ผู้เขียน | หิรัญยวัต อทิวัฒน์เดชากร |
---|---|
เผยแพร่ |
เรื่องโดย หิรัญยวัต อทิวัฒน์เดชากร / หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน
ใครผ่านไปทาง อ.วิเศษชัยชาญ จากอ่างทองวิ่งเข้าตัวเมืองวิเศษชัยชาญ เลยวัดม่วงถึงสี่แยกไฟแดงประปาวิเศษชัยชาญ เลยไปประมาณ 500 เมตร สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นป้าย “ร้านค้าประชารัฐ” ตั้งอยู่ริมคลอง บ้านคลองขุน หมู่ 5 ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เปิดจำหน่ายข้าวราดแกงรสอร่อย แต่ราคาถูกเพียงจานละ 10 บาท นอกจากนี้ ยังมีสารพัดอาหาร อาทิ ผัดไทย ส้มตำ ลาบ น้ำตก ไก่ทอด ข้าวเหนียว รวมทั้งยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอท็อป และสินค้าเกษตรราคาย่อมเยา และยังได้เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ใน จ.อ่างทอง ที่ปิดป้ายไว้โดยรอบร้านค้า
พล.ต.สุทัศน์ อยู่นาน อดีตนักบินทหารบกจังหวัดลพบุรี ในวัย 75 ปี เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า หลังจากเกษียณราชการมากว่า 15 ปี ได้ช่วยงานของทางราชการอยู่เป็นประจำ โดยเป็นประธานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดอ่างทอง และประธานกองทุนหมู่บ้านคลองขุน ล่าสุด หลังจากทางรัฐบาลได้จัดโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจรากหญ้าตามแนวทางประชารัฐ พร้อมให้เงินช่วยเหลือกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 5 แสนบาท จึงร่วมกับชาวบ้านที่เป็นสมาชิกรวม 198 คน เปิดร้านค้าประชารัฐ นำสินค้าในหมู่บ้านที่ชาวบ้านผลิตกันเอง นำมาวางขายภายในร้านค้าให้ประชาชนได้เลือกซื้อ พร้อมมีแนวคิดเปิดร้านข้าวราดแกงจานละ 10 บาท เพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้าน
“ทุกวันผมจะทำกับข้าววันละ 10 อย่าง วางให้ลูกค้าได้เลือกรับประทานตามใจชอบ และหากเป็นข้าวราดแกง 2 อย่างก็จะเพิ่มเป็นราคา 15 บาท นอกจากนั้น ยังมีขนมและน้ำแข็งใส ให้เลือกรับประทานในราคาถ้วยละ 10 บาทด้วย”
พล.ต.สุทัศน์บอกด้วยว่า ร้านที่ตนและกลุ่มสมาชิกทำขึ้นมานั้น เป็นกลุ่มที่ตรงเป้าหมายของรัฐบาลมากที่สุด เปิดโอกาสให้สมาชิกได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ และสามารถนำสินค้าทางการเกษตรมาวางจำหน่ายภายในร้านได้อีกด้วย นอกจากสินค้าในพื้นที่แล้ว เรายังสนับสนุนสินค้าจากอำเภออื่นๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือกระจายรายได้ให้กับชาวบ้าน
ส่วนหมู่บ้านอื่นๆ เปิดร้านบริการประเภท “ตู้หยอดเหรียญ” นั้น พล.ต.สุทัศน์บอกว่า ทางกลุ่มเห็นว่ามันง่ายเกินไป เพราะหลายหมู่บ้านทำแบบนี้ไง ไม่ว่าตู้น้ำหยอดเหรียญ ตู้เติมเงินโทรศัพท์ หรือตู้เติมน้ำมัน เจอกันให้เกลื่อนไปหมด ถามว่าเงิน 5 แสนบาทที่ได้มาจะเหลือกันสักกี่บาท บางรายก็ไม่เหลือ ตอนนี้ก็มีหลายคนมาบ่นๆ ให้ฟัง มีทั้งขาดทุนบ้างอะไรบ้าง เราเลยมองว่าถ้าแบบนี้เงินจะไปตกอยู่กับบริษัทที่ขายเครื่องพวกนั้นแทน จึงประชุมกับกลุ่มสมาชิกแล้วลงมติทำร้านประชารัฐนี้ขึ้นมา โดยมีแนวคิดใช้ข้าวราดแกง 10 บาท เป็นตัวชูโรง เพื่อดึงลูกค้าเข้ามากินข้าวที่ร้านเรา และเมื่อเข้ามาลูกค้าจะเห็นสินค้าทางการเกษตร หรือจากภูมิปัญญาชาวบ้าน และก็เลือกซื้ออุดหนุนกันไป
“หากถามว่าข้าวแกงนี่ขายดีไหม ยอมรับเลยว่าขาดทุน แต่สนุก สนุกตรงที่ได้มีโอกาสทำอาหาร ได้ทำของอร่อยๆ ให้คนกิน รายได้จากการขายอาหารแค่วันละพันกว่าบาท ลองมาคิดเป็นจำนวนจานดูสิร้อยกว่าจานเลยนะ แปลว่าถูกและอร่อย ส่วนที่ว่าขาดทุนก็ขาดทุนแค่ร้อยกว่าบาท แต่กำไรจะไปเพิ่มตรงไหนรู้รึเปล่า ไปเพิ่มตรงสินค้าของกลุ่มไง บวกลบคูณหารแล้วร้านเราก็พออยู่ได้ อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตต้นทุนสูงขึ้น เราไม่ไหวจริงๆ ก็คงจะขอเพิ่มเป็น 15 บาท”
พล.ต.สุทัศน์ระบุด้วยว่า หลังจากเปิดร้านประชารัฐได้เดือนกว่า เงินที่ได้มา 5 แสนบาท ทางกลุ่มของเรายังใช้ไปไม่ถึงครึ่งเลย เงินทุกบาทที่เราได้มา ต้องทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
“ที่ดินที่ใช้ทำร้านก็เป็นของผมเอง ทิ้งไว้ไม่ได้ทำอะไร ก็เอามาใช้ประโยชน์ ไม่ได้มีการเก็บค่าเช่าแต่อย่างใด ตอนนี้ในพื้นที่ของร้านก็เตรียมกันพื้นที่บางส่วนให้กลุ่มสมาชิกได้ลองเลี้ยงไส้เดือน เพื่อขายมูลไส้เดือน เชื่อว่าจะสามารถต่อยอดอาชีพให้กับสมาชิกภายในกลุ่มได้อีกทางเลือกหนึ่ง”