Momizu ชาชีสพรีเมี่ยมไทย อร่อย ไม่แพง เจาะลูกค้าทุกกลุ่ม-ขยายแฟรนไชส์เพิ่ม

Momizu House (โมมิซุ เฮ้าส์) ชาชีสพรีเมี่ยมไทย ชูจุดเด่น อร่อย ไม่แพง รุกเจาะตลาดลูกค้าทุกวัย พร้อมขยายแฟรนไชส์เพิ่ม ลงทุนเริ่มต้น 3 แสน ก็เป็นเจ้าของได้

ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มรวมไปถึงกลุ่มชานมไข่มุก มีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง จากมูลค่าราวๆ 2.5-3 พันล้านบาท เราจะเห็นความเคลื่อนไหวของแบรนด์ใหม่ๆ อยู่ตลอด ไม่ว่าจะทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้เกิดการแข่งขันสูง แม้ในระยะ 3 ปีให้หลังมานี้ต้องเจอกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ก็ไม่ใช่อุปสรรคกับธุรกิจประเภทนี้

เช่นเดียวกับ Momizu House (โมมิซุ เฮ้าส์) ที่ก่อตั้งและบริหารโดย คุณพราว-พราวรินท์ พสิษฐ์วสุธร ที่ได้เริ่มทำตลาดในปี 2562 ภายใต้คอนเซ็ปต์ เครื่องดื่มชา กาแฟ แสนอร่อย ในราคาจับต้องได้ โดยคุณพราว เล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า

เดิมทีคุณพราวทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่มมาก่อนแล้ว 5 ปี และยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่เธอทำอยู่ด้วย จนเมื่อปี 2562 ได้เล็งเห็นถึงการเติบโตในตลาดอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ ร้านชานมไข่มุก ที่แนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งมีแนวคิดที่อยากให้พนักงานในความดูแลนั้นมีงานทำอย่าง “ยั่งยืน”

จึงได้ไปสำรวจตลาดแบรนด์เครื่องดื่มชานมไข่มุกในหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ยุโรป อเมริกา หรือ ประเทศต้นกำเนิดอย่าง ไต้หวัน คุณพราวจึงได้เห็นว่า ยังมีช่องว่างการตลาด ที่เธอยังสามารถเข้าไปเป็นผู้เล่นได้อยู่ จึงได้เข้าไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากสถาบันต่างๆ เพื่อนำมาต่อยอด เหตุนี้ โมมิซุ เฮ้าส์ จึงได้ถือกำเนิดขึ้น

คุณพราว-พราวรินท์ พสิษฐ์วสุธร เจ้าของแบรนด์ Momizu House

และเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียล สำโรง ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ทำให้ปีแรกมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 200% และเริ่มเห็นโอกาสการเติบโตขึ้นไปอีก จึงขยายสาขาเข้าไปในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบันมีทั้งหมด 30 สาขา เป็นของตัวเอง

“ด้วยความที่เป็นคนชอบอะไรที่น่ารักๆ มีความเป็นญี่ปุ่น จึงตั้งชื่อร้านว่า โมมิซุ เฮ้าส์ หรือ โมมิซุ ซึ่งมาจากคำว่า โมมิจิ หรือก็คือใบเมเปิ้ลสีแดง 5 แฉกของญี่ปุ่น โดยเราเน้นการทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาลองทานเครื่องดื่มพรีเมี่ยมและคุณภาพที่เราคัดสรรมาอย่างดี เพราะเราอยากให้คนไทยได้ทานของดีๆ ที่ราคาเข้าถึงง่าย และคนที่เข้ามาใช้บริการที่ร้านต้องได้รับความประทับใจในเครื่องดื่มและบริการกลับไปด้วย”

“ส่วนพนักงานก็มีความภูมิใจในอาชีพการบริการในสายอาหารและเครื่องดื่มที่ทำด้วย ช่วงแรกๆ ยอมรับเลยว่าเหนื่อยมาก เพราะต้องรีเสิร์ช ดิฉันกับน้องๆ หลังบ้านก็วิเคราะห์ข้อมูลด้วยกันหนักมาก เพราะตลาดเครื่องดื่มประเภทนี้ การแข่งขันมันสูงมาก เราต้องทำยังไงให้ธุรกิจเราถ้าเปิดมาแล้วมันต้องไปรอด และไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าเราต้องเป็นโกลบอลแบรนด์ให้ได้” คุณพราว เล่า

นอกจากนั้น เจ้าของแบรนด์โมมิซุ เฮ้าส์ ยังเล่าอีกว่า หลังจากเห็นว่าธุรกิจได้รับผลตอบรับดี ในปี 2019 ก็ได้ต่อยอดขยายเป็นแฟรนไชส์ของตัวเองเพิ่ม รวมถึงมีผู้ที่สนใจเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์กว่า 70% ทำให้ โมมิซุ เฮ้าส์ มีสาขาในประเทศ กว่า 40 สาขา และเติบโตได้อย่างสวยงาม จนมีลูกค้าประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว และ กัมพูชา ติดต่อเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์อีก ทำให้มีสาขาในประเทศเพื่อนบ้านอีกกว่า 27 สาขา

“วัตถุดิบเรานำเข้าจากต่างประเทศกว่า 50% และมีการใช้วัตถุดิบที่มีการซื้อจากเกษตรกรในประเทศอีก 50%  ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่เราคัดสรรมาอย่างดีจริงๆ แล้วนำมาทำเครื่องดื่มที่ร้าน นอกจากนั้น เรายังมีทีมงานในการดูแลและช่วยสาขาแฟรนไชส์ต่างๆ” เจ้าของโมมิซุ เฮ้าส์ ว่าอย่างนั้น

เจ้าของโมมิซุ เฮ้าส์ ยังเผยอีกว่า เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แน่นอนว่าธุรกิจที่กำลังไปได้สวยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จึงมีการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ เน้นร้าน Stand Alone ให้มากขึ้น และออกแพ็กเกจ “แฟรนไชส์ไซซ์มินิ” ที่ลงทุน 8 แสนบาท ก็สามารถเปิดร้าน Momizu House ขนาด 18 ตร.ม. ได้ รวมถึงได้อุปกรณ์การทำเครื่องดื่ม การสอนการขาย และทีมดูแลตลอด 24 ชม.

“จริงๆ แฟรนไชส์เรา มี 4 ไซซ์ แต่ถ้าเป็นช่วงนี้ หลายๆ คนก็อยากลงทุนไม่มาก เราก็มีราคาเริ่มต้น 3 แสนบาท มีระยะเวลาสัญญา 3 ปี ยังไม่รวมค่าตกแต่ง แต่สอนการทำร้านทุกอย่างให้ ซึ่งก่อนโควิด ยอดขายเครื่องดื่มของแบรนด์เราที่มีการเก็บข้อมูล เฉลี่ยแล้วขายได้ประมาณ 3-5 ร้อยแก้วต่อวันต่อสาขา แต่พอเกิดโควิด ยอดขายจะเฉลี่ยที่ 150 แก้วต่อวันต่อสาขา แต่เราจะไปโตที่ดีลิเวอรี่แทน แรกๆ ยอดปังมาก แต่ค่า GP สูง เราก็มีการวางแผนปรับกันอยู่ ดิฉันก็คิดนะคะว่า ถ้าโควิดหมด ธุรกิจก็จะโตขึ้นอีก”

“ในตลาดเครื่องดื่ม มันมีการแข่งขันที่แตกต่างกันไป แต่โมมิซุ เฮ้าส์ เราเน้นการักษาคุณภาพ การที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่าย ทุกวัย และราคาจับต้องได้ และการบริการที่ดี ก็เป็นจุดที่ทำให้ร้านรักษามาตรฐานไว้ได้เช่นกัน เมนูเราก็หลากหลาย มีทั้ง ชา กาแฟ น้ำผลไม้ เบเกอรี่ ในอนาคตก็คิดว่าจะแตกไลน์ไปกลุ่มอาหาร นอกจากนั้น เราเพิ่งมีการเซ็นสัญญากับไร่กัญชา ที่กาญจนบุรี เพื่อนำกัญชามาเป็นวัตถุดิบในเมนูเครื่องดื่มของร้านด้วย” คุณพราว เล่า

เครื่องดื่มของที่ร้านราคาเริ่มต้นที่ 35 บาท และเมนูที่ได้รับความนิยมของร้าน คือ ฮอกไกโดชีส เครื่องดื่มนมฮอกไกโด ด้านบนมีการใส่ชีสรสมันนุ่มลิ้นโรยน้ำตาลเผา ให้ความรู้สึกหวานมัน ตัดกันกับ ไข่มุกมินิ ที่ทางร้านทำเองและใช้เวลาเคี่ยวกว่า 3 ชั่วโมงกว่าจะนำออกขายได้ ซึ่งฮอกไกโดชีส มียอดขายกว่า 5 แสนแก้วตั้งแต่ โมมิซุ เฮ้าส์ ได้ดำเนินธุรกิจมา

“การคิดเมนูของเรา เริ่มแรกจะมองที่ตัวเราเองก่อนว่า เราอยากได้อะไร ลูกค้าอยากได้แบบเราไหม และทำออกมาแล้ว ถ้าเจ้าของทานได้ ลูกค้าก็ต้องทานได้ และทานในคุณภาพเดียวกับที่เจ้าของทานด้วย เพราะดิฉันมองว่า การสร้างแบรนด์สักแบรนด์ มันต้องทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวแบรนด์ ถ้าลูกค้าเกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวแบรนด์ มันก็ทำให้แบรนด์เราเติบโตควบคู่กันไป” คุณพราว ว่าอย่างนั้น

แฟรนไชส์ของ โมมิซุ เฮ้าส์ มีอยู่ด้วยกัน 4 ไซซ์ คือ

1. ไซซ์ S ขนาด 10-15 ตร.ม.

2. ไซซ์ M ขนาด 15-25 ตร.ม.

3. ไซซ์ L ขนาด 30-45 ตร.ม.

4. ไซซ์ XL ขนาด 70 ตร.ม. ขึ้นไป

สอบถามเพิ่มเติม โทร. (02) 069-6289 หรือ (064) 465-6978 และ เฟซบุ๊ก Momizu House

 

 

—————————————————————————————–

เริ่มแล้ววันนี้ M-Code สแกนปั๊บ ลุ้นรับโชค สแกนเลย! ลุ้นรับ ‘บัตรเติมน้ำมันบางจาก’ มูลค่า 5,000 บาท วันละ 1 รางวัล ภายใต้แคมเปญใหญ่ ‘MATICHON – KHAOSOD SEA GAMES 2022’