จากร้านอาหารครอบครัว สู่ คั่วไก่ป้าเพียน เปิดมากว่า 50 ปี ผู้ว่าฯ ยังแวะกิน

จากร้านอาหารของครอบครัว สู่ คั่วไก่ป้าเพียน เปิดมากว่า 50 ปี ที่ผู้ว่าฯ ยังแวะกิน!
จากร้านอาหารของครอบครัว สู่ คั่วไก่ป้าเพียน เปิดมากว่า 50 ปี ที่ผู้ว่าฯ ยังแวะกิน!

จากร้านอาหารครอบครัว สู่ คั่วไก่ป้าเพียน เปิดมากว่า 50 ปี ผู้ว่าฯ ยังแวะกิน

เมื่อไม่นานมานี้มีกระแสตามรอยผู้ว่าฯ กทม. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จากไลฟ์สดชีวิตประจำวันผ่านเฟซบุ๊ก หลายคนปักหมุดร้านเด็ดรอบกรุงเทพฯ และพากันไปกินตาม ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารคาวหรือร้านขนมหวาน หนึ่งในนั้นคือ คั่วไก่ป้าเพียน ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ใจกลางกรุง ที่เริ่มด้วยการสานต่อร้านอาหารของครอบครัว ซึ่งปัจจุบันเปิดร้านมาเกือบ 50 ปีแล้ว

ป้าเพียน-ปลาเพียน อ่วมทับ เจ้าของร้านวัย 67 ปี เป็นคนจังหวัดราชบุรี หลังแต่งงานในปี พ.ศ. 2517 เธอได้ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ และช่วยป้าของสามีขายก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เธอจึงรับช่วงต่อมาขายแทน โดยพัฒนาจากสูตรเดิมที่เคยทำให้มีความเข้มข้นมากขึ้น นี่จึงเป็นที่มาของ คั่วไก่ป้าเพียน

พอได้ดูแลร้านอย่างเต็มตัว ป้าเพียนก็เริ่มขายบะหมี่เกี๊ยวเพิ่มเพื่อให้มีเมนูที่หลากหลาย เพราะสมัยก่อนคนไม่นิยมทานก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ช่วงแรกๆ เลยทำขายไม่เยอะมาก แต่หลังๆ มานี้เริ่มขายได้มากขึ้น จนมาขายดีมากๆ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา

ป้าเพียน เล่าให้ฟังว่า “แต่ก่อนป้าขายคนเดียวมาตลอด เดี๋ยวนี้มีครอบครัวช่วยแล้ว เพราะวัยรุ่นที่มาร้านป้า เขากินแล้วอร่อยเลยโพสต์ลงโซเชียล คนที่เห็นโพสต์ก็มาลองกิน พออร่อยจริงจึงโพสต์ต่อ เหมือนเป็นการบอกต่อ ปากต่อปาก มันเลยเป็นกระแส”

ต่อมาในวันที่ 23 มิถุนายน 2565 คั่วไก่ป้าเพียน ได้ไปโผล่ในไลฟ์สดของผู้ว่าฯ กทม. อย่างคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทำให้มีคนมากินตามรอยเป็นจำนวนมาก จากเดิมที่คนเยอะอยู่แล้ว กลายเป็นว่าตอนนี้คนแน่นร้านหนักกว่าเดิมถึง 2 เท่า “ยอดขายมากขึ้นกว่าเดิม 20% บางทีต้องตัดลูกค้าไปบ้าง เพราะเราทำไม่ทัน ถ้ามันเกินแรงไปก็ไม่ไหว มันต้องพอดีๆ” ป้าเพียน กล่าว

เจ้าของร้านเผยความรู้สึกหลังจากได้เจอคุณชัชชาติ ให้ฟังว่า “ท่านเคยมาวัดราชบพิตร เคยเจอกัน คุยทักทายกัน และจะเรียกป้าเพียน เพราะชื่อเรามันดังไปหมดแล้ว ท่านเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่า ณ ตอนนี้หรือตอนไหน ท่านวางตัวเหมือนเดิม ท่านดีกว่าเดิมเข้าไปอีก เป็นกันเองกับประชาชนทั่วไปเลย”

แม้จะมีคนมาตามรอยเยอะมากแค่ไหน แต่ป้าเพียนยังคงรักษาคุณภาพของอาหารอยู่เสมอ จากการคั่วครั้งละ 1 ชาม ต่อ 1 กระทะ โดยทางร้านใช้กระทะทองเหลืองและเตาถ่านในการทำอาหาร ซึ่งจะปลอดภัยและไม่ก่ออันตรายใดๆ ต่อผู้บริโภค รวมไปถึงยังทำให้อาหารมีกลิ่นหอมถ่าน

นอกจากนี้ คั่วไก่ป้าเพียน ยังมีเส้นให้ลูกค้าเลือกทานหลายประเภท “มีเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ เส้นบะหมี่ และเส้นใจด้วย เส้นนี้สำคัญที่สุดเลย เพราะเส้นใจคือใส่ใจทำ ถ้าเราไม่ใส่ใจทำมันจะอร่อยไหม” เธอว่าเช่นนั้น และบอกอีกว่า ในก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่จะใส่ไก่ หมูแดง ปลาหมึก และไข่ พอผัดเกรียมๆ จะมีกลิ่นหอมมาก หากใส่น้ำหมูแดงเพิ่มไปด้วยจะอร่อยยิ่งกว่าเดิม ซึ่งหมูแดงเป็นสูตรที่ป้าเพียนหมักเองโดยไม่ใส่สารอะไรทั้งนั้น

“ทำให้คุณภาพคงที่คือ ดีเสมอต้นเสมอปลาย วันนี้อร่อย พรุ่งนี้ไม่อร่อย แบบนี้ไม่โอเค ต้องทำมาตรฐานของเราให้ดี ลูกค้าจะได้ติดใจ พอกินแล้วอร่อยก็มากินซ้ำ และแนะนำให้คนนู้นคนนี้มากินต่อ อีกอย่างที่สำคัญคือ ต้องไม่เอาเปรียบลูกค้า ให้ลูกค้าด้วยใจ พวกน้ำตะไคร้หรือใบมะกรูด ป้าให้กินฟรี น้ำแข็งก็ฟรี” ด้วยฝีมือของป้าเพียนและการคำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก ทำให้หลายคนติดใจ คั่วไก่ป้าเพียน จนต้องกลับมาทานซ้ำ

ถึงแม้ว่าทางร้านจะไม่มีบริการดีลิเวอรี่ แต่กลับขายดิบขายดีจนบางคนถึงขั้นใช้บริการแกร็บให้ขับมารับอาหารที่ร้าน “เขาซื้อก๋วยเตี๋ยวคั่ว 180 แต่ค่ารถ 300 เขายังกินเลย ป้าภูมิใจนะ บางคนมารอ 2-3 ชั่วโมง พอกินเสร็จเขาบอกว่า คุ้มค่ากับการรอคอย แล้วกินเกลี้ยงไม่เหลือเลย ป้าเห็นในชามหมดก็ดีใจแล้ว ถึงจะไม่ชม ป้าก็รู้ว่าดีนะ แต่เราเกรงใจมากเลย คนรอกันขนาดนั้น” เจ้าของร้าน เล่าด้วยความภาคภูมิใจ

ตั้งแต่ต้นปี 2565 ราคาเนื้อหมูและไก่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายร้านต่างพากันขึ้นราคาอาหาร เช่นเดียวกับ คั่วไก่ป้าเพียน เจ้าของร้าน บอกว่า “เพิ่งปรับราคามาได้ 2 เดือน จาก 50 กลายเป็น 60 เพราะตอนนั้นป้าเคยซื้อไก่โลละ 45-50 บาท พอตอนหลังราคาขึ้นมาจะ 100 ป้าเลยขอปรับเพราะมันไม่ไหวแล้ว”

อย่างไรก็ตาม การเปิดร้านในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ประสบกับปัญหาคือคนมาน้อย เพราะคนส่วนใหญ่กลับต่างจังหวัด “ปกติขายก๋วยเตี๋ยว 10 โล พอโควิดมาเหลือ 5-6 โล ก็ลดลงมาครึ่ง แต่ยังดีที่อยู่ได้ ป้าไม่ได้ติดโควิดด้วย เลยเปิดร้านขายได้ตลอด” แม้จะมีปัญหาและอุปสรรคบ้าง แต่ทว่า คั่วไก่ป้าเพียน ยังคงเปิดร้านมาอย่างยาวนานเกือบ 50 ปี

ภายภาคหน้า คั่วไก่ป้าเพียน ยังคงเปิดขายต่อไป โดยลูกสาวและลูกชายของป้าเพียนเป็นผู้สานต่อ “ไม่ต่อเติมร้านแล้ว เอาแบบเดิมๆ เพราะอายุป้าเยอะแล้ว แค่ยืนทำ มีกิน ไม่เบียดเบียนคนอื่น เราก็พอแล้ว ไม่เอาอะไรหรูหราเกินตัวหรอก อยู่แบบสบาย” เจ้าของร้าน ทิ้งทวน

หากใครอยากลิ้มรสความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ฝีมือป้าเพียน สามารถเดินทางไปทานได้ที่ร้าน คั่วไก่ป้าเพียน 14 ถนนเฟื่องนคร แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 หรือโทรสั่งล่วงหน้าที่เบอร์ 089-178-7035 โดยร้านเปิดทุกวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 10.00-16.00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2565