ไฟลต์บินหาย เงินหด หยิบ ขนมเทียนสูตรโบราณ ทำขายแก้วิกฤต ยอดปังเตรียมเปิดสอน

เป็นเวลาปีกว่าแล้ว ที่ธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจสายการบิน ที่ยังไม่สามารถกลับมาดำเนินกิจการได้เต็มร้อย ทำให้เหล่าสจ๊วตและลูกเรือ ต้องดิ้นรนหาอาชีพเสริมทำกันให้ควั่ก คุณเอี๊ยบ-พีรยา วิจักขณสพันธุ์ และ คุณเบส-กฤตย์กุศล กุศลส่ง คู่รักที่ทำงานเป็นลูกเรือและแอร์โฮสเตสของสายการบิน ให้สัมภาษณ์กับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ว่า

เนื่องจากทั้งคู่ทำงานในสายการบิน โดยคุณเบสทำงานเป็นลูกเรือสายการบินสีม่วง ส่วนคุณเอี๊ยบนั้นทำงานเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินโคเรียนแอร์ ทำอยู่ได้ 5 ปี ก็ลาออกมาทำธุรกิจร้านอาหารตามความตั้งใจกับคุณเบสอย่างเต็มตัว

“จริงๆ ตอนทำงานประจำอยู่ เราสองคนก็เปิดร้านอาหารควบคู่ไปด้วย เพราะเราอยากมีร้านเป็นของตัวเองกันอยู่แล้ว ก็เปิดร้านชื่อ ล้านนา ออริจิน เป็นร้านอาหารเหนือกึ่งอิตาเลียน ตอนนี้ก็เข้าปีที่ 3 แล้วค่ะ พอทำงานเข้าปีที่ 5 เอี๊ยบก็ลาออกด้วยอะไรหลายๆ อย่างทำให้รู้สึกว่า มาทำร้านดีกว่า ส่วนคุณเบสเขาก็ยังเป็นลูกเรืออยู่ มีเข้ามาช่วยเรื่องอาหารบ้างเพราะเขาเชี่ยวชาญกว่าเอี๊ยบ”

“ทีนี้พอมีโควิด คุณเบสเขาก็ไม่มีไฟลต์บิน เลยได้โอกาสมาโฟกัสเรื่องร้านอาหารกันเต็มที่ แต่มันก็ช่วงโควิดใช่ไหมคะ ก็มีมาตรการต่างๆ ออกมามากมาย เราก็นั่งคิดกันว่า ร้านอาหารมันไม่สามารถเปิดได้นาน นั่งทานไม่ได้ เราจะขายอะไรให้ลูกค้าเก็บไว้ทานนานๆ ได้ดี” คุณเอี๊ยบ เล่า

ด้วยความที่สมัยเด็ก คุณเอี๊ยบมักไปวัดกับคุณแม่และคุณยายบ่อยๆ จึงเห็นว่ามักมี จ็อก หรือ ขนมเทียน ที่เป็นอาหารที่คุณยายถนัด ไปทำบุญที่วัดเสมอๆ และเธอก็มีโอกาสได้เป็นลูกมือช่วยคุณยายและคุณแม่ทำบ่อยๆ จึงเป็นไอเดียว่า น่าจะนำมาเป็นอาหารชูโรงขายในช่วงโควิดของร้าน

“ตอนเด็กๆ เอี๊ยบเป็นลูกมือช่วยคุณแม่กับคุณยายทำขนมเทียนบ่อยๆ ค่ะ ที่ทำประจำก็เป็นไส้เค็ม ซึ่งสูตรของคุณยายจะเป็นสูตรโบราณกว่า 100 ปี ที่ท่านเองก็ได้รับถ่ายทอดมาจากคุณทวดอีกทีหนึ่งเหมือนกัน ก็คิดว่าเอามาทำขายช่วงนี้ดูดีกว่า เพราะขนมเทียน มักหากินได้เฉพาะช่วงเทศกาล งานบุญอะไรแบบนี้ เลยอยากให้คนที่รู้สึกอยากกินเขาได้กินโดยไม่ต้องรอเทศกาล และพอได้ชิมก็จะเห็นว่ามันต่างจากที่มีขายทั่วไปจริงๆ” คุณเอี๊ยบ เล่า

โดยขนมเทียนสูตรโบราณของคุณเอี๊ยบนั้น ลงมือทำเองทุกขั้นตอนตั้งแต่นำถั่วมานึ่งทำไส้เอง อีกทั้งมีรสชาติจัดจ้าน หอมเครื่องเทศ ไส้แน่น และที่สำคัญ มีการใช้ชิวคักในการผสมเนื้อแป้ง ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่แตกต่างจากขนมเทียนเจ้าอื่นๆ นั่นเอง

“ช่วงโควิดเราก็บาดเจ็บมาเยอะ ทั้งงานหลัก ร้านอาหาร ก็มาทำขนมเทียนขายสู้โควิด แรกๆ ก็ขายให้คนรู้จักก่อน อย่างเพื่อนๆ ในสนามบิน ทีนี้พอเขาได้กินแล้วบอกว่าอร่อยก็เกิดการบอกต่อ ก็เปลี่ยนมาเป็นเปิดพรีออร์เดอร์ชิมลางก่อน พอโควิดรอบ 2 เราก็ทำมาเรื่อยๆ เพราะเริ่มเป็นที่รู้จักแล้ว จนรอบ 3 นี่ก็มีออร์เดอร์เข้ามาเยอะมาก ด้วยความที่เราทำกันเอง ไม่ใช่ร้านใหญ่โต ก็ทำกันได้เยอะสุด 5 พันลูก หรือประมาณ 500 กล่องต่อวัน พอช่วงเทศกาลเราจะได้ออร์เดอร์เยอะมาก” คุณเบส เล่าเสริม

คุณเบส กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาและคุณเอี๊ยบตั้งใจจะทำให้ขนมเทียนเป็นที่นิยมให้เหมือนขนมไดฟุกุ เพราะเนื้อเท็กซ์เจอร์ก็เหมือนกัน อีกทั้งมีแพลนทำขายส่งทั่วประเทศ เพราะตอนนี้ก็มีคนเข้ามาซื้อไปขายต่อ อีกทั้งทั้งคู่คิดกันอยู่ว่า จะต่อยอดเปิดเป็นคอร์สสอนให้คนไปสร้างอาชีพเช่นกัน

“ทีไดฟุกุยังบูมได้เลย ขนมเทียนเราก็ต้องทำได้สิ ถ้าเปิดประเทศมาและสถานการณ์ดีขึ้น ต่างชาติน่าจะอะเมซิ่งกับไดฟุกุเมืองไทย แล้วเราก็มีคิดกันอยู่ค่ะว่า จะเปิดคอร์สสอนให้คนไปสร้างอาชีพช่วงโควิดยังไงดี” คุณเอี๊ยบ ทิ้งท้าย

ขนมเทียนโบราณของคุณเอี๊ยบและคุณเบส 1 กล่อง มี 10 ลูก จำหน่ายในราคา 150 บาท สอบถามสั่งซื้อได้ที่ เฟซบุ๊ก Lanna Origin

หมายเหตุ : แก้ไขครั้งแรกเมื่อ 7 กรกฎาคม 2564