หลานชายคนเก่ง ไม่สนคนมอง เรียนจบจุฬาฯ มาขายบัวลอย ขอรับช่วงต่อร้านเล็กๆ ที่ครอบครัวสร้างมา 70 ปี

หน้าวัดประตูสาร จังหวัดสุพรรณบุรี มีบัวลอยเจ้าดังเปิดขายมานาน 70 ปี โดยมีอาม่าต้นตำรับรุ่นแรก ส่งไม้ต่อให้ลูกชายรุ่นสอง และปัจจุบันมี คุณเฟิร์ส-วัชพล ทองมูลดี หลานชายวัย 29 ปี อดีตเทรนเนอร์ ดีกรีปริญญาตรี จุฬาฯ เข้ามารับช่วงต่อเป็นรุ่นที่ 3 ตั้งแต่ปี 2019

แม้บัวลอย วัดประตูสาร จะสืบทอดกันมาถึง 3 รุ่น แต่รสชาติความอร่อยนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน การันตีได้จากปริมาณแป้งที่ใช้วันละ 20 กิโล อะไรคือเหตุผลให้คุณเฟิร์สตัดสินใจลาออกจากงานมารับช่วงต่อธุรกิจ และทำไมบัวลอย เมนูธรรมดาๆ ถึงขายดีตลอด 70 ปี ติดตามได้ในบทสัมภาษณ์นี้

จากเทรนเนอร์สู่พ่อค้าบัวลอย

คุณเฟิร์ส เด็กหนุ่มจากสุพรรณบุรี เข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จนถึงระดับปริญญาตรี ในคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเรียนจบก็เลือกทำงานอยู่ในเมืองหลวงด้วยอาชีพเทรนเนอร์ งานนี้ถือว่าไปได้ดี แต่ก็มีเรื่องให้ต้องตัดสินใจ เพราะทางบ้านอยากให้กลับมารับช่วงต่อกิจการร้านบัวลอยของครอบครัว

“ผมคิดหนักเหมือนกันครับในตอนแรก ปรึกษาหลายคนมากๆ ทั้งอาจารย์ เพื่อน หรือแม้กระทั่งคนในครอบครัว แต่ด้วยเห็นป๊ากับม้าทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก จนอายุจะ 60 กันแล้ว ไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนเพราะขายบัวลอยทุกวันไม่เคยหยุด ผมเลยอยากให้เขาได้พัก ได้เที่ยว ได้นั่งสบายๆ ไม่ต้องเหนื่อยอีก อาม่าเองก็อายุ 89 ปีแล้ว ท่านอยากให้กลับมาช่วยมากๆ ประกอบกับปี 2019 โควิดมาพอดี เมื่อนำหลายๆ เหตุผลมารวมกัน ทำให้ตัดสินใจกลับมาสานต่อครับ” คุณเฟิร์ส เล่าให้ฟัง

และว่า หลังการตัดสินใจมีคำพูดต่างๆ ถาโถมเข้ามามากมาย แต่ก็รับรู้ได้ถึงความหวังดี

“บางคนบอกเรียนจบสูงอยากให้ทำงานดีๆ กว่านี้ และมีอีกหลายๆ คำพูด ผมฟังอย่างเดียว ไม่ได้ตอบโต้เลยครับ แต่เก็บมาคิดกับตัวเองเสมอ ผมชื่นชมครอบครัวที่ขยันอดทน ทำอาชีพเดียวมาได้ 70 กว่าปี เลยคิดว่าต้องทำให้เต็มที่ให้ได้อย่างที่ป๊าม้าและอาม่าสร้างไว้ แล้วรอดูสักวันหนึ่งสิ่งที่ทำจะพิสูจน์ตัวเราเอง”

การเป็นพ่อค้าบัวลอย ไม่ใช่เรื่องยากเกินฝีมืออดีตเทรนเนอร์ เพราะอยู่กับหม้อต้มบัวลอยมาตั้งแต่เด็ก นั่งดูบ้าง ยืนดูบ้าง จึงซึมซับมาเรื่อยๆ อีกทั้ง 2 อาชีพนี้ไม่ได้ต่างกันมากนัก เพราะใช้ทักษะการบริการเหมือนกัน 

“วันแรกๆ ยืนดูพ่อกับแม่ทำก่อนครับ บางทีอาม่าก็มาสอนบ้าง ค่อยๆ ให้เราเรียนรู้ฟื้นฟูความจำวัยเด็ก พอเห็นว่าผมเริ่มโอเค ถึงปล่อยให้ทำ แต่กว่าจะปล่อยให้ทำเต็มตัวก็ใช้ระยะเวลาปีกว่าอยู่ครับ จนถึงวันนี้ผมเป็นพ่อค้าบัวลอยได้ 3 ปีกว่าแล้ว”

จุดเด่นความอร่อย ทำเองทุกขั้นตอน

สมัยนี้ร้านบัวลอยมีมาก หลายที่เลือกใช้แป้งสำเร็จรูป แต่บัวลอย วัดประตูสาร เลือกทำเอง เพราะมีสูตรของร้าน ซึ่งการเตรียมวัตถุดิบเองเช่นนี้ ทำให้คุณเฟิร์ส ต้องตื่นในเวลา 7 โมงเช้า และทุกอย่างจะแล้วเสร็จในเวลาเที่ยงวัน ไม่เกินบ่ายโมง

“ผมโม่แป้งเองครับ เมื่อก่อนใช้เครื่องโม่แป้งโบราณ แต่ตอนนี้พัฒนาขึ้นมาอีกระดับ ใช้เครื่องรุ่นใหม่กว่า เพราะคิดว่าถ้าอุปกรณ์หลังร้านไม่ช่วยทุ่นแรง คนทำจะแย่เอา ขนาดผมคิดว่าตัวเองแข็งแรง ยังแย่เลยครับ ทำทุกวันเข้า ร่างกายก็เริ่มปวดเมื่อย” 

สำหรับวัตถุดิบอื่นๆ “ไข่ ผมใช้ไข่ไก่วันละ 8-10 แผง ใช้เยอะเลยครับเพราะเมนูขายดีอันดับหนึ่งของร้านคือบัวลอยไข่หวาน ลูกค้าเลือกได้เลย ขอสุกๆ ตานีเยิ้มๆ เราต้มทุกระดับไว้ให้แล้ว ส่วนแป้งใช้วันละ 20 กิโลขึ้นไป สีขาวล้วนปั้นสดๆ หน้าร้าน ปริมาณนี้ขายหมดทุกวันครับ ส่วน กะทิ คัดจากสุพรรณฯ บ้านผมนี่แหละ รับจากสวนโดยตรงเลย” พ่อค้าบัวลอย อธิบาย

นอกจากทำเองทุกขั้นตอนแล้ว บัวลอยของคุณเฟิร์สยังคงสูตรชาววังที่อาม่าแกะสูตรมาจนอร่อยลงตัว และทำขายมาตลอด 70 ปี

“ก่อนอาม่าเปิดร้านขายบัวลอย ลองขายมาหลายอย่างแล้วครับ ทั้ง ก๋วยเตี๋ยว กวยจั๊บ ทองหยิบทองหยอด ท่านเป็นคนขยัน ชอบคิดนั่นทำนี่ จนมาถึงบัวลอยที่ตกทอดมาถึงรุ่นผม ส่วนลูกค้าก็อุดหนุนกันมานาน บางคนมีลูกมีหลานกันหมดแล้ว กลายเป็นความผูกพันกันไปแล้วครับ และที่ผมตกใจมากสุดคือเด็กประถมยังมากิน เขารู้จักขนมโบราณและชอบกินด้วย”

ขายทุกวัน เมนูเริ่มต้น 12 บาท 

ส่วนเมนูก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บัวลอยไม่ใส่ไข่ บัวลอยไข่หวาน เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน ข้าวโพดสูตรโบราณ เมนูเหล่านี้เพิ่มขึ้นมาจากไอเดียของหลานชายคนเก่ง ให้ลูกค้ามีทางเลือก

“ผมอยากนำสิ่งใหม่ๆ มาขาย เนื่องจากบัวลอยที่ผมขายเป็นหลักคือเมนูร้อน ถ้าวันไหนอากาศร้อนมาก แล้วลูกค้าอยากทานเมนูเย็นๆ เลยเสริมเต้าฮวยมะพร้าวอ่อนเข้ามา รับรองว่าอร่อยครับ เพราะผ่านมาตรฐานอาม่าแล้ว” พ่อค้าบัวลอย เล่า พร้อมเชิญชวน

สำหรับราคา เรียกได้ว่า ไม่แพงเลย เมนูไข่หวาน 1 ฟอง 12 บาท ไข่หวาน 2 ฟอง 24 บาท บัวลอยไม่ใส่ไข่ 25 บาท บัวลอยไข่หวาน 1 ฟอง 30 บาท บัวลอยไข่หวาน 2 ฟอง 40 บาท เต้าฮวยถ้วยละ 25 บาท น้ำกะทิเปล่าถุงละ 10 บาท ข้าวโพดคั่ว สูตรโบราณ ถุงละ 10 บาท

“สั่งนั่งทานที่ร้านกินร้อนๆ สั่งกลับบ้าน หรือสั่งดีลิเวอรี่ไลน์แมนได้เลยครับ ผมเริ่มตั้งร้านบ่าย 3 ครึ่ง ที่เปิดร้านเย็นเพราะรอลูกค้าเลิกงานครับ ส่วนใหญ่เขาชอบกินปิดท้ายหลังอาหารเย็น หมดประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง ร้านเปิดทุกวันครับ ลูกค้ามาก็ยังเจอเรา”

“มีลูกค้าส่วนหนึ่งถามมาเหมือนกัน ทำไมไม่เปิดเช้าเปิดเที่ยง ผมก็เก็บมาคิดและพัฒนาต่อ เพื่อนสนิทก็เรียกร้องมาเหมือนกันให้เปิดที่กรุงเทพฯ ผมเลยบอกไปอยากรอเวลาที่เหมาะสม ไม่อยากรีบเพราะรีบทีไรมักไม่ประสบความสำเร็จ ผมดูตัวอย่างป๊ากับม้ามา ต้องค่อยๆ ทำให้มั่นคง ธุรกิจจะแข็งแรงและอยู่ได้นานกว่า” คุณเฟิร์ส บอกย้ำ

ก่อนทิ้งท้ายว่า “ตอนนี้ไม่มีแนวคิดกลับไปทำงานประจำครับ ผมคิดแค่ว่าจะพัฒนาต่อยอดร้านไปในทิศทางไหน ทำยังไงให้ป๊าม้า อาม่าอยู่สบาย คิดวนอยู่แค่นี้จริงๆ”

ร้านตั้งอยู่หน้าวัดประตูสาร อำเภอเมืองสุพรรณบุรี https://goo.gl/maps/zvrriiZN27VTvfy38 เปิดขายทุกวันตั้งแต่เวลา 16.00-19.30 น. โทร. 089-961-5426 / 088-549-4566

 

เผยแพร่เมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2566