ขายได้วันละเกือบ 1 พันห่อ กะเพรายี่เดียว ร้านข้าวตลาดนัด ของพ่อค้าหนุ่มใจหล่อ

เมนูข้าวราดแกงธรรมดาๆ อย่าง ผัดกะเพรา แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติของคนไทยเมนูหนึ่ง ไม่ว่าร้านข้าวจะข้างทางหรือในห้าง ล้วนแล้วแต่ต้องมีเมนูนี้อยู่ในรายการอาหารทั้งสิ้น ราคาก็มีหลากหลายแล้วแต่วัตถุดิบที่นำมารังสรรค์ ไม่ว่าจะ 30 บาทไปถึงราคาเกือบร้อยบาท

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้พูดคุยกับ คุณแบงค์-กิตติชัย ชาวอุทัย วัย 30 ปี เจ้าของร้าน กะเพรายี่เดียว ร้านข้าวราคาถูกในตลาดนัด เขาให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนที่จะมาเปิดร้านขายข้าวราคาถูกในตลาดนัด เขาเคยผ่านการขายมาแล้วหลากหลาย ทั้ง หมูปิ้ง ลูกชิ้น ปลาหมึกย่าง จนเมื่อวันหนึ่งคุณแบงค์ได้ไปเจอกับคุณแหลม ที่ยืนขายอาหารจำพวกผัดกะเพราอยู่

“ผมเป็นคนชอบทำอาหาร แล้วก็ขายอาหารมาหลายอย่างแล้ว พอดีไปเห็นพี่แหลมเขายืนขายพวกกะเพรา 20 บาทอยู่ ก็เห็นว่า เออ ซื้อง่ายขายคล่องดี เพราะสมัยก่อน เกือบ 10 ปีที่แล้ว มันยังไม่ค่อยมีร้านขายข้าวถูกๆ แบบนี้เท่าไหร่ เลยอยากลองทำบ้าง ก็ใช้เวลาคิดสะระตะอยู่ประมาณครึ่งปี ลองซื้อของคนอื่นมากินว่ารสชาติของเขาเป็นยังไงกัน แล้วก็ลองซื้อหมูมาผัดกินที่บ้าน ปรับสูตรเองอะไรเอง คือผมจะไม่ลองสูตรกับลูกค้า เพราะหลายคนก็หลายรสชาติ แล้วธรรมชาติของคน ถ้ากินครั้งหนึ่งแล้วมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับของอันนั้น เขาก็จะไม่ซื้อกินอีก เลยตัดสินใจเอารสชาติจากที่ผมกินแล้วอร่อยนี่แหละ พอมันได้แล้วก็ทำขายเลย จนตอนนี้ก็ทำขายมาได้ 3 ปีแล้ว” คุณแบงค์ ว่าอย่างนั้น

เขาเล่าต่อว่า ที่ร้านจะขายเพียง 2 เมนู คือ ข้าวกะเพราหมู กับ ข้าวไก่กระเทียม เพราะหากขายหลากอย่าง ต้องเตรียมของเยอะ อีกทั้งยืนผัดทำอยู่คนเดียว อาจทำไม่ทันในการบริการลูกค้า เพราะตนยืนผัดสดๆ ใหม่ๆ แล้วขายให้ลูกค้าเลย

“ถึงขายถูกๆ แต่มันไม่ใช่อะไรก็ได้นะ มันต้องคิดว่าจะผัดครั้งละเท่าไหร่ ใส่อะไรเท่าไหร่ แล้วผมใช้ของอย่างดีเหมือนที่ทำกินเอง ยืนผัดสดๆ ร้อนๆ ให้เขาเห็นเลยว่าเราใส่อะไรบ้าง อย่าง ผัดกะเพรา ของผมใส่ซีอิ๊วดำแต่ไม่เหม็นซีอิ๊วแน่นอน พอขายจนมีลูกค้าเยอะ ผมก็ทักไปขอบคุณพี่แหลม ที่เป็นครูอาชีพ เป็นแรงบันดาลใจให้ผม ซึ่งถามว่าเขารู้จักผมไหม ก็ไม่หรอก แต่ผมอยากขอบคุณที่เขาทำให้ผมมีเงินค่านมลูก มีเงินเลี้ยงครอบครัวเพราะเขา” คุณแบงค์ เล่า

แน่นอนว่าการทำอาหารขาย เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ต้องใช้ทั้งความอดทนและความพิถีพิถัน ไหนจะเตรียมวัตถุดิบต่างๆ แต่คุณแบงค์กลับขายราคาเพียง 20 บาท จึงอดถามไม่ได้ว่า มีกำไรและคุ้มแล้วหรือที่ขายราคาเพียงเท่านี้

“จริงๆ คนขายแบบผมก็มีเยอะนะ แถมวันหนึ่งลงทุนค่อนข้างสูง 6-8 พันบาท อันนี้รวมค่าของ ค่าวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ค่าเช่าที่ ค่าลูกน้องอะไรด้วย แต่ผมขายเอาจำนวนมากกว่า คือขาย 20 บาท แต่ถ้าเพิ่มไข่ก็ราคา 25 มันไม่ได้แพง อย่างแรกที่ได้มันคือเงิน ถึงจะมีกำไรนิดๆ หน่อยๆ มันก็ยังได้ เพราะราคามันถูก ปริมาณคุ้มราคา แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่อาศัยอยู่คอนโดฯ หมู่บ้านแถวๆ นี้ ซึ่งบางคนอยู่ตัวคนเดียว หรืออยู่กันไม่กี่คน ข้าวราคานี้มันก็เป็นการช่วยเขาประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ทางหนึ่ง แล้วผมก็ได้จำนวนด้วย มีขายได้เกือบพันห่อก็มี เลยทำให้อยู่ได้ มันโอเค โควิดที่คนไม่ค่อยใช้ตังค์ ร้านผมก็ยังขายได้อยู่นะ” เจ้าของร้าน กล่าว

“อนาคตก็ว่าจะเพิ่มอะไรใหม่ๆ เข้ามาสัก 2-3 เมนู แก้เบื่อให้ลูกค้าเขา แต่คงเป็นอะไรที่ทำง่ายๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยากนั่นแหละ จะได้รักษาฐานลูกค้าไว้ด้วย” ชายหนุ่ม ทิ้งท้าย

นอกจากออกร้านขายตามตลาดนัดแล้ว คุณแบงค์ก็รับทำข้าวกล่อง ออกงานนอกสถานที่ และขายออนไลน์ในแอพ วงใน ด้วยเหมือนกัน สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก กะเพรา ยี่เดียว

เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2563