ปิ๊งไอเดียจากร้านข้างทาง สู่แฟรนไชส์ มันทิพย์เสียบไม้ คืนทุนใน 1 เดือน

หลายๆ คนอยากเป็นเจ้าของกิจการ ส่วนบางคนที่เป็นผู้ประกอบการอยู่แล้วอยากให้ธุรกิจเดิมเติบโตยิ่งขึ้น หากมีไอเดียธุรกิจดีๆ ขอเพียงแค่ลงมือทำก็ไม่ยากที่จะเริ่มต้น เช่นเดียวกับ คุณบอล-พัสกร ถิรคุณทยุติกร เจ้าของบริษัท สถานีลิงเกาะ จำกัด ซึ่งปัจจุบันได้ขยายธุรกิจเพิ่มเป็นแฟรนไชส์ มันทิพย์ลิงเกาะ โดยปิ๊งไอเดียมาจากร้านรถเข็นข้างทางที่ขายขนมมันทิพย์ จากนั้นจึงลองทำและพัฒนาอยู่เรื่อยมา จนต่อยอดเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่คืนทุนมีกำไรใน 1 เดือน

จุดเริ่มต้นมันทิพย์เสียบไม้

คุณบอล เจ้าของธุรกิจวัย 39 ปี บอกกับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ว่า มันทิพย์ลิงเกาะ เป็นหนึ่งในธุรกิจแฟรนไชส์ของบริษัท สถานีลิงเกาะ จำกัด ที่เริ่มต้นมาจากการขาย กล้วยปิ้งลิงเกาะ มาก่อน

เดิมทีคุณแม่ของคุณบอลขายกล้วยปิ้งอยู่ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี “ผมเคยทำงานประจำมาก่อน แล้วคุยกับแฟนว่าจะทำยังไงให้เรามีเงินเดินตลาดนัด เธอบอกให้ขายกล้วยปิ้งกับแม่ ผมจึงลองขายวันเสาร์-อาทิตย์ จนรู้สึกว่าชอบและเหมาะกับการค้าขาย อีกทั้งยังเป็นอิสระ ผมเลยลาออกจากงานประจำ”

ต่อมาเจ้าของธุรกิจจึงขี่รถพ่วงข้างมาขายกล้วยปิ้งที่ อ.เมือง จ.สระบุรี อยู่มาวันหนึ่งหลังจากที่ขายมาได้ 1-2 ปี เขาขับรถกระบะไปซื้อกล้วยกับคุณแม่ที่ จ.อ่างทอง ทว่าระหว่างทางเห็นร้านรถเข็นขายกล้วยปิ้งคู่กับขนมมันทิพย์ ซึ่งเป็นขนมที่ทำจากมันสำปะหลังหรือมัน 5 นาที โดยจะปั้นกลมๆ วางปิ้งบนเตาถ่าน

“ผมหันไปถามแม่ว่า มันทิพย์ทำยากไหม แม่บอกไม่ยากหรอก แม่ทำได้ เราเลยกลับมาทำกัน นึ่งบ้าง ตำบ้าง ทำแบบบ้านๆ ครับ พอทำก็โอเคนะ จึงลองทำต่อดู” คุณบอล เล่าให้ฟัง

คุณบอลทำมันทิพย์ได้ไม่นานก็หยุดไปและเดินหน้าธุรกิจแฟรนไชส์ กล้วยปิ้งลิงเกาะ อย่างเต็มที่ จนในปี 2563 ช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด เขามีโอกาสเปิดร้านต้นแบบแห่งหนึ่ง แต่ทว่าด้วยความที่ไม่มีอะไรทำ จึงนำเมนูเก่าๆ ที่เคยคิดค้นกลับมาทำใหม่อย่างขนมมันทิพย์

เจ้าของธุรกิจเริ่มต้นทำขนมมันทิพย์ใหม่อีกรอบ ตั้งแต่การปิ้งด้วยเตาแก๊ส โดยปั้นเป็นลูกกลมๆ เสียบไม้ลูกชิ้น จากนั้นเปลี่ยนมาปิ้งบนเตาเทปันกับเตาโอปันยากิ ทว่าขั้นตอนในการทำนั้นยากและใช้เวลานานกว่าจะได้แต่ละชิ้น ภายหลังจึงเปลี่ยนไปใช้เครื่องทำวอฟเฟิลแบบกลมแทน โดยระหว่างนั้นมีการพัฒนาปรับปรุงอยู่เรื่อยๆ จนในปัจจุบัน มันทิพย์ลิงเกาะ ปิ้งด้วยเครื่องทำวอฟเฟิลรูปทรงไอติมที่ภรรยาของเขาแนะนำมา

ด้วยความที่คุณบอลมีโจทย์ในใจว่า จะทำอย่างไรให้คนกินไม่อาย คนขายไม่เขิน จึงทำให้รูปทรงของมันทิพย์ลิงเกาะเป็นวอฟเฟิลไอติม ซึ่งเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของ มันทิพย์ลิงเกาะ อีกทั้งยังมีไส้หลากหลาย รวมทั้งหมด 6 ไส้ คือ เผือกกวน ฝอยทอง มันม่วงกวน ช็อกโกแลต สับปะรดกวน และถั่วกวนไข่เค็ม ซึ่งไส้ต่างๆ มีรสชาติหวานกลางๆ ส่วนเนื้อมันไม่หวานโดดเหมือนขนม ไม่มีส่วนผสมของแป้ง และที่สำคัญคือ มีมาตรฐาน อย.

คุณบอล เผยว่า ในอนาคตอาจมีการพัฒนารูปแบบ รูปทรง บรรจุภัณฑ์ สีสัน และไส้ต่างๆ เช่น มีไส้ฟักทองหรือทุเรียนเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มลูกเล่นและความน่าสนใจให้กับสินค้า อีกทั้งยังลดความจำเจให้กับลูกค้าอีกด้วย

“เรายื่นจดอนุสิทธิบัตร เพราะเมื่อก่อนตอนขายกล้วยปิ้ง เราไม่พร้อมแต่ดันมีกระแส พอออกสื่อวันเดียว ภายในไม่กี่เดือนคนก๊อบปี้ในสิ่งที่เราคิดและประสบการณ์ที่ลองผิดลองถูกมา 10 ปี เราเป็นผู้นำและทำก่อนใครจริง แต่บางอย่างไม่ได้ป้องกัน ทำให้เรียนรู้ว่า ถ้าคิดจะทำอะไร ควรมีเครื่องมือหรือมีการป้องกันเรื่องการเลียนแบบ” เขาแชร์ให้ฟัง

ในวันนี้เจ้าของธุรกิจพร้อมให้ทุกคนได้ลงทุนแล้ว ซึ่งการจดอนุสิทธิบัตรเป็นการรักษาผลประโยชน์ให้กับสาขา โดยที่ไม่ถูกเลียนแบบและยังได้สิทธิขายในพื้นที่แต่เพียงผู้เดียว นี่จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้จากอดีตว่า “ในเมื่อเราเป็นเจ้าของแบรนด์ ถ้าเราคิดได้ก็ต้องป้องกันได้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวธุรกิจ”

ราคาแฟรนไชส์ เริ่มต้นหลักหมื่น คืนทุนใน 1 เดือน

อย่างไรก็ดี ราคาแฟรนไชส์มีทั้งแยกและรวมระหว่างกล้วยปิ้งลิงเกาะกับมันทิพย์ลิงเกาะ โดยแฟรนไชส์ 1 เมนู ราคา 39,000 บาท รวม 2 เมนู ราคา 59,000 บาท

“มันทิพย์คืนทุนภายใน 1 เดือน โดยเราคำนวณจากราคาชุมชน 1 ชิ้น 25 บาท ถ้าในห้าง 35 บาท ค่าเช่าไม่เกิน 12,000 บาท จริงๆ ในชุมชนค่าเช่าไม่ถึงหรอกครับ แต่เราตั้งเรตสูงสุดไว้ ค่าแรง 9,000 บาท ขายได้ 50 กว่าคนต่อวัน ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือน 80,000 กว่าบาท 1 เดือนคืนทุนมีกำไรแน่นอน” คุณบอล ว่าเช่นนั้น

เขาเสริมอีกว่า “เราไม่เอาเปรียบ สิ่งที่บังคับสั่งต้องถูกกว่าเขาทำเอง เราต้องการสร้างแบรนด์และอยู่ให้ได้ ผมเลยเน้นลงทุนปุ๊บได้อุปกรณ์ครบเลย เสียเงินครั้งเดียวจบ เพราะต้องการให้เขาแอ๊กชั่นน้อยที่สุด ผมไม่ชอบให้ใช้ทักษะอะไรมาก เพราะเมื่อไหร่ที่พึ่งความเก่งหรือทักษะของคนขายหรือคนลงทุน มันจะเหนื่อยและรอดยาก”

“ถ้าลูกค้าเปิดใจอยากลงทุนและรับข้อมูลจริงๆ ผมมั่นใจเขาจะสัมผัสได้ว่าผมจริงใจ เงินเราอยากได้ แต่อยากได้สาขาที่อยู่รอดมากกว่า นี่คือสิ่งหนึ่งที่ผมทำมาตั้งแต่ต้น ต่อให้มันแย่แค่ไหนก็ยังอยู่ได้เพราะเราซื่อสัตย์” เจ้าของธุรกิจทิ้งท้าย

หากใครที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก กล้วยปิ้งลิงเกาะ หรือ โทร. 064-659-6639 และ 099-628-8855

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2565