ท้อบ้าง แต่ไม่เคยถอย! สาว 26 สู้ชีวิต ตำน้ำพริก หาเงินเลี้ยงพ่อตาบอด

ท้อบ้าง แต่ไม่เคยถอย! สาว 26 สู้ชีวิต ตำน้ำพริก หาเงินเลี้ยงพ่อตาบอด

เหนื่อยแค่ไหนก็สู้! สาว 26 สู้ชีวิต หาเงินเลี้ยงพ่อตาบอด ทำทุกอย่างทั้ง ก่อสร้าง เด็กปั๊ม ฯลฯ เจอโควิดซ้ำ หาทางทำกินใหม่ มาตำน้ำพริกขาย เลี้ยง 4 ชีวิต

คุณทิพ-โสรญา อำไพจิต วัย 26 ปี เล่าให้ฟังว่า สู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก อาศัยอยู่กับพ่อที่จังหวัดเชียงราย ในห้องเช่าเดือนละพันบาท จนขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พ่อล้มป่วยกะทันหัน ตาบอดสนิทสองข้าง จึงต้องลาออกจากโรงเรียน เพื่อมาดูแลพ่อ

คุณพ่อและลูกๆ ของคุณทิพ
คุณพ่อและลูกๆ ของคุณทิพ

“เริ่มดูแลพ่อตั้งแต่อายุ 14 ปี โชคดีว่ายังอ่านออกเขียนได้ ทำงานทุกอย่าง ทั้งก่อสร้าง เป็นเด็กปั๊ม รับจ้างทั่วไป สมัยนั้นได้ค่าจ้างวันละ 100 บาท มากสุด 150 บาท และได้เงินเบี้ยเลี้ยงผู้พิการ นำมาจ่ายค่าเช่าห้องเดือนละ 1,000 บาท ซื้อข้าวสารอาหารไว้กิน อดมื้อกินมื้อก็ดูแลกันมา”

คุณทิพกับคุณพ่อ
คุณทิพกับคุณพ่อ

ต่อมา คุณทิพได้มีครอบครัว มีลูกสาวหนึ่งคน กระทั่งแยกทางกับสามีคนแรก แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อ ต้องทำงานหาเงินจึงให้พ่อช่วยเลี้ยงลูก มีบ้างที่ติดขัดก็เรียกคนข้างห้องมาช่วยดู

“ลูกผู้หญิงโตขึ้น เลยมามีครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเคย มีลูกชายหนึ่งคน มาแยกทางกันตอนลูกอายุ 3 ขวบ จึงไม่ลำบากเหมือนลูกคนแรกที่แยกทางกันตอนลูกอยู่ในท้อง”

น้ำพริก
น้ำพริก

ตำน้ำพริกขาย เลี้ยงครอบครัว

กระทั่งต้นปีมาเจอโควิด พ่อตัดสินใจขอกลับมาอยู่บ้านเกิด จังหวัดนครปฐม เช่าห้องอยู่เดือนละพันบาท เด็กๆ ต้องย้ายโรงเรียน ส่วนตนต้องหางานทำ ไปทำงานประจำ ก็ไม่มีคนดูแลพ่อ พ่อต้องอดข้าวตอนเที่ยง เพราะมีเวลาพักแค่นั้น จึงคิดหาอาชีพ

คุณทิพ นำเงินติดตัว 50 บาท ไปซื้อพริก ซื้อกระเทียม มะขามเปียก มาตำน้ำพริก 3 กระปุก ให้ลูกสาวปั่นจักรยานเร่ขายคนตามหมู่บ้าน คนเห็นก็ช่วยซื้อ เพราะเห็นความเป็นอยู่ของครอบครัว

“ตอนนั้นขายกระปุกละ 50 บาท ได้เงินมา 150 บาท กำไรนิดหน่อยยังอยู่ได้ อย่างน้อยได้อยู่บ้านดูแลพ่อ ดูแลลูก ไม่ให้อดข้าว หลังจากนั้นก็ตำแล้วให้ลูกสาวไปขาย มีน้ำพริกเผา น้ำพริกแมงดา น้ำพริกปลาร้า และยังมีกระถางต้นไม้จากยางรถยนต์ขายด้วย”

น้ำพริก
น้ำพริก

ด้านชีวิตประจำวัน ทุกวันนี้พ่อยังเป็นคนดูแลหลานๆ และหลานเองก็ดูแลพ่อ คอยจูงมือเดินนำทาง หยิบจับของต่างๆ และหาข้าวให้กิน

“พ่อจะช่วยแต่งตัวเด็กๆ เราจะไปส่งลูกที่โรงเรียน กลับมาช่วยพ่อทำกระถางต้นไม้บ้าง เตรียมวัตถุดิบไว้ตำน้ำพริกขายบ้าง บ่ายๆ ไปส่งตามออร์เดอร์ที่ไปรษณีย์ เพราะมีลูกค้าสั่งออนไลน์ บ่ายสามไปรับลูกกลับจากโรงเรียน มาบ้านก็ทำกับข้าวกินกันปกติ” คุณทิพ เล่าชีวิตประจำวัน

“กระถางต้นไม้ขายได้ไม่เยอะ เพราะค่าขนส่งแพง ขายใบละ 60 กว่าบาท แต่ค่าส่งเป็นหลักร้อยบาท แต่น้ำพริกขายได้เรื่อยๆ ส่งสะดวก ตำครกต่อครกตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่ง ตอนนี้มีน้ำพริกเผา น้ำพริกแมงดา ปลาร้าทอดทรงเครื่อง”

น้ำพริก
น้ำพริก

คุณทิพ บอกต่อว่า หลังได้ออกรายการดัง มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุน ได้เงินมาซื้อกับข้าว ยังประหยัดเหมือนเมื่อก่อน

“ที่ผ่านมาทั้งท้อทั้งเหนื่อย ต้องดูแลพ่อ และลูกๆ แต่เรายังไม่ตายต้องสู้ ทุกวันนี้ถ้าขาดเราไป คนข้างหลังจะอยู่ยังไง ทำต่อไป ทุกคนจะได้มีกิน” คุณทิพ ทิ้งท้าย

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก เกาเหลา หมูตุ๋น โทรศัพท์ 061-849-9609

เผยแพร่ครั้งแรก วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2564