บะบิ่น กัส-โต้ ผู้ปลุกกระแส บ้าบิ่น ให้กลับมานิยมอีกครั้ง ยอดขายต่อวัน หลักพันกล่อง!

บะบิ่น กัส-โต้ ผู้ปลุกกระแส บ้าบิ่น ให้กลับมานิยมอีกครั้ง ยอดขายต่อวัน หลักพันกล่อง!

บ้าบิ่น บ้างก็เรียก บะบิ่น ถือเป็นขนมไทยที่มีที่มาจากขนมโปรตุเกสเช่นเดียวกับขนมไทยอีกหลายๆ ประเภท แต่มีการสันนิษฐานว่าน่าจะถือกำเนิดในยุครัตนโกสินทร์ เป็นขนมที่ทำมาจากแป้งข้าวเหนียวผสมกับมะพร้าวและนํ้าตาลทรายรวมถึงไข่ไก่ นำมาทำให้สุกด้วยการผิงไฟล่างไฟบน มีลักษณะเป็นชิ้นเล็กๆ แบนๆ

คุณอ้อม-ยุพาภรณ์ มีกุดพันธ์ วัย 40 ปี เจ้าของร้าน ขนมบะบิ่นกัส-โต้ ที่กำลังโด่งดังในโลกโซเชียล ได้ให้สัมภาษณ์กับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ว่า ก่อนจะหันมาทำธุรกิจขนมบ้าบิ่น เธอเคยทำงานเป็นพนักงานประจำมาก่อน

คุณอ้อม-ยุพาภรณ์ มีกุดพันธ์ วัย 40 ปี เจ้าของร้าน ขนมบะบิ่นกัส-โต้

“ย้อนไปตอนนั้น ก็เป็นพนักงานประจำนี่แหละค่ะ แล้วก็เป็นแม่บ้าน เคยทำขนมบ้าบิ่นขายเมื่อตอนปี 54 แต่ก็ไม่ได้ทำเก่งอะไรขนาดนั้น ทำไม่ค่อยเป็น ก็หยุดไป ช่วงที่กลับบ้านที่ขอนแก่น ก็รู้ข่าวว่าเขามีเปิดถนนคนเดินใหม่ๆ เราก็ไปจองล็อกเพื่อจะทำขนมบ้าบิ่นขาย แต่เจ้าของตลาดเขาไม่ให้ขายของซ้ำกัน เลยรู้ว่า อ๋อ มีคนมาจองขายบ้าบิ่นมะพร้าวทึนทึก เขาเรียกกันบ้าบิ่นโบราณอ่ะนะคะ มีมาจองก่อนเราแล้ว ก็อ่ะ ไม่เป็นไร เราก็ยังไม่ชำนาญเนอะ ก็ไปหาซื้อสูตร มาเรียนรู้ฝึกทำ พัฒนาสูตรให้เป็นของเราเองโดยการนำมะพร้าวอ่อนมาใส่”

“พอเห็นว่าเออมันอร่อยนะ เลยไปจองใหม่ เอาตัวนี้ไปขายเฉพาะวันเสาร์ เพราะเรายังทำงานอยู่ ผลตอบรับก็ดีเลยค่ะ แต่ขายมาปีกว่าๆ ก็ต้องหยุดขายเพราะหาวัตถุดิบหลักอย่างมะพร้าวมาทำไม่ได้ เหมือนตอนนั้นมันขาดตลาด แล้วพอดีแฟนย้ายที่ทำงานไปหนองคาย ก็เลยหยุดขายแล้วย้ายตามไป เปลี่ยนไปขายหมูปิ้ง ขายหน่อไม้ฝรั่ง ขายอยู่ 5 ปี แฟนก็ได้งานที่ กทม. ก็เลิกขาย ทีนี้ก็เอาลูกมาอยู่ด้วย แต่เลี้ยงลูกเฉยๆ มันก็ว่าง  เลยคิดว่า กลับมาขายบ้าบิ่นดีกว่า ทำเป็นหลักแหล่ง ทำเป็นลูกกลมๆ ขาย ไหนๆ แถวบ้านที่ กทม. ก็มีมะพร้าวเยอะ เลยเป็นเหตุให้กลับมาขายต่อ” คุณอ้อม ว่าอย่างนั้น

นอกจากนั้น เธอยังเล่าอีกว่า หลังจากกลับมาขาย บ้าบิ่นมะพ้ราวอ่อน ผลตอบรับเป็นไปในทางที่ดีมาก จากที่ตั้งร้านเป็นหลักแหล่ง ใช้เตา 2 เตาในการผลิตบ้าบิ่นขายวันละ 100 กล่อง กระทั่งเริ่มมีบล็อกเกอร์เข้ามาซื้อไปรีวิว ก็มีคนตามๆ กันมาจากโซเชียล จนต้องขยายเตาเป็น 4 เตาก็ยังทำไม่ทัน จึงปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตใหม่เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า เช่น จากที่ทำบ้าบิ่นแบบกลมๆ ก็หันมาทำแบบแบนที่ตัดง่ายขึ้น

“จริงๆ ทำขายหน้าร้านแค่ 100 กล่องเองค่ะ เพราะกำลังผลิตน้อย แต่บางทีลูกค้ามาแล้วก็พูดๆ ว่า มาแล้วไม่ได้กินเลย เพราะเราขายไม่แพง 9 ชิ้น 50 บาท แต่จัดเต็มมะพร้าวอ่อน ใส่ให้แบบไม่กั๊ก แทบจะไม่เจอแป้งเลย บางคนมาซื้อก็ไม่ได้สั่งแค่กล่องสองกล่อง แล้วรุ่นน้องพี่เขามากินแล้วชอบ ก็รับหิ้ว คนอื่นก็มารับหิ้วด้วย เลยต้องแบ่งไปรับออร์เดอร์ทางออนไลน์ ให้คนที่เขาจะเอาไปขายต่อสั่งเข้ามาว่ากี่กล่อง ต่ำๆ ก็ 500 กล่อง แล้วก็มีลูกค้าที่มาสั่งออนไลน์ไปกินเองด้วย รวมๆ ปัจจุบัน ยอดขายต่อวันก็ประมาณ พันกล่องค่ะ โควิดถือเป็นช่วงขาขึ้นเลย เพราะคนชอบมาซื้อไปกินที่บ้านด้วย” คุณอ้อม เล่า

คุณอ้อม ยังเล่าทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า ในอนาคตก็อาจจะมีการทำแฟรนไชส์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอศึกษาและดูลู่ทางก่อนที่จะทำ เพราะมะพร้าวเป็นวัตถุดิบสำคัญ หากเกิดเหตุการณ์แบบที่ทำขายตอนแรกๆ อย่าง มะพร้าวขาดตลาด คุณอ้อมก็กลัวว่าจะหาวัตถุดิบมาส่งให้ไม่ได้ เลยขอทำขายเองก่อน

สอบถามเพิ่มเติม เฟซบุ๊ก ขนมบะบิ่นกัส-โต้

เผยแพร่เมื่อ วันที่ 20 เมษายน 2565