเกรฟ บอกว่า เมื่อก่อนเห็นพ่อกับแม่ขายอาหารไม่ค่อยดี หลังจากตัวเองไปเห็นแม่ค้าที่ชลบุรีนำถาดมาใส่ข้าวขาย จึงได้แนะนำให้พ่อแม่ลองขายกระเพราถาดยักษ์เพื่อสร้างจุดขายดึงดูดลูกค้า จึงกลายเป็นเจ้าแรกของจังหวัดที่ขายกระเพราะถาด จนมีลูกค้าแห่มาอุดหนุนแน่นร้านเกินคาดจนทำไม่ทัน โดยถาดที่นำมาใส่ก็จะมีใบตองรองอย่างดี

ด้านนายชวเลิศ สุขนิพันธ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เปิดร้านอาหารมีทั้งอาหารเครื่องดื่มมีนักเรียนพนักงานเสิร์ฟ แต่ระยะหลังสู้วิกฤตเศรษฐกิจไม่ไหวจึงตัดสินใจปิดกิจการ หันมาขายอาหารตามสั่งแต่ก็ขายไม่ค่อยดี กระทั่งลูกสาวแนะนำให้ขายข้าวกระเพราถาดยักษ์ พอลองขายวันแรกก็มีลูกค้าแห่มาอุดหนุนแน่นร้าน จนทำไม่ทันกลายเป็นจุดขายของร้าน ส่วนราคาก็ไม่แพงกระเพราะหมูสับพร้อมไข่ดาวถาดละ 40 บาท กระเพราะหมูกรอบ และกระเพราะรวมพร้อมไข่ดาวถาดละ 50 บาท

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์