หวานมันทะลุกระบอก จากแผงงานวัด สู่ ข้าวหลามอินเตอร์ รายได้หลักล้านต่อเดือน

จากธุรกิจครอบครัวเล็กๆ ตั้งแผงขายข้าวหลามตามงานวัด วันนี้ ร้านข้าวหลามเจ๊สองพี่น้อง กลายเป็นข้าวหลามเงินล้านได้สำเร็จ เพราะได้ความร่วมมือร่วมใจของทายาทช่วยกันสานต่อ ถึงวันนี้อยู่ในการดูแลของทายาทรุ่น 3 คุณพรชนก เหลืองรุ่งทรัพย์ หรือ กุ๊ก วัย 29 ปี

เจ้าของร้านข้าวหลามเจ๊สองพี่น้อง เล่าให้ฟังว่า เข้ามารับช่วงดูแลธุรกิจต่อจากคุณแม่ซึ่งขายข้าวหลามในตลาดสี่มุมเมืองมานานกว่า 20 ปี โดยธุรกิจนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากคุณตาคุณยาย ที่เมื่อก่อนนั้น ตั้งแผงขายข้าวหลามตามงานวัด

“ครอบครัวขายข้าวหลามมาตั้งแต่รุ่นคุณตาคุณยาย แต่เป็นธุรกิจครอบครัวเล็กๆ สมัยนั้นคุณตาคุณยายจะไปตั้งแผงขายตามงานวัด จากขายได้วันละไม่กี่กระบอกก็เริ่มขายดีขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจจึงค่อยๆ เติบโต”

เมื่อธุรกิจเจริญรุ่งเรืองถึงคราวต้องหาลู่ทางขยับขยาย ทายาทรุ่น 3 เล่าต่อว่า ทางบ้านได้เริ่มมองหาทำเลเพื่อขยับขยายกิจการ โดยมีโอกาสมาเปิดร้านที่ตลาดสี่มุมเมือง จากธุรกิจครอบครัวเล็กๆ ในวันนั้นจึงได้กลายมาเป็นธุรกิจที่สร้างอาชีพและรายได้มั่นคงให้กับครอบครัว จนประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน

และเมื่อคุณกุ๊กเรียนจบเธอก็เข้ามาช่วยสานต่อกิจการนี้ “กุ๊กเข้ามาสานต่อมาประมาณ 5-6 ปีแล้วค่ะ พยายามปรับเปลี่ยน ต่อยอด โจทย์คือทำยังไงให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ทิ้งความดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่รุ่นคุณตาคุณยาย” เจ้าของร้านสาว บอกถึงความท้าทาย

ข้าวหลาม สินค้าไฮไลต์สร้างยอดขายกำไรงาม 

ชื่อร้านข้าวหลามเจ๊สองพี่น้อง แน่นอนว่าสินค้าไฮไลต์ประจำร้านต้องเป็นข้าวหลาม เจ้าของร้านคนเดิม เล่าว่า ต้องมีขายทั้งปีห้ามขาด เพราะลูกค้ามาซื้อทุกวัน ทั้งข้าวเหนียวดำและข้าวเหนียวขาว

“เคล็ดลับที่ทำให้ลูกค้าติดใจ คือ รสชาติหวาน หอมมัน ปริมาณไม่มากจนเกินไป ทานได้หมดภายในครั้งเดียว ที่สำคัญ ราคาจับต้องได้ ร้านเราขายเริ่มต้นกระบอกละ 6 บาทเท่านั้น ทำสดๆ ใหม่ๆ ทุกวันส่งตรงมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี ถือเป็นการสร้างงานให้กับชุมชนอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ”

ในส่วนของสินค้าอื่นๆ ที่ขายดีไม่แพ้กัน คือ ขนมปี๊บชนิดต่างๆ ที่ทางร้านนำมารีแพ็กให้เป็นถุงเล็กๆ อย่างพวกขาไก่สามรส คุกกี้เอบีซี เวเฟอร์สอดไส้ต่างๆ พายชีสสับปะรด ถั่วต่างๆ เพื่อแม่ค้าพ่อค้าไปขายต่อ ราคาเริ่มต้นถุงละ 13 บาทเท่านั้น

นอกจากนี้ ทางร้านยังได้เพิ่มไลน์ขนมปังเนื้อนุ่มมีไส้ต่างๆ ให้เลือกมากมาย ตั้งแต่เนยสด ใบเตย เผือก ครีมฝอยทอง ช็อกโกแลต มะพร้าว ลูกเกด หมูหย็องพริกเผา เป็นต้น เริ่มต้นเพียงชิ้นละ 9 บาทเท่านั้น

ขั้นตอนการทำข้าวหลาม

สำหรับขั้นตอนการทำข้าวหลาม ใช้วัตถุดิบสำคัญ ได้แก่ ข้าวเหนียวดำและข้าวเหนียวขาวเกรด A นํ้ากะทิคั้นสด นํ้าตาลทราย เกลือ และถั่วดำเม็ดใหญ่ต้ม

ขั้นตอนแรก ในส่วนกระบอก เริ่มจากตัดไม้ไผ่ข้าวหลามให้ยาวประมาณ 40-42 ซม. นำข้าวเหนียวที่เตรียมไว้แช่ประมาณ 60 นาที ระหว่างแช่ข้าวเหนียวก็มาทำการปรุงนํ้ากะทิเตรียมไว้ โดยนำนํ้ากะทิสด นํ้าตาล ปรุงรสด้วยเกลือ คนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วตั้งพักไว้

จากนั้นนำข้าวเหนียวที่แช่ไว้ขึ้นพักในกระชอนให้สะเด็ดนํ้า แล้วเทใส่ภาชนะ นำถั่วดำต้มที่เตรียมไว้เทใส่ข้าวเหนียว คลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำข้าวเหนียวที่คลุกกับถั่วดำต้มกรอกลงไปในกระบอกไม้ไผ่ นำนํ้ากะทิที่ปรุงไว้มากรอกใส่ด้านบน กะปริมาณให้นํ้ากะทิพอท่วมข้าวเหนียวในกระบอก ให้เหลือพื้นที่ปากกระบอกไม้ไผ่ไว้ประมาณ 2 นิ้ว เผื่อพื้นที่ไว้ใส่จุกเพื่อจะให้ข้าวสุกเร็วขึ้น

จากนั้นนำกระบอกที่ใส่ข้าวเหนียวแล้วลงไปในถังนึ่ง ในขั้นตอนนี้ทางร้านไม่ใช้วิธีการเผา แต่จะใช้วิธีนึ่งแทน เพื่อให้ข้าวเหนียวมีความนุ่มเนื้อแน่น และสามารถควบคุมคุณภาพการผลิตได้ ใช้เวลาในการนึ่งประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และค่อยนำกระบอกข้าวหลามที่สุกแล้วมาปอกเปลือกเอาสีเขียวๆภายนอกออก และมัดเป็นมัดๆ เพื่อนำส่งออกจำหน่ายต่อไป

ยอดขายทะลุหมื่นกระบอกทุกวัน

สำหรับการจำหน่าย คุณกุ๊ก บอกว่า ที่ร้านมีลูกค้าประจำและลูกค้าขาจรแวะเวียนมาซื้อไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้า แม่ค้ารถเร่ รวมไปถึงพ่อค้าคนกลางที่รับข้าวหลามจากทางร้านไปตีตราแบรนด์ และส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ มีทั้งอเมริกา และออสเตรเลีย

“บางรายโทรสั่งจองล่วงหน้าหรือช่วงนี้ก็จะมีลูกค้าจากแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เข้ามาติดต่อขอรับซื้อเป็นจำนวนมากเช่นกัน เฉพาะข้าวหลามรวมกันทุกขนาดของทางร้านขายได้ราวๆ 10,000 กระบอก สูงสุดเคยขายได้ 300,000 กระบอกต่อวัน สร้างรายได้เฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท หรือต่อเดือนประมาณ 1,500,000 บาท จำนวนนี้ยังไม่หักค่าใช้จ่ายนะคะ” ทายาทรุ่น 3 กล่าวทิ้งท้าย

ช่องทางการติดต่อ ร้าน ข้าวหลามเจ๊สองพี่น้อง สาขา ตลาดสี่มุมเมือง (ตลาดสดยุคใหม่โซนอาหารแปรรูป ซอย 3) เปิดบริการทุกวัน 24 ชม. เพจเฟซบุ๊ก : ร้านข้าวหลามเจ๊สองพี่น้อง

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2565