ปลาทูต้มเค็ม–หวาน (ซาเตี๊ย) ธุรกิจครอบครัว 40ปี รสดี เคยขายดี วันละเเสน

หากย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน หลายคนมองว่า ปลาทู เป็นอาหารสำหรับผู้มีรายได้น้อย แต่มาในวันนี้ ปลาทู กลายเป็นสินค้าราคาแพง และมีผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลก่อเกิดรายได้ต่อผู้อยู่บนเส้นทางสายนี้

ทำเงินดี กว่าเงินเดือน ก่อร่างสร้างแบรนด์
กว่า 40 ปีแล้วที่ครอบครัวของ คุณอริยาวรรณ์ พงษ์จารุคุปต์ หรือ คุณหน่อย ประกอบอาชีพค้าขายปลาทูนึ่งเลี้ยงชีพ แต่ด้วยภาวะการแข่งขัน กอปรกับคนรุ่นใหม่ไม่สนใจสานต่อธุรกิจ ทำให้ผู้ผลิตปลาทูล้มหายตายจากลงไปเป็นจำนวนมาก

แต่ทว่าคุณหน่อยกลับเห็นถึงโอกาสว่าอาชีพนี้มีความยั่งยืนอย่างแน่นอน โดยสังเกตจากจำนวนผู้บริโภคปลาทูนับวันจะสูงขึ้น ครอบคลุมทุกช่วงวัย แต่หากจะให้ยอดขายดีได้นั้น หัวใจสำคัญคือต้องสร้างแบรนด์

ปัจจุบัน หาคนเข้ามาสานต่ออาชีพค้าขายปลาทูค่อนข้างยาก ทั้งๆ ที่เป็นอาชีพทำเงินได้ดีกว่างานในออฟฟิศ  ดิฉันเองจึงคิดว่า เราน่าจะเข้ามาสานต่อ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ผลิตปลาทูส่วนใหญ่ คือคนรุ่นเก่า ทำตลาดไม่เป็น จึงติดอยู่กับการค้าขายรูปแบบเดิมๆ ยอดขายเริ่มตกลง เราจึงคิดว่าถ้าอย่างนั้น มาสร้างแบรนด์ดีกว่า

2233-151221012342

คุณหน่อย เล่าเท้าความถึงเหตุที่ใช้แบรนด์บ้านปลาทูเพราะพ่อกับแม่มีลูกหลายคน หลังจากแต่งงาน ก็แยกย้ายไปสร้างครอบครัว แต่ยังคงเลือกประกอบอาชีพผลิตจำหน่ายปลาทูนึ่งเช่นเดิม และด้วยแต่ละคนอยู่ในละแวกเดียวกัน ทำให้เกิดกลุ่มการผลิตปลาทูขึ้นมา จนถูกขนานนามว่าพื้นที่แห่งนั้นคือ บ้านปลาทู

ครอบครัวเราทำธุรกิจปลาทูนึ่ง อยู่ตำบลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร พอพี่น้องมีครอบครัวก็แยกย้ายกันไป แต่ว่ายังอยู่ในละแวกเดียวกัน อาชีพทำปลาทูจึงขยายขึ้น แต่รูปแบบการขายยังคงเดิม ไม่มีการทำตลาด ไม่มีการสร้างแบรนด์

ราวปี 56 คุณหน่อยเข้ามาดูแลกิจการเต็มตัว จึงได้ก่อตั้งแบรนด์ บ้านปลาทู ขึ้น พร้อมกับติดต่อขอเช่าพื้นที่ออกงานแสดงสินค้า เพื่อสร้างการรับรู้และเพิ่มยอดขาย ซึ่งผลตอบรับกลับมาดีเกินคาด แต่ทว่ารายได้ก้อนใหญ่ก็หมดไปกับค่าเช่าพื้นที่

ออกงานเพิ่มยอดขาย ทำรายได้วันละนับพันตัว
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ประกอบการคนขยัน จึงตัดสินใจเดินทางเข้าไปติดต่อเพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่โอท็อป กระทั่งได้รับโอกาสตระเวนออกงานแสดงสินค้ากับหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง โดยเฉพาะกับงานโอท็อปช่วงปลายปี ที่เมืองทองธานี ยอดขายพุ่งสูงถึงวันละกว่า 100,000 บาท

หน่วยงานภาครัฐจะจัดงานอย่างต่อเนื่อง โดยหมุนเวียนไปจังหวัดต่างๆ ดังนั้น พื้นที่ห่างไกล บ้านปลาทูจึงไม่สามารถเดินทางไปได้ ด้วยข้อจำกัดของสินค้าอาหารปรุงสด จึงเลือกออกงานกับภาคเอกชนด้วย โดยพื้นที่หลักคือ กรุงเทพฯ เพราะสามารถเดินทางไปเช้าเย็นกลับได้ ซึ่งตอนนี้ตลาดกรุงเทพฯ ทำยอดขายได้เพียงพอกับขนาดธุรกิจครอบครัวของเราที่มีแรงงานหลักๆ ประมาณ 4 คน

2233-151221012349

ผู้ประกอบการคนขยัน ยังกล่าวถึงยอดขายปลาทูต่อ 1 วัน กับการออกงานแสดงสินค้า 1,000 ตัวขึ้นไป ส่วนยอดขายโดยรวมตกเดือนละกว่า 400,000 บาท

สำหรับผลิตภัณฑ์จำหน่ายมี 3 รายการ ได้แก่ ปลาทูนึ่ง ปลาทูเค็ม ปลาทูต้มเค็มหวาน (ซาเตี๊ย) ซึ่งรายการหลังถือเป็นสินค้าขายดี เพราะเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งยังเหมาะกับคนเมือง สามารถนำไปทานได้เลย ส่วนราคาขายกำหนดไว้ตัวละ 35 บาท 3 ตัว 100 บาท ซึ่งคุณหน่อย ว่า เป็นราคาที่จับต้องได้ทุกระดับชั้น

คุณหน่อย ยังกล่าวถึงรสชาติของปลาทูต้มเค็มหวาน (ซาเตี๊ย) ว่าให้รสหวานเค็มเข้มข้น ซึ่งเป็นสูตรรับช่วงมาตั้งแต่รุ่นคุณแม่

เมื่อก่อนตอนพี่สาวรับช่วงทำปลาทูต้มเค็มหวาน เขาจะนำไปขายตลาดนัด ซึ่งขายดีมาก และพอได้นำมาออกงานแสดงสินค้า ก็ได้รับความนิยมล้นหลาม โดยเราจะชู เนื้อนิ่ม น้ำอร่อย แต่ไม่เน้นก้างนิ่ม เพราะใช้ปลาทูตัวใหญ่ ซึ่งแกะก้างออกง่าย ส่วนเนื้อก็จะเยอะ

ขาว สวย อ้วน สั้น สด ใหม่ จืด มัน
ผู้ประกอบการคนเก่ง ยังได้กล่าวถึงแหล่งปลาทู โดยเฉพาะปลาทูตัวใหญ่ นำเข้าจากหลายประเทศ อาทิ  ปากีสถาน อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม เป็นต้น โดยจะมีบริษัทย่านมหาชัยรับมาจำหน่ายอีกต่อหนึ่ง

ปลาทูไทยจะมีขนาดตัวเล็ก และปัจจุบันก็เริ่มหายากแล้ว จึงต้องนำเข้า โดยปลาทูของเขาจะตัวใหญ่ นั่นเพราะสภาพถิ่นที่อยู่อาศัย ซึ่งจากเมื่อก่อนผู้บริโภคคนไทยอาจชอบปลาทูตัวเล็ก แต่เดี๋ยวนี้ปลาทูตัวใหญ่ได้รับความนิยมมากขึ้น ส่วนลักษณะปลาทูที่เลือกนำมาจำหน่าย และมองว่าให้รสอร่อยคือ ลำตัวอ้วนสั้น เนื้อสีขาวสวย จนเราให้ลักษณะสินค้าปลาทูของเราว่า ขาว สวย อ้วน สั้น สด ใหม่ จืด มัน

สำหรับฤดูกาลที่ปลาทูหาง่าย คือช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายนธันวาคมมีบางช่วงที่ปลาทูขาดแคลนมาก หายากยิ่งกว่าทอง ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องล้มเลิกผลิต ตรงนี้จึงต้องมีการบริหารจัดการวัตถุดิบ และเราเองก็คิดถึงการทำสต๊อก

คุณหน่อย ยังเผยถึงหัวใจในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จว่าหลายคนไม่รู้ คิดว่าปลาทูที่ทานอยู่มาจากประเทศไทย แต่ปัจจุบันนี้ลดจำนวนลงมาก และปลาทูบ้านเราจะตัวเล็ก จึงต้องนำเข้า แต่ทว่าปลาที่ไหนไม่สำคัญเท่ากับจรรยาบรรณและประสบการณ์ ต้องไม่หลอกลวงผู้บริโภค เลือกปลาคุณภาพให้กับลูกค้า

ด้วยรสชาติถูกปากใครหลายคน จนมีผู้สนใจติดต่อขอรับไปจำหน่าย แต่ทว่าคุณหน่อยขอเวลาบริหารจัดการทั้งในด้านการผลิต และการควบคุมคุณภาพ ซึ่งขณะนี้ก็ได้เดินเรื่องขอกู้สินเชื่อกับธนาคารเพื่อนำมาใช้ให้เกิดสภาพคล่อง กับการขยายตลาดต่อไป