ฉวนล่าหม้อไฟ ธุรกิจแฟรนชไส์หม่าล่าสัญชาติไทยสุดฮอต เปิดมาครึ่งปี ขยายสาขาแล้วกว่า 35 แห่ง!

ปัจจุบัน อาหารที่ได้รับความนิยมและเป็นที่กล่าวถึงอย่างมากคงหนีไม่พ้น หม่าล่า โดยเฉพาะ หม่าล่าสายพาน เมนูสุดเผ็ดร้อนสุดจัดจ้านจากประเทศจีน มีรสชาติมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ ความชา ที่ใครๆ ก็หลงรัก และเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้คุยกับ คุณเกม-จุลพันธ์ วงศกิตติรักษ์ เจ้าของ ฉวนล่าหม้อไฟ ร้านแฟรนไชส์หม่าล่าสายพานสัญชาติไทย ที่เปิดมาได้ครึ่งปี แต่ขยายสาขามาแล้วกว่า 35 สาขา!

คุณเกม เล่าว่า ก่อนที่จะเข้ามาทำธุรกิจหม่าล่า คุณเกมนั้นอยู่ในแวดวงและมีประสบการณ์ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารมาแล้วกว่า 9 ปี โดยผ่านการทำธุรกิจอาหารมาหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นร้านบุฟเฟต์ ร้านปิ้งย่าง ร้านดีลิเวอรี ฯลฯ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงทำอยู่

อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ ธุรกิจหม่าล่าสายพาน ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นอาหารที่มีราคาชัดเจน สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี มองเห็นช่องว่างทางการตลาดที่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นใหม่ๆ เข้าไปชิงส่วนแบ่งทางการตลาด จึงได้ริเริ่มทำธุรกิจหม่าล่าสายพานขึ้นมา ภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘ฉวนล่าหม้อไฟ’

“ด้วยความที่ผ่านการทำธุรกิจอาหารมาเยอะ บวกกับด้วยประสบการณ์ที่ยาวนาน 9 ปี แล้วเราก็ขยายสาขากิจการต่างๆ ของเรามา 50 กว่าสาขาทั่วประเทศ ต่างประเทศก็เคยเปิดสาขามาแล้ว ผมก็เห็นว่าทางบริษัท ทีมงานสำนักงานใหญ่ มีความพร้อมมาก พอเราเห็นว่าหม่าล่าเป็นธุรกิจที่เริ่มน่าสนใจก็เริ่มทำการศึกษา รีเสิร์ชข้อมูล แล้วก็รู้สึกว่ายังไม่มีแบรนด์ไหนที่ทำน้ำซุปหม่าล่าออกมาตอบโจทย์กับลูกค้าได้ทุกกลุ่ม”

“เพราะจุดบอดที่เราเห็น มาจากการที่บางทีคนที่ออฟฟิศบางคนไม่ทานเผ็ด บางคนไม่ทานมัน เราจึงมีการคิดค้นสูตรของตัวเองขึ้นมา และสร้างจุดแข็งของแบรนด์ที่สามารถแข่งขันได้ แล้วพอเรายิ่งหาข้อมูล ก็ยิ่งเห็นอัตลักษณ์ของแต่ละมณฑลที่เป็นต้นกำเนิดของหม่าล่า เลยเอามาประยุกต์ใช้ให้มันเข้ากับความต้องการของลูกค้าจริงๆ” คุณเกม ว่าอย่างนั้น

โดยรูปแบบของร้านฉวนล่าหม้อไฟนั้น เป็นหม่าล่าสายพานที่ลูกค้าจะนั่งทานอยู่บริเวณรอบๆ สายพาน ลูกค้า 1 ท่านต่อ 1 โต๊ะหรือ 1 หม้อน้ำซุป ส่วนสายพานนั้นจะใช้เพื่อการวางอาหาร ให้ลูกค้าเลือกหยิบอาหารมาทานได้ตามความชอบ

ซึ่งอาหารบนสายพานนั้นจะใช้วิธีการเสียบไม้ตามสี โดยที่สีของไม้จะเป็นตัวกำหนดราคาของอาหารนั้นๆ เพราะในการคิดเงิน จะคิดตามจริงที่ลูกค้าทาน ว่า ทานไปทั้งหมดกี่ไม้และไม้นั้นๆ มีสีอะไรบ้าง สามารถเลือกทานคู่กับน้ำจิ้มตามสูตรของทางร้าน หรือสามารถปรุงน้ำจิ้มเองได้ตามความต้องการ

“น้ำซุปของเราจะมี 7 สูตรนะครับ เป็นน้ำซุปฉงชิ่ง น้ำซุปเสฉวน น้ำซุปปักกิ่ง น้ำซุปยูนนาน กวางตุ้ง น้ำซุปกระดูกหมูญี่ปุ่น และน้ำซุปน้ำดำญี่ปุ่น (คันโต) ส่วนน้ำจิ้มก็มีอยู่ด้วยกัน 4 สูตร คือ ฉวนล่าสูตร 1 ฉวนล่าสูตร 2 ฉวนล่าสูตร 3 และ ฉวนล่าสูตร 4 ส่วนราคาก็เริ่มต้น 49 บาท ได้ 1 น้ำซุป หรือเป็นหม้อแบ่งครึ่ง 2 น้ำซุปก็ราคา 59 บาท ของในร้านก็ตามสีตามราคาเลยครับ สีเขียว 5 บาท สีเหลือง 10 บาท สีม่วง 20 บาท ถาดสีขาว 20 บาท จะเป็นพวกหมู พวกซีฟู้ด สีแดงจะเป็นพวกไส้เป็ด 30 บาท แล้วก็เป็นเนื้อโคขุนไทย ส่วนถาดสีดำจะเป็นเนื้อออสเตรเลีย เนื้อวัวออสเตรเลีย แล้วก็เนื้อแกะออสเตรเลีย อันนี้ราคาถาดละ 50 บาท”

“ฉวนล่าหม้อไฟ เราเปิดดำเนินกิจการอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2565 โดยโมเดลธุรกิจที่เราตั้งเป้าไว้ตั้งแต่แรกเลยคือ เราจะเป็นโมเดลขายแฟรนไชส์แต่แรก และตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นธุรกิจหม่าล่าสายพานที่มีสาขาเยอะที่สุดในประเทศไทย ซึ่งภายใน 3 เดือน เราขยายสาขาไป 10 สาขา ปัจจุบันกิจการดำเนินมาได้กว่าครึ่งปี ตอนนี้เรามีสาขาทั้งสิ้น 35 สาขาแล้วครับ รวมสาขาที่เราเป็นเจ้าของเอง 4 สาขาแล้ว” คุณเกม เล่าอย่างนั้น

นอกจากนั้น คุณเกม ยังบอกอีกว่า แฟรนไชส์ฉวนล่าหม้อไฟ มีที่ 1 ห้องแถวก็สามารถเปิดได้ เพราะลงทุนน้อย คืนทุนไว กำไรดี นี่คือคอนเซ็ปต์ของแบรนด์เลย รวมถึงทางแบรนด์มองไปถึงว่า ถ้าวันหนึ่งที่กระแสมันจะดรอปลง ฉวนล่าแม้ขายไม่ดี แต่ก็ต้องมีกำไร

“มันคือสิ่งที่เรากังวลแต่แรกว่า ไอ้ขายดีไม่ต้องห่วงหรอก ใครๆ ก็มีกำไร แต่ต้องมองว่า ถ้าวันหนึ่งขายไม่ดีขึ้นมา ธุรกิจยังต้องมีกำไรนะ เราต้องเซตโมเดลให้พอดี ใช้คนให้น้อย สามารถบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบอะไรต่างๆ ได้ เราจึงมีการวางโครงสร้างต้นทุนอย่างระมัดระวังที่สุด เพื่อให้ไม่ว่าจะสาขาของบริษัทเองหรือสาขาแฟรนไชส์ จะต้องมีกำไรเสมอแม้ยอดขายจะตกลง ฉวนล่าเป็นแฟรนไชส์ที่มีระบบระเบียบ ไม่ใช่แฟรนไชส์ที่ขายแล้วลูกค้าไปผจญภัยเอง”

“เราเริ่มเซตตั้งแต่เขาเป็นศูนย์ ไม่เคยทำร้านอาหารมาก่อน จนเขาเปิดร้านได้ เราช่วยทำการตลาดให้ มีอินฟลูเอนเซอร์มารีวิวให้ ช่วยไอเดีย หาสินค้าใหม่ๆ มาให้ มีทีม QA คอยตรวจสอบคุณภาพ รวมถึงซัพพลายเชน เราก็ดีลให้หมด ลูกค้าที่มาซื้อ เขาก็ชอบและถูกใจ พอเปิดร้านสาขาแรกแล้วมันนิ่ง เขาก็กลับมาซื้อแฟรนไชส์ไปทำสาขาที่ 2 ที่ 3 ก็ต้องยกเครดิตให้การเตรียมงานที่ความพร้อมและทีมงานที่เราทุ่มเทให้หนักจริงๆ เพราะเราก็อยากเติบโตและก้าวเดินอย่างมั่นคงไปกับลูกค้าพาร์ตเนอร์ของเรา” คุณเกม ว่าอย่างนั้น

โดยแฟรนไชส์ของ ฉวนล่าหม้อไฟ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ประเภท คือ

1. ประเภท A – อาคารพาณิชย์ 1 ห้องแถว (หรือพื้นที่ประมาณ 90 ตารางเมตร) สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 20-30 ที่นั่ง (1 สายพาน) ลงทุนประมาณ 1.4 ล้านบาท

2. ประเภท B – อาคารพาณิชย์ 1 ห้องแถว 2 ชั้น (หรือพื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตร) สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 40-60 ที่นั่ง (2 สายพาน) ลงทุนประมาณ 2.2 ล้านบาท

3. ประเภท C – อาคารพาณิชย์ 2 ห้องแถว (หรือพื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตร) สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 40-60 ที่นั่ง (2 สายพาน) ลงทุนประมาณ 2.3 ล้านบาท

4. ประเภท D – อาคารเดี่ยว (หรือพื้นที่ประมาณ 300 ตารางเมตร) สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 60 ที่นั่ง (2 สายพาน) ลงทุนประมาณ 4.5 ล้านบาท

5. ประเภท E – ห้างสรรพสินค้า (หรือพื้นที่ประมาณ 120 ตารางเมตร) สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 30 ที่นั่ง (1 สายพาน) ลงทุนประมาณ 3 ล้านบาท

“ส่วนใหญ่เลย คุยอย่างแรกก็ต้องคุยที่โมเดลเล็กสุด โมเดลไทป์ A ก็คือ 1 ห้องแถว 1 สายพาน ลงทุนแค่ล้านต้นๆ เราก็จะแบบอธิบายเลยว่าในนั้น ค่าใช้จ่ายล้านต้นๆ มีอะไรบ้าง ส่วนมาคุยว่าคุณลูกค้ามาจากจังหวัดไหน มีตึกอยู่แล้วหรือไม่ บางคนโจทย์คือเขามีตึกมาอยู่แล้วนะ บางคนยังไม่มีตึกเลย ก็ไปหาทำเล ไปหาจริงปุ๊บ ไปเจอ 2 ห้องแถว ก็ต้องคุยกัน แล้ว 2 ห้องแถวค่าใช้จ่ายมันก็ต้องเพิ่มขึ้นนะ ถ้าเพิ่มขึ้นมาจะต้องมีสายพานที่ยาวขึ้น แอร์ต้องมากขึ้น เก้าอี้ต้องมากขึ้น ถ้วยชามมากขึ้น เตา-หม้อมากขึ้น ก็ต้องคุยให้ลูกค้าเข้าใจว่าค่าใช้จ่ายจะเป็นอย่างงี้นะ ลูกค้าโอเคไหม ถ้าลูกค้ามองเห็นโอกาสว่าได้ เพียงพอ ก็สร้างเลย ทำเลย”

“ผมมองว่าถ้าแบรนด์ที่มีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง มีหลังบ้านที่เข้มแข็ง นะครับ สุดท้ายแล้วอ่ะ ทุกเซกเมนต์หรือว่าทุกวงการแหละครับ  มันจะต้องมีคนที่โรยรา และมีผู้รอดอยู่เสมอนะครับ ก็คิดว่าเราค่อนข้างที่จะมั่นใจ ว่าทีมงานเราพร้อม  ขึ้นขบวนรถไฟไปกับเรา ตอนนี้รถไฟออกแล้วนะครับ รีบกระโดดขึ้นรถไฟมากับเรานะครับ แล้วเรามั่นใจว่าเราขับเคลื่อนไปได้แน่นอน”

“เราไม่หยุดยั้ง เราทำการตลาดอยู่ตลอดเวลา เราปรับปรุงตัวเอง เราหาของใหม่ๆ มาอยู่ตลอดเวลา เราไม่ใช่แฟรนไชส์ขายทิ้ง ขายแล้วคุณก็ไปผจญภัยกันเองนะ ขายดีไม่ดีไม่ใช่เรื่องของเรานะ เราขายมาแล้วได้โชคได้เงินก้อนมาแล้วปล่อยเบลอก็ไม่ใช่ แต่เราอยู่กันเป็นพาร์ตเนอร์ 5 ปี หรือ 60 เดือนตลอด ดังเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่เราวางเอาไว้ว่า ขายไม่ดี ต้องมีกำไรเสมอแม้ยอดขายจะตกลง แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทิศทางของลมได้ แต่จะต้องสามารถปรับตัวของเราเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายได้เสมอ” คุณเกม ว่าอย่างนั้น

สอบถามเพิ่มเติม เฟซบุ๊ก ฉวนล่าหม้อไฟ 川辣火锅 หรือ โทร. (082) 862-3333