ขนม“ข้าวกรอบสยาม” ธุรกิจเด็กวัยรุ่น เริ่มขายจากตลาดอาหารเจ สู่ยอดขายเดือนละล้าน

ใครก็อยากเป็นนายตัวเอง อยากมีธุรกิจ หรือกิจการที่เป็นของตนเองทั้งนั้น และสามารถดูแลจนกระทั่งประสบความสำเร็จ ดั่งที่คาดหวังเอาไว้ทั้งสิ้น แต่การจะก้าวเข้าไปสู่การทำธุรกิจ และสามารถฟูมฟักให้สามารถเป็นรูปเป็นร่างได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นักธุรกิจหลายท่านทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ต่างก็มีแนวคิดในการทำธุรกิจ และความมุ่งมั่นในวิธีการที่แตกต่างกันในการทำธุรกิจของตนให้สำเร็จ แต่จุดมุ่งหมายก็ยังคงเป็นความสำเร็จ แต่หนทางจะก้าวไปสู่ความสำเร็จ ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนภาพฝันเสียทีเดียว จำเป็นต้องอาศัยความพยายามและความอดทนหลายอย่าง

ได้ฟังเรื่องราวของนักธุรกิจวัยรุ่น วัย 16 ปี เด็กหนุ่มที่มีความตั้งใจจริง อยากทำธุรกิจให้เป็นรูปเป็นร่าง และประสบความสำเร็จ ด้วยความทุ่มเท และความสามารถของตนเอง โดยมีแนวคิดอยากผลิตอาหารว่าง ซึ่งเป็นพื้นฐานและมีความคล้ายคลึงกับกระยาสารทของไทย แต่ต้องมีความนุ่ม กรอบ และไม่เหนียวอย่างกระยาสารท

 13754605_1741558216127674_1136732785291713592_n

ธุรกิจเด็กหนุ่มวัย 16

ข้าวกรอบสยาม

คุณบิ๊ก ผุยมาตย์ เจ้าของธุรกิจข้าวกรอบสยาม ซึ่งเป็นขนมแปรรูปมาจากข้าว วัย 16 ปี เริ่มต้นเล่าให้ฟังว่า  “ข้าวกรอบสยาม เป็นการแปรรูป นำเอาข้าวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไทย มาแปรรูปใหม่ให้กลายเป็นขนมกรุบกรอบ เคี้ยวสนุก ทานง่าย และทันสมัยมากขึ้น

เท้าความย้อนไปถึงการเริ่มต้นทำธุรกิจ ตอนนั้นอยู่ในช่วงวัย 11-12 ปี เป็นช่วงที่ที่บ้านส่งไปเรียนต่อที่เมืองจีน เนื่องจากอยากให้ได้ภาษา ตอนนั้นที่ไปเรียนเมืองจีน ตัวเราเองก็ไม่ได้ชอบมาก ผมมีความคิดเรื่องอยากทำธุรกิจอยู่ด้วย ประกอบกับช่วงอยู่ที่เมืองจีน แม่ชอบส่งกระยาสารทของไทยมาให้กิน ซึ่งตอนนั้นจัดฟันอยู่ และกระยาสารทก็กินยาก เนื่องจากมีความเหนียวหนืดและแข็ง เลยมานั่งคิดสงสัยว่าทำไมจะทำให้กินง่ายบ้างไม่ได้

p109029000ด้วยความชอบ และเห็นคุณพ่อคุณแม่ทำธุรกิจมาก่อน ซึ่งเป็นธุรกิจนำเข้า-ส่งออก พวกของตกแต่งโรงแรมต่างๆ  ตัวเราเองก็อยากทำธุรกิจบ้าง จึงปรึกษากับที่บ้านว่าอยากทำธุรกิจ โดยความโชคดีอย่างหนึ่งคือ ผมมีเพื่อนที่รู้จักกัน บ้านเขาเป็นคนผลิตเครื่องจักร ที่สามารถสั่งทำอุปกรณ์ใช้ในการผลิตได้ จึงมีไอเดียว่า อยากมีแนวคิดอยากพัฒนาอาหาร อย่างกระยาสารท จะกินง่ายๆ ไม่เหนียว

แต่การทำมันไม่ง่าย ทดลองเป็นเวลานานมาก เริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 500,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่พ่อแม่ให้ใช้ในการเรียน ตอนนั้น ผมตัดสินใจเลิกเรียน พูดคุยกับครอบครัว แล้วมาเริ่มลุยธุรกิจอย่างจริงจัง เพราะว่าเป็นสิ่งที่อยากทำมากๆ”

วางจุดขาย เป็นอาหารเจ

ขายตามร้านค้า ตลาดนัด

คุณบิ๊กวางจุดขายให้กับ “ข้าวกรอบสยาม” เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพและอยู่ในกลุ่มอาหารเจ นอกจากนี้ยังได้รับเครื่องหมายฮาลาล โดยทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อประมาณปี 2557 โดยจำหน่ายผ่านหน้าร้านขายขนม ของฝาก ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวที่เปิดมาก่อนอยู่แล้ว ผลตอบรับของผลิตภัณฑ์ขายดีมาก มียอดขายถึงหลักแสนบาทต่อเดือน อีกทั้งในปัจจุบันที่เมืองไทยก็ได้รับการรับรองเครื่องหมาย อย. ทั้งตัวสินค้าเองและโรงงานด้วย

นอกจากนี้ยังทำการกระจายสินค้าไปยังร้านค้าที่ขายของฝาก ขายขนมทั่วๆ ไป ภายในรัฐดาโกต้าอีกด้วย ส่วนกำลังการผลิตสำหรับสาขาที่มาเลเซียประมาณ 1,000 กล่อง ต่อวัน หลังจากนั้นจึงขยายฐานการผลิตและนำธุรกิจเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย ซึ่งเปิดตลาดในประเทศไทยมากว่า 3 ปีแล้ว ด้วยการกระจายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย ตามร้านขายของฝาก ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ร้านอาหารเกาหลี ออกบู๊ธ ขายตามตลาดนัด คุณบิ๊ก เล่า

15284022_1810447632572065_6971121774950620786_n

ทั้งยังบอกอีกว่า “ข้าวกรอบสยามของผมเป็นสูตรที่ผมคิดขึ้นมาเอง โดยปรับสูตร รับรองได้ว่าเราเป็นเจ้าแรก เจ้าเดียวในเมืองไทย ถึงแม้ว่าสินค้าของผมจะเป็นสินค้าน้องใหม่ในตลาด และตัวผมเองก็ยังอายุน้อยในการหันมาจับธุรกิจ แต่ผมมองว่าสินค้าของผมสามารถขายได้ และเด็กรุ่นใหม่ก็สามารถทำธุรกิจได้ หากตั้งใจจริงและกล้าที่จะทำ ทุกวันนี้ผมสนุกทั้งในห้องเรียนและโลกกว้างจากการเป็นนักธุรกิจ ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ผมก็มีความสุขมาก จากการที่สามารถหาเงินได้ด้วยตัวเอง”

นอกจากจะเปิดตลาดออฟไลน์แล้ว ยังหันมาเปิดตลาดออนไลน์ด้วย หากมีออร์เดอร์แต่การออกมาเจอลูกค้าที่ตลาด จะขายได้มากกว่า และกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาสั่งก็ต่างกันด้วย โดยคุณบิ๊ก บอกว่า ลูกค้ากลุ่มออนไลน์ มักเป็นวัยรุ่นที่อยากลองของใหม่ ส่วนลูกค้าที่มาจากทางออฟไลน์ และเวลาออกงานมีหลากหลายวัย

ปัจจุบัน กำลังการผลิตต่อเดือน เฉลี่ยที่ 2,000 ถุง ซึ่งมีทีมในการผลิตทั้งหมด 3 ทีม ทีมละ 4 คน รายได้ในปัจจุบันเดือนละไม่ต่ำกว่า 600,000 บาท บางเดือนที่ขายได้ดี หรือช่วงเทศกาล รายได้ก็เหยียบขึ้นไปถึงหลักล้านบาททีเดียวp109031111

คุณบิ๊ก ยังบอกด้วยว่า “ในอนาคตก็มีแผนว่า หากสามารถทำได้ ก็อยากจะขยายการขาย การตลาดเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าด้วย”

สำหรับใครที่อยากลอง หรือสนใจธุรกิจขนมทานเล่นอย่าง “ข้าวกรอบสยาม” ก็สามารถเข้าไปได้ที่ร้าน เลขที่ 67/782 หมู่บ้านชวนชื่นบางเขน ซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 9-1-12 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ  10210 โทรศัพท์ (085) 565-1020, (081) 832-5151 หรือทาง Facebook : ข้าวกรอบสยาม siamcrispyrice