ดเวนจังจิเก แกงเต้าเจี้ยวเกาหลี อาหารประจำบ้าน กินได้ไม่มีเบื่อ

อันยองฮาเซโย คราวนี้นันทนาอาจุมมาจะพาไปทำอาหารประจำบ้านชาวเกาหลี ที่กินกันได้ทุกวัน  นอกจาก “กิมจิจิเก” 김치찌개 หรือแกงกิมจิแล้วก็มี “ดเวนจังจิเก” 된장찌개 หรือแกงเต้าเจี้ยวเกาหลีนี่แหละค่ะ ที่เป็นอาหารประจำบ้านกินกันได้ไม่มีเบื่อ เพราะรสชาติและความหอมของเต้าเจี้ยวกระตุ้นต่อมอยากอาหารได้ดีนักแล 

ที่เรียกว่าแกงนั้นอาจฟังดูแปร่งๆ น่าจะเป็นซุปมากกว่า แต่อาหารเกาหลียังมีซุปเต้าเจี้ยวอีกแบบเป็นเวอร์ชั่นที่น้ำแกงใสกว่าส่วนผสมน้อยกว่า และทำง่ายกว่าที่ชื่อว่า “ดเวนจังกุก” 된장국 โดยจะใส่ผักเป็นหลัก เช่น ผักกาดขาว ผักปวยเล้ง หรือหัวไชเท้า เป็นต้น

ดเวนจังจิเก มีเต้าเจี้ยวหมักที่เรียกว่า “ดเวนจัง” 된장 เป็นตัวชูโรง ซึ่งคนเกาหลีรู้จักทำเต้าเจี้ยวกันมาตั้งแต่ยุคสามอาณาจักร ลักษณะเป็นเต้าเจี้ยวหมักข้นๆ  สมัยก่อนก็หมักใส่ไหดินเผา ส่วนสมัยนี้จะบรรจุใส่กล่องพลาสติกสีน้ำตาล หาซื้อได้ในซูเปอร์มาร์เก็ต

ส่วนผสมของแกงเต้าเจี้ยวนี้มีผัก เต้าหู้ และเนื้อสัตว์ โดยมีผักประจำหม้อ ได้แก่ ซูกินี มันฝรั่ง เห็ด หัวหอม ต้นหอมเดี่ยว (ต้นหอมญี่ปุ่น) และพริกชี้ฟ้าเขียว  ส่วนเนื้อสัตว์นั้นจะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู ก็ได้ แต่จะใส่นิดเดียวไม่เน้น หรือจะใส่อาหารทะเลก็นิยม เช่น หอยตลับ และกุ้ง ซึ่งเข้ากันได้ดีมาก วันนี้ฉันใส่หอยลายกับกุ้ง

วิธีทำ ขั้นแรกก็ต้มน้ำสต๊อกก่อนเพื่อความอร่อย ไม่ว่าจะซุปจะแกงอะไรก็ทำเหมือนกัน ฉันใช้ปลาแอนโชวี่แห้ง ซึ่งก็คือปลากะตักหรือปลาจิ้งจ้าง นั่นเอง เด็ดหัวกับพุงออก ใส่หัวไชเท้าหั่นเป็นแว่น และเห็ดหอมแห้ง อันที่จริงจะต้องใส่สาหร่ายดาชิมา 다시마 ด้วย แต่ที่บ้านหมดก็เลยข้ามไป เพราะแค่สิ่งที่ใส่ก็แน่ใจได้ว่าน้ำซุปหวานหอมตามธรรมชาติแล้ว แต่ถ้ามีสาหร่ายก็จะยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก  นำส่วนผสมเหล่านั้นใส่หม้อเติมน้ำกะพอแกงหนึ่งชาม ซึ่งน้ำจะลดลงเหลือแค่ครึ่งหนึ่งหลังจากต้มไปประมาณ 15-20 นาที แล้วกรองเอาแต่น้ำ

 

เห็ดหอมนั้นเอามาหั่นเป็นชิ้นเล็กแล้วใส่กลับลงหม้อ ใส่ขิงสับ กระเทียมสับ และหัวหอมซอยลงไป  ตักเต้าเจี้ยวใส่ลงไปละลาย ตามด้วยผักต่างๆ ที่เตรียมไว้และเต้าหู้ใส่ลงไป ต้มให้เดือดและผักสุกดีก็ยกขึ้นเสิร์ฟ พร้อมข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่ามื้อนี้คุณจะกินข้าวได้มากเป็นพิเศษ