เผยแพร่ |
---|
ผู้เขียน/ภาพ กรรณิกา เพชรแก้ว
ฉันเห็นเขาทำหมี่พันครั้งแรก นอกจากสนุกไปการม้วนๆพันๆของเขาแล้ว ก็นึกในใจว่าทำง่ายปานนี้ นี่หรือที่ติดขั้นของดีเมืองลับแล คือฉันนึกว่าจะมีอะไรซับซ้อนเวอร์วังมากกว่านี้เสียอีก
ง่ายปานนี้ แต่หมี่พันก็เป็นของขึ้นชื่อ ของกินติดบ้านติดเรือนของคนเมืองลับแล อุตรดิตถ์จริงๆ
และป่านนี้ก็กำจรกำจายไปทั่ว เคยเห็นที่เมืองนอก เขาก็ยังเรียกหมี่พันลับแล ฮิตกันไปทั่วทีเดียว
ที่ชื่อว่าหมี่พัน มันมาง่ายๆคือ เขาใช้วิธีพันๆม้วนๆแบบง่ายๆ ง่ายกว่าปอเปี๊ยะหรือก๋วยเตี๋ยวหลอดเพราะไม่ต้องพับปลายใดๆทั้งสิ้น ม้วนง่ายๆอย่างนั้น
ส่วนข้างในก็เป็นหมี่ยำ ซึ่งก็คือเส้นหมี่ขาวแช่น้ำหรือลวก ผสมกระเทียมโขลกสักหน่อย แล้วเอามายำกับพริกป่น น้ำปลา มะนาว น้ำตาล ถั่วงอก กระเทียมเจียว ผักชี หรือจะใส่เครื่องเคียงอื่นใดอีกก็ตามใจ จะเอาเผ็ดน้อยเผ็ดมากแล้วแต่จะสั่งการกัน
แผ่นที่นำมาพันนั่น เขาเรียกว่าแผ่นข้าวแคบ ซึ่งมันก็คือแผ่นข้าวเหนียวโม่ผสมกับน้ำแล้วเอามาทาเป็นแผ่น เอาไปนึ่งบนผ้าขาวบางที่คลุมปากหม้อ เเล้วตากเเดดจนเเห้ง หน้าตาเหมือนแผ่นปอเปี๊ยะ
แผ่นข้าวเเคบนี่เขาจะผสมงาดำกับเกลือ ลงในเเป้ง เพื่อเพิ่มรสชาติ เเต่เดี๋ยวนี้เขามีแบบรสชาติแซ่บด้วยการเติมพริกลงไป แผ่นจะออกสีส้ม แล้วก็มีรสชาติจี๊ดจ๊าดขึ้น
คุณมณี ศรีพงษ์ อายุ66ปี เป็นคนเมืองอุตรดิตถ์ ได้ตำราหมี่พันมาจากญาติๆที่อำเภอลับแล ได้อาศัยใช้ทำหมี่พันขายเลี้ยงลูกเลี้ยงเต้ามาจนเติบใหญ่ ตอนนี้ย้ายมาอาศัยกับลูกๆที่เชียงใหม่ ก็เอาวิชาความรู้มาทำขายเนืองๆ ส่วนใหญ่จะขายในงานจัดเลี้ยงหรืองานประชุมที่ลูกๆเป็นคนจัด ไม่ได้เปิดร้าวรวงแต่อย่างใด
“ขายให้หายเหงาน่ะ มันทำไม่ยากหรอก เพราะเราทำมาจนชิน ตอนเลี้ยงลูกฉันขายอาหารในโรงเรียนยังรับไหว นั่งพันไปเด็กๆก็ยืนรอกันไป เดี๋ยวนี้ทำแค่ไม่ให้เราลืม แล้วก็อยากให้คนบ้านอื่นเมืองอื่นเขารู้จักของๆบ้านเราด้วย “ คุณมณีบอก และว่าตั้งแต่ทำให้คนเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวหลายประเทศชิม เขาว่าอร่อย และเขาชอบมาจ้องเวลาเธอม้วนๆพับๆ ถ่ายรูปกันอีกรัวๆ
คุณมณีจะยำหมี่ในรสกลางๆ เพราะที่เชียงใหม่นั้นมีทั้งฝรั่งมังค่าไม่น้อย ถ้าใครจะชอบเผ็ด เธอก็จะเติมให้จนสาสมใจ ฉันเคยชิมไปเช็ดน้ำตาป้อยๆไปมาแล้ว
ตอนขายให้เด็กๆในโรงเรียน เธอขายม้วนละ2บาท บัดนี้ราคามาอยู่ที่5บาท สนใจก็หยิบมาหนึ่งม้วนกัดกินกร้วมกันเลย อร่อยมาก จะกินเป็นอาหารว่างหรือจะเอาจริงเอาจังจนอิ่มเลยก็ได้
ใครเอียงอาย ไม่กล้าอ้าปากกว้าง จะอดกินหมี่พัน ฉันจะบอกให้
หมี่พันทำไม่ยาก แต่ตอนพันนั้นก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญไม่น้อย เขาม้วนกันพันกันโดยไม่มีอะไรช่วยให้แผ่นมันติดแบบเวลาเราห่อเกี๊ยว เขาม้วนแล้ววางไว้เฉยๆอย่างนั้น แผ่นข้าวแคบก็จะไม่คลายตัวออกอย่างที่เราหวั่น
ถ้าเป็นที่เมืองลับแล บางสูตรเขาจะเอาหมี่พันที่พันเสร็จแล้วใส่ลังถึงนึ่งพอให้นิ่ม แล้วทานได้เลย
แต่ส่วนใหญ่จะใช้วิธีธรรมชาติ โดยพันหมี่วางไว้สักพัก ให้แผ่นข้าวแคบคลายตัว มันจะกลายจากม้วนแข็งๆ มาเป็นม้วนนุ่มๆเพราะแผ่นข้าวแคบถูกอากาศจนอ่อนตัว เมื่อนั้นจึงจะทานได้อร่อย
คนจะทานหมี่พันจึงต้องใจเย็น ไม่ใช่เขาม้วนเสร็จปุ๊บคว้าใส่ปากปั๊บ ใจร้อนปานนั้นจะเจอของแข็ง แน่นอน