เตียง้วนเฮียง เดลีซ อาณาจักรหมูแปรรูป ต้นตำรับ หมูแท่งทอง ขายมานานกว่า 70 ปี โควิด-19 มา ยังอยู่ได้

ว่าด้วยเรื่องของ หมูหย็อง หมูแผ่น ถือว่าเป็นสินค้าที่มีขายได้ทั่วไปในตลาด แต่หากจะนึกถึงเจ้าที่โดดเด่นๆ สักเจ้า จะไม่นึกถึง เตียง้วนเฮียง เดลีซ ก็คงไม่ได้ เพราะเจ้านี้เขาเป็นที่เลื่องชื่อลือชาเรื่องความอร่อย แถมยังขายมานานกว่า 70 ปีแล้ว

คุณกิ๊ฟ-รินทร์ธอร เดโชพัฒน์สรณ์ เจ้าของร้านรุ่นที่ 3 เล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า แรกเริ่มเดิมทีร้านมีผู้ก่อตั้งคือพี่ชายของอาม่า (คุณยาย) และมีการใช้ชื่อว่า เตียง้วนเฮียง อาม่าก็ได้ช่วยงานพี่ชายมาเรื่อยๆ โดยการนำหมูหย็องไปขายที่ตลาดบางรัก ด้วยความที่หมูหย็องเป็นสินค้าโฮมเมดที่มีคุณภาพและรสชาติอร่อยถูกปากของหลายๆ คน จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ของเตียง้วนเฮียง กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น

จากนั้นเมื่ออาม่าเข้ามารับช่วงต่อร้าน และได้ช่วยกันขายกับคุณแม่ของคุณกิ๊ฟ ร้านเริ่มหันมาเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนต่างชาติ จึงได้มีโอกาสได้ขายลูกค้ากลุ่มที่เป็นนักท่องเที่ยวทัวร์ เพราะร้านตั้งอยู่ใกล้ๆ กับโรงแรม ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาพักอาศัยกันเยอะ

“ร้านเราแทบจะมีหมูแปรรูปทุกอย่างขายเลยค่ะ โดยที่เป็นของขึ้นชื่อของเราคือ หมูหย็อง กับ หมูแผ่น ซึ่งสินค้าทุกตัวเราใช้เนื้อหมูส่วนสะโพกทำทั้งนั้นเลย เพราะเป็นส่วนที่อร่อยและแพงที่สุด สูตรหมูต่างๆ ก็ยังคงเดิมมาตั้งแต่เปิดร้าน และด้วยความที่เราทำสดใหม่ทุกวัน มันจึงกลายเป็นจุดแข็งเรื่องความอร่อยสดใหม่ที่ทำให้เราอยู่มาได้นานกว่า 70 ปีแล้ว”

“พอมารุ่นกิ๊ฟ ก็มีการพัฒนาภาพลักษณ์ของร้านให้ทันสมัยมากขึ้น พัฒนาระบบของร้านและสินค้าให้ดีกว่าเดิมมากขึ้น มีการจัดเป็นกิ๊ฟต์เซตขาย เพื่อเพิ่มมูลค่าให้หมูแปรรูปธรรมดาๆ ให้เป็นของฝากได้ เพราะสินค้าเราสามารถเก็บได้นานเป็นเดือน ทำให้สามารถมาซื้อเพื่อมอบให้กันได้หลากหลายโอกาส ไม่ได้จำกัดแค่ต้องซื้อกลับไปกินกับข้าวต้มที่บ้านเท่านั้น โควิดมันก็ได้รับผลกระทบกันหมด แต่เรายังอยู่ได้ เพราะเราเป็นของกินที่เก็บกินได้นานและยังมีคนมารับสินค้าไปขายต่อด้วย” คุณกิ๊ฟ เล่า

นอกจาก หมูหย็อง กับ หมูแผ่น ที่เป็นของขึ้นชื่อของร้านแล้ว คุณกิ๊ฟ เล่าว่า เตียง้วนเฮียง เดลีซ ยังถือเป็นเจ้าแรกที่มีการทำ หมูแท่งทอง ออกจำหน่ายด้วย และยังมีหมูแปรรูปอีกกว่า 10 อย่างให้เลือกซื้อ โดยราคาเฉลี่ยของสินค้าเริ่มต้นที่ 60 บาทต่อขีด

สนใจสั่งซื้อได้ที่ เพจ Tia Nguan Hieng Delice

เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2564