เปิดสูตร! หมูสะเต๊ะ by หลวงพี่ไอซ์ ทำกินเองไม่ง้อร้าน ทำขายสร้างอาชีพก็ได้

เปิดสูตร! หมูสะเต๊ะ by หลวงพี่ไอซ์ ทำกินเองไม่ง้อร้าน ทำขายสร้างอาชีพก็ได้

หากพูดถึงเมนูกินง่ายขายคล่องแล้วล่ะก็ เมนูที่เกี่ยวกับเนื้อหมู แทบจะติดโพลหลายๆ สำนัก ไม่ว่าจะ หมูย่าง ข้าวเหนียวหมูปิ้ง กะเพราหมูสับ หมูสะเต๊ะ ฯลฯ

หลวงพี่ไอซ์ไขอาชีพ หรือ พระใบฎีกานพรัตน์ ขนฺติจารี สกุล ภาคพิธเจริญ จึงได้แจกสูตรการทำ หมูสะเต๊ะ ให้กับผู้ที่สนใจอยากนำไปทำทานเอง หรือนำไปทำขายสร้างอาชีพ หลวงพี่ไอซ์ก็ยินดี โดยวัตถุดิบและวิธีการทำ ดังนี้

รูปภาพจาก มติชนอคาเดมี

การหมักหมู ใช้วัตถุดิบ ดังนี้

1. สันนอกติดมัน

2. เม็ดยี่หร่า

3. เม็ดผักชี

4. ตะไคร้

5. ผงขมิ้น

6. ผงกะหรี่

7. หัวกะทิ (คั้นแห้ง)

8. เกลือ/น้ำตาล/ผงปรุงรส

รูปภาพจาก มติชน

วิธีทำ หมักหมู อัตราส่วน หมู 1 กิโลกรัม/มันหมู 3 ขีด

1. ให้หั่นหมูบางๆ (ผสมมันแข็งได้บ้าง)

2. คั่วเม็ดยี่หร่า 2 ช้อนโต๊ะ และเม็ดผักชี 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้น นำมาป่นให้ละเอียด ตามด้วยโขลกตะไคร้ 4 ต้น

3. นำหัวกะทิ ผสมกับ ผงขมิ้น ผงกะหรี่ ตะไคร้โขลก และเม็ดยี่หร่า & เม็ดผักชีที่ป่นแล้ว คนให้เข้ากันแล้วจึงนำหมูที่หั่นไว้มาขยำให้เข้าเนื้อ

4. ปรุงรสให้ออกหวาน-มัน-เค็ม

5. นำหมูมาเสียบไม้ แล้วหมักแช่ตู้เย็น อย่างน้อย 1 วัน (24 ชั่วโมง) จึงนำมาย่างได้

*เมื่อนำมาย่าง ควรใช้ไฟอ่อน และหมั่นทาหัวกะทิบนเนื้อหมูจนกว่าจะสุก

น้ำจิ้ม ใช้วัตถุดิบ ดังนี้

1. พริกแกงมัสมั่น

2. พริกแกงเผ็ด

3. กะทิ

4. ถั่วลิสงป่น

5. เครื่องปรุงรส ได้แก่ น้ำมะขาม/น้ำตาลมะพร้าว/เกลือ

วิธีทำ

1. ผสมพริกมัสมั่น 2 ส่วน และ พริกแกงเผ็ด 1 ส่วน

2. ผัดพริกแกงกับหัวกะทิจนแตกเป็นมันจัดๆ จากนั้น ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำตาลมะพร้าว และ น้ำมะขาม ให้รสชาติออกไปทาง 3 รส คือหวาน เปรี้ยว เค็ม ตามลำดับ

3. เมื่อน้ำจิ้มได้ที่แล้ว จึงดับไฟ แล้วรอให้เย็น จากนั้นใส่ถั่วป่น ตามความชอบ

รูปภาพจาก หนังสือพิมพ์มติชน

อาจาด ใช้วัตถุดิบ ดังนี้

1. น้ำตาลทราย

2. น้ำส้มสายชู

3. เกลือ

4. แตงกวา

5. หอมแดง

6. พริกชี้ฟ้า

วิธีทำ

1. ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือ โดยให้ปรุงออกไปทาง 3 รส ให้รสหวานนำ

2. ตั้งน้ำให้เดือด จากนั้นนำส่วนผสมข้างต้นลงไปเคี่ยว

3. รอให้น้ำอาจาดเย็น จึงค่อยใส่แตงกวาซอย-หอมซอย และพริกซอยลงไป

*ทำน้ำอาจาดแยกไว้ แล้วค่อยใส่ผักลงไปทีหลัง จะทานอร่อยกว่า

 

หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565