2 เพื่อนซี้ ขาย ซ่าหริ่ม เป็นจ๊อบเสริมช่วงโควิด เมนูเดียว ขายดิบขายดี เปิดออร์เดอร์ที เต็มทุกรอบ

ช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้การใช้ชีวิตต่างๆ ของคนเราเปลี่ยนไป โดยเฉพาะในด้านการทำงาน จากที่ทำงานกันเพียง 1 หรือ 2 อาชีพ แทบทุกคนจะมีอาชีพเสริมเพิ่มเติมกันมาเป็นอย่างที่ 3, 4, 5 เช่นเดียวกับ คุณโอกิ-ธิดา กิจเลิศบรรจง และ คุณเจ-จุติรัตน์ บุนนาค สองสาวเพื่อนซี้ ที่หันมาทำ อาชีพเสริม โดยการเป็น แม่ค้าขนมซ่าหริ่ม ที่ทำขายเพียงเมนูเดียว ก็ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

โดยคุณโอกิ และ คุณเจ เล่าว่า ทั้งคู่รู้จักและสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเรียนจบก็แยกย้ายกันไปทำธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยคุณโอกิ เปิดบริษัท PAINTO (เพ้นท์โตะ) บริษัทนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างให้ร้านค้าชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่วนคุณเจเปิดบริษัทจำหน่วยผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและผิวสำหรับเด็ก แบรนด์ อ่อนโยน เบบี้ แคร์

แต่ด้วยช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้ทั้งคู่พอจะมีเวลาว่าง จึงใช้โอกาสนี้ชวนกันหาอะไรทำเพิ่มเติม โดยคุณเจนึกขึ้นมาได้ว่า คุณพ่อของเธอเคยชอบรับประทานซ่าหริ่มโบราณเจ้าประจำใกล้บ้าน ซึ่งได้เลิกขายไปแล้ว ทำให้หาเจ้าอื่นที่รสชาติถูกใจแบบเจ้าเก่าไม่ได้อีกเลย

คุณเจจึงมาชวนคุณโอกิไปเรียนพื้นฐานการทำขนมไทย โดยเลือกครูผู้สอนที่มีประสบการณ์การทำขนมไทยสูตรชาววัง ทั้งคู่ได้เรียนรู้พื้นฐานการทำซ่าหริ่มสูตรโบราณอย่างละเอียด จนนำความรู้ที่ได้มาค่อยๆ ปรับสูตรจนลงตัว และได้ไปขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากเจ้าของร้านซ่าหริ่มที่เลิกขายไปแล้วเจ้านั้น และนำความรู้ทั้งหมดที่ได้รับนี้มาช่วยกันพัฒนาเป็นสูตรของพวกเธอเอง จากนั้นจึงเริ่มลองขายจริง หากนับเวลาจากเริ่มขายจริงจนถึงตอนนี้คือประมาณ 8 เดือนแล้ว

“โอกับเจทำแค่ซ่าหริ่มอย่างเดียวเพราะอยากทำของที่เราชอบกันจริงๆ เราปรับสูตรกันอยู่หลายต่อหลายครั้ง ใช้เวลาหลายเดือน จนในที่สุดก็ได้สูตรการทำของเราเองที่มั่นใจว่าอร่อยไม่แพ้ใคร ส่วนมากลูกค้าจะมาจากปากต่อปาก มีลูกค้าเยอะเลยที่บอกว่า ซ่าหริ่มของเราอร่อยที่สุดที่เคยทานมา เขาก็จะมาซื้อซ้ำ ซื้อประจำ กันค่อนข้างเยอะ ณ ตอนนี้ ถือว่าซ่าหริ่มเส้นไหมเป็นอาชีพเสริมที่ดีอาชีพหนึ่ง ซึ่งเราก็วางแผนกันไว้ ว่าจะทำเป็นอาชีพหลักเหมือนกันค่ะ” สองเพื่อนซี้ ช่วยกันเล่า

เส้นซ่าหริ่มของร้าน ซาหริ่มเส้นไหม มีสีสันสดใส ที่สำคัญ เส้นไม่กระด้าง ไม่เละ นุ่มละมุนพอดี มะพร้าวกะทิทางร้านก็เลือกใช้จากอัมพวา ซึ่งมีเนื้อหนา ขาว ฟู นำมาเชื่อมจนได้มะพร้าวกะทิ เคี้ยวหนึบ หอม มัน ชิ้นโตเต็มคำ ทานกับเส้นซ่าหริ่มนุ่มๆ เข้ากั๊นเข้ากัน

และสิ่งที่คุณโอกิและคุณเจภูมิใจนำเสนอ คือน้ำกะทิ ที่ทั้งคู่เลือกใช้มะพร้าวแก่จัด เนื้อแข็ง หนา คั้นออกมาเป็นหัวกะทิล้วนๆ จากนั้นนำหัวกะทินี้ไปอบควันเทียนคุณภาพสูง จนออกมาเป็นน้ำกะทิที่เข้มข้น รสชาติหวาน มัน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร

“ณ ตอนนี้ ขั้นตอนการทำทั้งหมดยังเป็นการทำมือเป็นหลัก ซึ่งทุกขั้นตอนมีรายละเอียดที่ต้องทำอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ตรงตามมาตรฐานและรสชาติที่เราวางไว้ ทำให้ไม่สามารถรับออร์เดอร์ได้เยอะๆ เต็มที่รับได้ 200 ชุดต่อรอบเท่านั้น เดือนหนึ่งเปิดรับ 4-5 รอบ ซึ่งตั้งแต่เปิดมาก็จะเต็มทุกรอบเลยค่ะ”

“ทุกรอบเราทำสดๆ ในเช้าวันนั้นและแพ็กส่งลูกค้าเลยค่ะ ทุกส่วนประกอบของ ซาหริ่มเส้นไหม ไม่มีการใส่สารกันเสีย เส้นซ่าหริ่มและน้ำกะทิเก็บได้ราว 3-5 วัน แต่มะพร้าวกะทิได้ราว 3 วัน ซึ่งทั้งหมดต้องเก็บในตู้เย็น ถ้าตู้เย็นมีความเย็นมากก็จะเก็บได้นานขึ้นค่ะ แต่ความอร่อยและสดใหม่จะลดลงไปตามเวลา ทางเราจะแนะนำลูกค้าให้ทานในวันที่ได้รับเลย เพราะอย่างที่แจ้ง เราทำเสร็จใหม่ๆ แล้วแพ็กส่งเลย ทานในวันที่ได้รับจะหอมและอร่อยที่สุดค่ะ” สองสาว ว่ามาอย่างนั้น

นอกจากนั้น ทั้งคู่ยังเผยอีกว่า มีลูกค้าที่เคยทานซ่าหริ่มแล้วถูกใจ จึงสั่งนอกรอบเพื่อใช้ในโอกาสสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การจัดเลี้ยง งานทำบุญต่างๆ เลี้ยงพระ ขึ้นบ้านใหม่ จัดเป็นของแจกให้ลูกค้า ฯลฯ ซึ่งขั้นต่ำของการสั่งนอกรอบออร์เดอร์จะอยู่ที่ 40 ชุดขึ้นไป

ราคา ซาหริ่มเส้นไหม อยู่ที่ชุดละ 50 บาท โดยใน 1 ชุดจะมีเส้นซ่าหริ่ม 3 สี คือ สีชมพู, สีม่วง และสีเหลือง มะพร้าวกะทิ และน้ำกะทิอบควันเทียนอย่างดี ซึ่งเป็นสูตรของทางร้าน อีกทั้งยังมีโปรโมชั่น สั่งซ่าหริ่มผ่านทาง Line Official จะได้สะสมแต้ม เมื่อครบ 30 ชุด ภายใน 3 เดือน จะได้รับซ่าหริ่มฟรี 1 ชุด นอกจากนี้ ทางร้านยังมีมะพร้าวกะทิจำหน่ายด้วย ราคาอยู่ที่ชุดละ 60 บาท โดยจะมีมะพร้าวกะทิและน้ำกะทิอบควันเทียนเช่นเดียวกัน และมีจำหน่ายน้ำกะทิเพิ่มต่างหากถ้วยละ 5 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ซาหริ่มเส้นไหม หรือ ไลน์ไอดี @salimsenmai และ โทร. (081) 689-1866

เผยแพร่ครั้งแรก วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ.2564