สร้างปรากฏการณ์ให้ลูกค้ามารอหน้าร้านยาวถึง 200 คน ณ บริเวณชั้น 2 ของโครงการ The Sense (เดอะเซ้นส์) ปิ่นเกล้า คอมมูนิตี้มอลล์เปิดใหม่ ริมถนนบรมราชชนนี กรุงเทพฯ จนกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ สำหรับร้าน คอปเปอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล บุฟเฟต์ ร้านอาหารที่มีฝูงชน มายืน มานั่งแน่นขนัดอยู่เต็มหน้าร้าน เรียกว่าแทบจะไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน ถ้าไม่ใช่ร้านอาหารแบรนด์ดังๆ บินลัดฟ้ามาเปิดตามห้างหรู และยิ่งท่ามกลางเศรษฐกิจที่คนไม่อยากจะควักเงินในกระเป๋าจ่ายด้วยแล้ว ยิ่งน่าชื่นใจแทนเจ้าของ ขณะเดียวกันก็เห็นใจร้านข้างๆ เพราะมีความเงาไปตามๆ กัน

เปิด 3 เดือน คนทะลัก
200 คิว ต่อหน้าร้าน

คุณเกษมสันต์ สัตยารักษ์ หรือ คุณเกษม ผู้จัดการคนเก่งของร้าน มีประสบการณ์ดูแลร้านอาหารฝรั่งชั้นแนวหน้าของประเทศไทยมาแล้วหลายแห่ง สร้างความสำเร็จทั้งชื่อเสียงและรายได้ทะลุเป้าให้กับเจ้าของร้านมาแล้วมากมาย อยู่ในวงการร้านอาหาร 30 ปี  ทั้งที่จบการศึกษาเพียงวุฒิ ม.3

คุณเกษม เล่าที่มาของร้าน เดอะคอปเปอร์ บุฟเฟต์ ว่า ทางเจ้าของร้านเป็นนักธุรกิจที่ชอบทานอาหาร        บุฟเฟต์ ตระเวนทานมาแล้วหลายที่ รวมถึงโรงแรม 5 ดาว ซึ่งมีความคิดว่าอยากทำร้านอาหารบุฟเฟต์คุณภาพ ดีให้คนไทยได้ทาน จ่ายในราคาที่สมเหตุสมผล ต่อให้ขาดทุนก็ห้ามลดคุณภาพ เมื่อโจทย์ชัดเจนขนาดนี้ ทำงานง่าย

“ผมได้รับโจทย์การดูแลร้านอาหารแห่งนี้ 3 ข้อ ข้อแรก อาหารต้องมีคุณภาพ ข้อสอง อยากเห็นภาพลูกค้ามาต่อคิวเยอะๆ ข้อสุดท้าย บริหารงานอย่างโปร่งใส 3 เงื่อนไขดังกล่าวจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของร้านเดอะคอปเปอร์ บุฟเฟต์ ซึ่งใช้งบลงทุน 32 ล้าน ภายในร้านตกแต่งทันสมัย เน้นโชว์ไม้สีอ่อนตัดกับโครงสร้างสีเข้มรวมทั้งสีทองแดง ปรุงอาหารผัดปิ้งย่างให้เห็นกันจะจะ เปิดให้บริการเดือนเมษายน 59”

ก่อนทุ่มงบจำนวนไม่น้อย คุณเกษม เล่าว่า ทางทีมงานได้มีการสำรวจตลาดอาหารบุฟเฟต์ ตั้งแต่หมูกะทะริมฟุตบาท ชาบู ซีฟู้ดตามห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงโรงแรมระดับ 3 ดาว และจากการสำรวจ พบว่า ยังไม่มีใครทำร้านอาหารอินเตอร์บุฟเฟต์ อีกทั้งได้รับคำแนะนำเรื่องแหล่งซื้อวัตถุดิบจากจากเชฟรุ่นใหญ่ ระดับฝีมือสากล Mr.Willment Leong (วิลเมน ลีออง) เชฟชาวสิงคโปร์ที่เข้ามาทำงานในเมืองไทยนานถึง11 ปี เชฟโรงแรม 5 ดาวและเจ้าของสถาบันฝึกอบรมการทำอาหารด้วย

“ผมจะปฏิวัติวงการร้านอาหารบุฟเฟต์ ให้เป็นลักษณะร้านอาหารแบบ Fine Dining เสิร์ฟเมนูที่มีคุณภาพสูง มีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเมนู คอยให้คำแนะนำและนำเสนออาหารแต่ละจานที่ดีที่สุดให้กับผู้ทาน”

ผู้จัดการร้าน กล่าวเสริมว่า ร้านอาหารบุฟเฟต์หลายๆ ร้าน มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมาก แต่บางอย่างไม่ได้มีคุณภาพ ลูกค้าไม่ได้ทาน ฉะนั้นเมนูที่ถูกนำเสนอในร้าน เดอะคอปเปอร์ บุฟเฟต์ ต้องอร่อยทุกอย่าง ลูกค้าต้องกินได้ทุกอย่าง นับตั้งแต่ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยแมลงภู่ชิลี กุ้งทะเล ซุปเห็ดทรัฟเฟิลครีมข้น ซุปมิโสะ แบบญี่ปุ่น พิซซ่าแฮมชีส ขาแฮมจากสเปน ฆามอน อิเบริโก้ อกเป็ดรมควัน  ไส้กรอกอิตาเลียน สลัดผักสดกับน้ำสลัดหลายชนิดซูชิซาชิมิ ข้าวปั้นปลาดิบ กุ้งเทมปุระ ปีกไก่ทอด มันฝรั่งทอด สปาเกตตีเส้นดำ เฟตตุชชินี่ เนื้อวากิว สเต๊กแซลมอน สตูเนื้อ ปลาดอรี่นึ่งพริกมะนาว ขนมจีนแกงไก่ ขาหมูพะโล้ เป็นต้น

จ่ายหลักร้อย คุณภาพเกินคุ้ม
2 ชั่วโมง ทุกคนเข้า – ออกพร้อมกัน

 

สำหรับไลน์อาหารมีให้เลือกหลากหลายทั้งอาหารไทย อาหารนานาชาติ ขนมหวาน เริ่มต้นที่โซนซีฟู้ด มีให้เลือกตั้งแต่หอยนางรม หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยนางรมใหญ่ ขาว อวบ จาก อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี โซนปิ้งย่างสเต๊กเนื้อวากิว นำเข้าจากออสเตรเลีย ลูกค้าสามารถเลือกระดับความสุกของเนื้อ ยังมีสเต๊กปลาแซลมอน กุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่ มาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของทางร้าน  โซนซุป ไฮไลท์ คือ ซุปเห็ดทรัฟเฟิลครีมข้น มีความหอมของน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล พิซซ่าแฮมชีส

ตามด้วยโซนพาสต้า มีให้เลือกทั้งสปาเก็ตตี้เส้นดำและเส้นปกติ ปรุงเป็นสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา สปาเก็ตตี้ผัดซีฟู้ด และสปาเก็ตตี้ผัดน้ำมันมะกอก ต่อมาที่โซนอาหารญี่ปุ่นบ เมนูซูชิมีให้เลือกหลายหน้า ทั้งหน้าปลาแซลมอนสดจากนิวซีแลนด์ ปลาไหล และหน้าอื่นๆ อีกมากมาย โดยเชฟจะปั้นให้สด ๆ ตามที่สั่ง นอกจากนี้ยังมีซาซิมิปลาแซลมอน บางช่วงจะมีเทศกาลปลาฮามาจิ แล้วแต่ฤดูกาล

โซนขนมหวาน มีให้เลือก บัตเตอร์โทสต์ ช็อคโกแลตลาวา วาฟเฟิล ครีมบูเร่ พานาค็อตต้า ไอศกรีมโฮม เมดที่มีให้เลือกหลายรสชาติ บัตเตอร์โทสต์ และอื่นๆ อีกมายมาย

“ที่ เดอะคอปเปอร์ บุฟเฟต์ ผมเน้นคำว่าคุณภาพทุกอย่าง วัตถุดิบสั่งจากซัพพลายเออร์ หรือแหล่งผลิตที่ต้องผ่านมาตรฐานของทางร้าน รสชาติอาหารต้องได้มาตรฐานรสชาติของแต่ละเมนู ทุกๆ จุดในร้าน การบริการต้องคุณภาพทั้งหมด เพราะเดี๋ยวลูกค้าจะมาเอง ผมเชื่อในคำว่า ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด”

คุณเกษม เชื่อว่า การจัดหาวัตถุดิบดีๆ มาปรนเปรอลูกค้า คือหัวใจสำคัญของร้านอาหารบุฟเฟต์ ซึ่งไลน์บุฟเฟต์ของเดอะคอปเปอร์ บุฟเฟต์ ดีกว่าโรงแรมห้าดาวบางแห่งด้วยซ้ำ ในสนนราคาเพียงหัวละ 987 บาทสุทธิ ให้เวลากินถึง 2 ชั่วโมงทีเดียว

ถามถึงกระแสปรากฏการณ์ฝูงชนคิวยาว ลูกค้ามายืนรอหน้าร้านแต่ละรอบร่วม 200 คน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ลูกค้าจะแน่นเป็นพิเศษ ผู้จัดการ ตอบว่า นับตั้งแต่ร้านเปิดให้บริการเดือนที่ 3 ลูกค้า 90 เปอร์เซ็นต์รู้จักผ่านโลกโซเชียล เพราะทางร้านทำสื่อโฆษณาออนไลน์ค่อนข้างเยอะ ซื้อโฆษณา จัดกิจกรรม ทำโปรโมชั่น อ่านทุกข้อติชมในเฟซบุ๊ก และคอยปรับปรุงอยู่เสมอ สร้างความจริงใจให้กับลูกค้า ตัวอย่าง เคยมีเหตุการณ์ไฟดับ 45 นาที ทางร้านทำอาหารให้ทานฟรี จากนั้นลูกค้าบอกปากต่อปาก

กระแสจากโซเชียลล้วนๆ
ธุรกิจยึดหลัก 4 D

คุณเกษม เพิ่มเติมว่า เฟซบุ๊ก คือ ช่องทางทำการตลาดที่ให้ผลลัพธ์ดีมาก คุ้มค่ามาก ก่อนหน้านี้จ้างแอดมิน เพราะไม่มีความรู้ด้านนี้ สิ่งที่เจอ คือ แอดมินทำตามทฤษฎี บางอย่างใช้ไม่ได้ผลทั้งหมด ระยะหลังเป็นแอดมินเอง มีการโพสต์เรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกับอาหารลงไปบ้าง เช่น ธรรมะ ข้อคิดการดำเนินชีวิต

“ร้านขายอาหาร ไม่ใช่แค่ขายอาหาร การบริการต้องดี ผมเทรนน้องๆ ด้วยหลักง่าย ให้นึกกลับกันเวลาที่เขาพาคุณแม่ คุณพ่อ หรือญาติไปทานอาหาร เขาต้องการบริการแบบไหน ลูกค้าก็ต้องการแบบนั้น เพราะลูกค้าหลายคนตั้งใจเดินทางมาจากต่างจังหวัด มาด้วยความเชื่อใจ ดังนั้นสิ่งที่ลูกค้าควรได้รับรอยยิ้มจริงใจ คือ การบริการที่เป็นมิตร เป็นธรรมชาติจากใจ”

สำหรับจำนวนลูกค้าต่อรอบ ราว 200 คน หลายๆ คนมาจากต่างจังหวัด หลายคนมารอเป็นชั่วโมง ถึงเวลารอบประตูเปิด ไม่มีการกรูกันเข้ามา ครอบครัวที่มีเด็ก และคนชราจะได้รับการเชิญให้เข้าร้านก่อน ภาพเหล่านี้กลายเป็นความคุ้นชินไปแล้ว

“การเปิดให้บริการ วันธรรมดา จ.-ศ รอบแรก 12:00  – 14:00  รอบสอง 16:00 – 22:00  ส่วนวัน ส-อารอบแรก 10:00 – 12:00 รอบสอง 12:30 – 14:30 รอบสาม 16:30 – 18:30 รอบสุดท้าย 19:00 -21:00 แต่ละรอบจำกัดจำนวน 200 คน ให้ลูกค้าทานได้ 2 ชั่วโมงเต็ม ทุกคนเข้าพร้อมกัน ออกพร้อมกัน ลูกค้าต้องทำการจองล่วงหน้า ราคาท่านละ 987 บาท”

การทำร้านอาหารให้เป็นกระแส ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ได้ขนาดนี้ คุณเกษมยึดหลักสำคัญ 4 ข้อ คือ ข้อ 1 คุณภาพดี เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา 30 ปี คุณภาพ คือ หัวใจสำคัญสูงสุดของอาหาร

ข้อ 2 บรรยากาศร้านดี เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักเห็นจากภายนอกก่อน ถ้าร้านสะดุดตา ลูกค้าจะเปิดใจอยากลองแวะมา ยิ่งยุคนี้การแชร์รูปภาพ มีผลต่อการบอกต่อชวนกันมา ถ้าร้านมีบรรยากาศเชิญชวนก็จะได้เปรียบ

ข้อ 3 บริการดี พนักงานจะมีรอยยิ้ม น้อบน้อมกับลูกค้าเสมอ ทางร้านจะมีการสวดมนต์เวลาพัก

ข้อ 4 บริหารจัดการดี  ตั้งแต่เรื่องวัตถุดิบ อุปกรณ์ สถานที่ บุคคลกร งบประมาณ บัญชี หน้าร้าน ในร้าน หลังร้านต้องเกิดเป็นระบบ

เดอะคอปเปอร์ บุฟเฟต์  สนนราคาท่านละ 987 บาทสุทธิ ที่ตั้ง ชั้น 2 The Sense ปิ่นเกล้า 71/50 ถนนบรมราชชนนี อรุณอมรินทร์ บางกอกน้อย กรุงเทพฯ โทร (098) 824-1800 (061) 140 -1819 และ (092) 281-1818