กล้วยทอดมือระวิง วันละ 100 หวี รับเงินวันละหมื่น เอาใจลูกค้ารักสุขภาพใช้เครื่องสลัดน้ำมัน-มีน้ำจิ้ม

แถวถนนบางกรวย-ไทรน้อย มีร้านกล้วยแขกร้านหนึ่ง ดูภายนอกเป็นร้านเล็กๆ ติดริมถนน เป็นร้านที่ดูธรรมดาเปิดมานาน 8 ปี เเต่เชื่อหรือไม่ว่า ลูกค้ามายืนออต่อคิวแน่นตลอดทั้งวัน ถึงขั้นต้องแจกบัตรคิวเลยทีเดียว

คุณสุนทรี นันทวัฒกี หรือ ป้าติ่ง วัย 54 ปี เจ้าของร้าน “กล้วยแขกพระราม ๕” เธอเล่าว่า “ส่วนตัวเป็นคนชอบกินกล้วยทอด แต่เวลาไปซื้อร้านไหนๆ มักจะมัน อมน้ำมัน  เหม็นหืนน้ำมัน ซึ่งไม่ค่อยชอบ อีกทั้งอยากหารายได้เสริมมาช่วยเหลือครอบครัว เลยตัดสินใจเปิดร้านกล้วยทอด ได้สูตรมาจากน้าสาว ขายอยู่แถวเมืองทองธานี ถนนเเจ้งวัฒนะ

ป้าติ่งเดิมทีเป็นพนักงานออฟฟิศ  แต่พอมีครอบครัว เธอตัดสินใจลาออกจากงานมาเปิดร้านกล้วยทอด ด้วยพื้นเพเป็นคนจังหวัดนนทบุรี จึงทราบดีว่า พื้นที่จังหวัดนี้ มีสวนผลไม้เยอะ สวนกล้วยก็เช่นเดียวกัน

“แต่ก่อนพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ปลูกกล้วยกันเยอะมาก ช่วงที่ตัดสินใจว่าจะขายกล้วยแขกนั้น ได้สูตรมาจากน้าสาว ซึ่งขายอยู่แถวเมืองทองธานี เเจ้งวัฒนะ นำสูตรมาปรับจนเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน”

ช่วงแรกที่เปิดขาย เจ้าของร้าน เผยว่า ขายได้ไม่ดีเท่าไหร่ ได้เงินวันละ 100-200 บาท แต่ไม่ท้ออาศัยพัฒนาสูตรเรื่อยมา พยายามปรับสูตรแป้งให้ถูกปากลูกค้าให้มากที่สุด จนกระทั่งได้สูตรที่คิดขึ้นมาเอง สามารถทอดได้ทั้งกล้วย มันและเผือก”

นอกจากแป้งทอดกล้วย จุดเด่นอีกอย่างของ “ร้านกล้วยแขกพระราม๕”  คือ เครื่องสลัดน้ำมัน โดยป้าติ่ง บอกว่า “ด้วยส่วนตัวที่ไม่ชอบกินกล้วยแขกแบบมีน้ำมันเยอะๆ จึงพยายามหาวิธีที่ไล่น้ำมันในกล้วยแขกออก จึงไปได้เครื่องสลัดน้ำมันมาใช้ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีร้านกล้วยแขกพระราม๕ ที่นี่ร้านเดียวที่นำเอาเครื่องมาใช้งาน

ตอนแรก กังวลว่าเสียเงินไปซื้อเครื่องสลัดน้ำมันมาใช้แล้ว จะได้ผลดีหรือเปล่า และที่สำคัญคือ กังวลเรื่องการหักของของทอดไม่ว่าจะเป็นกล้วย มัน หรือเผือก เนื่องจากของทอดเหล่านี้ถูกชุบด้วยแป้ง แต่ก็ตัดสินใจซื้อมาใช้ เพราะไม่อยากให้มีการอมน้ำมัน และลูกค้าต้องกินน้ำมันเยอะๆ ผลปรากฏว่า ได้ผลดีเกินคาดมาก นอกจากของที่ทอดจะไม่แตกหักและไม่อมน้ำมันแล้ว ยังได้น้ำมันกลับมาใช้อีกครั้งด้วย เป็นที่มาของสโลแกนร้านว่า กรอบนอก นุ่มใน ไม่อมน้ำมัน”

อีกจุดเด่นหนึ่งที่ลูกค้าชื่นชอบ คือ น้ำจิ้ม ซึ่งเป็นสูตรน้ำจิ้มที่คิคและปรับสูตรทำขึ้นมาเองเป็นของทางร้านโดยเฉพาะ ป้าติ่ง บอกว่า “เป็นน้ำจิ้ม สำหรับจิ้มเวลากินมันและเผือกทอด ไม่แน่ใจว่ามีร้านไหนทำหรือเปล่า แต่ทางร้านนี้มี และลูกค้าชอบมาก คนที่กินเป็นจะต้องขอน้ำจิ้มอย่างน้อย 2 ชุด หลายคนมาขอเอาไปชิม ไปลอง กลับมาซื้อต้องขอกลับไปทุกคราว เนื่องจากรสชาติที่เข้ากันเวลากิน”

การทอดกล้วย ต่อวันใช้กล้วยจำนวนกว่า 100 หวี, มัน ประมาณ 20-30 กิโลกรัม และเผือกอีกกว่า 30 กิโลกรัม ใช้น้ำมันพืช ต่อวัน 20 กิโลกรัม แป้งที่ใช้ทอดกว่า 30 กิโลกรัม ขายในราคาตั้งแต่ 10 บาทเป็นต้นไป ยอดขายต่อวันอยู่ที่ประมาณ 8,000-10,000 บาท ด้วยความเป็นคนที่มีนิสัยซื่อสัตย์และอยากทำตามกฎระเบียบให้ถูกต้อง ป้าติ่งจึงเข้าไปขอยื่นเสียภาษีด้วยตนเอง ซึ่งทำต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว

ปัจจุบันนี้ ร้านกล้วยแขกพระราม ๕ เป็นที่รู้จักอย่างดีจากขาประจำและขาจร เนื่องจากมีหลายรายการจากช่องทางออนไลน์และสื่อต่างๆ มาขอสัมภาษณ์ทำให้พอเป็นที่รู้จัก ลูกค้าเยอะมากขึ้น จึงมีการทำบัตรคิวแจกให้กับลูกค้าที่มาต่อคิวซื้อ ทั้งป้าติ่ง ยังเกรงใจลูกค้าที่มาต่อคิวซื้อนานๆ จึงซื้อพัดลมมาเปิดให้บริการสำหรับลูกค้าที่เข้าคิว ร่วมถึงแจกน้ำให้ดื่มอีกด้วย

“แม้ปัจจุบันนี้ ราคาสินค้าหลายอย่างจะขึ้น แต่ทางร้านก็จะยังขายในจำนวนชิ้นและราคาเท่าเดิม ไม่อยากขึ้นราคาอีกแล้ว อย่างกล้วยที่ขายดีมาก จนขาดตลาด ราคาจึงพุ่งสูงขึ้นเป็นหวีละ 50 บาท ทางร้านก็ยังจะพยายามหามาทอดขายให้ได้ เพราะไม่อยากให้ลูกค้าที่มาเข้าคิวเสียความรู้สึก กลัวเขามารอต่อคิวแล้วไม่มีให้เขากิน” ป้าติ่ง บอกกับเส้นทางเศรษฐีออนไลน์

                                                                 เครื่องสลัดน้ำมัน

โดยยังบอกอีกว่า เคยเห็นคนมาเข้าคิวซื้อมากสุดถึง 30 ถุง ต่อ 1 คน ซื้อไปแจกเพื่อนบ้าง ให้ผู้หลักผู้ใหญ่บ้าง ซึ่งตนดีใจมากที่เห็นเช่นนี้ และภูมิใจมากที่ตอนนี้ได้มีโอกาสเห็นผู้ชายมาต่อคิวรอซื้อกล้วยทอดเยอะมาก ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมีเลย ปกติเห็นแต่ผู้หญิง

สำหรับใครที่อยากไปลองชิมกล้วย-มัน-เผือก ทอด หรือซื้อแป้งกล้วยแขกสำเร็จรูป แวะกันไปได้ที่ร้านกล้วยแขกพระราม๕ ตั้งอยู่ที่แยกบางสีทอง ริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตรงข้ามกับโลตัสพระราม 5

########