คุณหนึ่ง เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจพิซซ่าว่า เดิมทีเธอเปิดร้านสเต๊ก แบรนด์ The One Steak อยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับเปิดสอนการทำสเต๊กให้กับคนที่อยากเปิดร้านสเต๊ก ด้วยความเห็นใจและไม่อยากให้คนที่เริ่มทำธุรกิจต้องไปซื้อแฟรนไชส์ราคาแพง หรือเสียเงินเปิดร้านแพงๆ และเธอยังให้คนที่เรียนสเต๊กจากเธอไป สามารถใช้ชื่อร้านเดียวกับเธอโดยไม่เก็บค่าแฟรนไชส์อีกด้วยเพียง 2 ปีครึ่งที่เธอเปิดร้านและเปิดสอน มีสาขา The One Steak เกิดขึ้นกว่า 50 สาขา แล้ววันหนึ่งก็มีลูกศิษย์ที่เป็นเจ้าของโรงงานแป้งพิซซ่ามาเรียนทำสเต๊กกับเธอ เพราะอยากเปิดร้านสเต๊กควบคู่กับพิซซ่า ด้วยความคิดและมุมมองที่คล้ายกันของทั้งสองคนที่ต้องการสร้างโอกาสให้กับคนได้มีอาชีพ ท้ายที่สุดจึงเกิดเป็นธุรกิจพิซซ่าแบรนด์ The One Pizza ขึ้นมา ต่อยอดจากธุรกิจสเต๊ก โดยยังคงอุดมการณ์เดิม นั่นคือ สอนสูตรการทำโดยไม่ต้องซื้อแฟรนไชส์“พี่มองว่าพิซซ่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ เพราะพิซซ่าเป็นอาหารที่คนนิยมทานอยู่แล้ว แต่พิซซ่าที่อร่อยหรือแบรนด์ดังๆ ก็จะมีราคาสูงสำหรับผู้บริโภค ในแง่ของการลงทุนคนทั่วไปที่อยากเปิดร้านต้องลงทุนสูง ต้องซื้อแฟรนไชส์ราคาแพง คนส่วนใหญ่จึงไม่มีโอกาสที่จะเข้าถึงธุรกิจนี้ พี่อยากสร้างโอกาสให้กับคนที่มีทุนไม่มากได้มีอาชีพ ได้เข้าถึงการเป็นเจ้าของร้านพิซซ่าระดับพรีเมี่ยมโดยไม่ต้องลงทุนสูง ไม่ต้องซื้อแฟรนไชส์ราคาแพง ซึ่งเขาต้องใช้เงินลงทุนเยอะ โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็นยังไง จะขายได้ตามที่หวังรึเปล่าจะคืนทุนเมื่อไหร่ ยิ่งในภาวะแบบนี้ เศรษฐกิจแบบนี้ ต้องถือว่ายิ่งเสี่ยง ธุรกิจต้องตอบโจทย์มากๆ ถึงจะสำเร็จ พี่มองว่าพิซซ่ายังเป็นโอกาสและมีช่องทางของตลาดอยู่ ยิ่งพิซซ่าที่มีรสชาติอร่อยแบบพิซซ่าแบรนด์ดังๆ ที่ต้องกินในร้านอาหารใหญ่ๆ ยังเป็นโอกาสที่จะเข้ามาเล่นในตลาดล่างทั่วไป พี่อยากให้คนกินที่มีกำลังซื้อไม่มาก ได้กินพิซซ่าที่อร่อย แตกต่างจากที่เขาเคยกินในราคาที่ไม่แพง และอยากให้คนที่มองหาอาชีพหรือต้องการเปิดร้านขายพิซซ่าได้เข้าถึงโอกาสนี้ เพราะจริงๆ แล้วพิซซ่าทำไม่ยากเลยและลงทุนไม่มากด้วย” คุณหนึ่ง กล่าวด้วยจุดเด่นและความลงตัวของ The One Pizza แม้จะเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดกิจการมาได้เพียง 2 เดือน แต่สามารถสร้างโอกาสให้กับคนที่สนใจเข้ามาร่วมแบรนด์แล้วกว่า 20 สาขา นับได้ว่าธุรกิจนี้กำลังไปได้ดีเลยทีเดียว แม้จะอยู่ช่วงสถานการณ์โควิด เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ลงทุนไม่มาก ใช้เงินลงทุนแค่ 3,000 บาท ก็สามารถเปิดขายพิซซ่าได้แล้ว และสามารถคืนทุนได้อย่างรวดเร็วภายในวันเดียวเท่านั้น!”พี่ทำมา 2 เดือน ตอนนี้มี 20 กว่าสาขาแล้วค่ะ เราเดินได้เร็วเพราะมันตอบโจทย์ทั้งคนซื้อและคนขาย เราตั้งราคาขายเอาไว้ไม่แพง เพราะอยากให้คนตัดสินใจง่ายที่จะซื้อและเกิดความรู้สึกว่า ของอร่อยไม่จำเป็นต้องแพง ในด้านคนขายเองก็มีกำไรค่อนข้างสูง แถมทำขายง่าย เพราะอุปกรณ์หลักๆ มีแค่เตาอบลมร้อน ซึ่งเครื่องหนึ่ง ก็ราคาไม่ถึงพัน อาจจะเริ่มต้นขายที่แป้ง 50 แผ่น โดยซื้อแป้งกับซอสพิซซ่าสูตรเฉพาะของเราไป ลงทุนอีก 1,000 กว่าบาท ซื้อเครื่องแต่งหน้าพิซซ่าอีกไม่ถึงพัน ก็เปิดร้านขายได้แล้ว” สาวเจ้าของแบรนด์ กล่าว

คุณหนึ่ง ยังแจกแจงถึงต้นทุนและกำไรให้ฟังอีกว่า “ต้นทุนการทำพิซซ่า 1 ถาด หรือแป้ง 1 แผ่น รวมต้นทุนทุกอย่าง ใส่เครื่องแต่งหน้าแบบเต็มๆ อยู่ที่แผ่นละประมาณ 45-50 บาท ขึ้นอยู่กับต้นทุนแต่ละหน้า ต้นทุนนี้รวมกล่องใส่แล้ว หากนั่งทานที่ร้านก็จะประหยัดต้นทุนค่ากล่องไปได้อีก 6-8 บาท ถ้าเราขายถาดหนึ่งราคา 89 บาท กำไรต่อแผ่นหรือต่อถาดอยู่ที่ 45-50 บาท แล้วถ้าวันหนึ่งขาย 30-50 แผ่น คืนทุนได้เลยในวันแรก

แถมมีกำไรเท่าตัวเลยนะจากเงินที่ลงทุนไป ที่ผ่านมาคนที่เปิดขายก็ขายกันวันละ 30 แผ่น บางคนขายวันละ 50 แผ่น บางคนขายวันละ 70-80 แผ่น เลยนะ เพราะทุกคนที่ได้ทานจะบอกว่า พิซซ่าอร่อยมาก พิซซ่าแบรนด์ใหญ่ๆ หรือตามท้องตลาดมีเยอะจริง แต่ความอร่อยต่างกัน ความอร่อยของพิซซ่าอยู่ที่แป้งพิซซ่าและซอสพิซซ่า ซึ่งเรามีความโดดเด่นและแตกต่างจากพิซซ่าทั่วไป จึงทำให้เราขยายได้เร็วในระยะเวลาแค่ 2 เดือน เรากระจายถึง 20 สาขาแล้ว” คุณหนึ่ง กล่าว

จุดเด่นของ The One Pizza อยู่ที่แป้งพิซซ่าที่มีความอร่อยเทียบพิซซ่าในระดับบน เพราะใช้แป้งเกรดพรีเมี่ยมสำหรับทำพิซซ่าโดยเฉพาะ ที่โรงแรมใช้กัน ทำให้ได้แป้งพิซซ่ามีความกรอบด้านนอกโดยเฉพาะบริเวณขอบ แต่นุ่มด้านใน เนื้อแป้งละเอียด เนียนและเหนียว ไม่แข็ง กระด้าง แม้จะทิ้งไว้นานจนเย็นก็ยังนุ่ม อร่อย และมีกลิ่นหอมของแป้ง ขณะที่พิซซ่าบางแบรนด์ที่ใช้แป้งเกรดต่ำลงมา หรือใช้แป้งขนมปังมาทำพิซซ่า

ซึ่งมีราคาถูก ทำให้แป้งแข็ง กระด้าง ไม่ละเอียด มีรูอากาศเยอะ ทิ้งไว้นานหรือทิ้งให้เย็น จะยิ่งแข็ง กระด้าง เธอบอกว่าหากได้ชิมแป้งพิซซ่าของเธอแล้ว จะบอกว่าอร่อยแน่นอน นอกจากนี้ แป้งพิซซ่าของที่นี่ยังไม่ใส่สารกันบูด เป็นแป้งสด ทำแป้งใหม่สดทุกวัน จึงมีความอร่อยมากขึ้น แต่ก็สามารถเก็บในตู้เย็นได้นานเป็นเดือน เก็บนอกตู้เย็นได้ประมาณ 2 วัน ดังนั้น ใครที่รับแป้งไป จึงสามารถสต๊อกแป้งได้เพียงมีตู้เย็นธรรมดา โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่ม

พิซซ่า The One Pizza มีทั้งหมด 6 หน้าให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น ซีฟู้ด, ซุปเปอร์ซีฟู้ด, เวียนนา พาเหรด, ฮาวายเอี้ยน, ชีสซี่ปูอัด และ นัท เลิฟเวอร์ ซึ่งเป็นหน้าพิเศษของทางร้าน แต่ละหน้าล้วนน่าทานและสวยงาม ซึ่งคุณหนึ่งได้สอนวิธีการแต่งหน้าอย่างละเอียดไว้ทุกหน้า

“หน้าพิซซ่า พี่จะคัดเลือกหน้าที่คนนิยมทาน เพราะต่อให้เรามีหน้าเยอะแค่ไหน หรือหน้าแปลกๆ แค่ไหน แต่ถ้าคนไม่นิยม สุดท้ายจะกลายเป็นต้นทุนและเป็นภาระของคนขาย ถ้าหน้าเยอะคนขายต้องเตรียมวัตถุดิบเยอะ ลงทุนเยอะขึ้น พอคนไม่นิยม วัตถุดิบก็จะเหลือทิ้ง กลายเป็นต้นทุนที่เสียเปล่า เรารับรองว่าหน้าที่คัดเลือกมานั้นอร่อยและเป็นที่นิยมทุกหน้า เป็นที่ชื่นชอบและทานได้ทุกวัย โดยเฉพาะหน้าพิเศษของเรา นัท เลิฟเวอร์ ที่มีแฮมและเบคอนแล้วก็ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป ได้ความอร่อยที่ลงตัวมาก ลูกค้าตอบรับดีมากด้วยค่ะ” คุณหนึ่ง กล่าว

The One Pizza เปิดกว้างสำหรับทุกคนที่อยากทำพิซซ่าเป็น ไม่ว่าจะทำทานเอง หรือทำขาย โดยไม่ได้จำกัดว่าจะต้องขายในแบรนด์ The One Pizza เท่านั้น ใครที่มีร้านอาหารอยู่แล้ว หากต้องการเพิ่มเมนูพิซซ่าเข้าไปเพื่อเสริมรายได้ก็สามารถเรียนรู้ได้ โดยคุณหนึ่งได้เปิดกลุ่ม The One Pizza ขึ้นในเฟซบุ๊ก เพื่อสอนการทำพิซซ่าแบบฟรีๆ กันเลยทีเดียว ใครที่สนใจอยากเรียนรู้เรื่องพิซซ่า อยากเปิดร้านพิซซ่าต่อยอดจากร้านเดิมที่มีอยู่ หรือเปิดร้านใหม่ทั้งในแบรนด์ The One Pizza หรือร้านในแบรนด์ตัวเอง คุณหนึ่งยินดีที่จะให้คำแนะนำกับทุกคน

โดยในขณะนี้ แบรนด์ The One Pizza ได้เปิดโอกาสให้คนที่สนใจจับจองพื้นที่สาขาแล้ว โดยคุณหนึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถขยายได้กว่า 100 สาขาภายในปีนี้ เพราะเชื่อมั่นในความอร่อยและจุดแข็งด้านอื่นๆ ของแบรนด์ว่าจะสามารถปักธงความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้อย่างแน่นอน

หากใครสนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ (089) 783-5887 (คุณหนึ่ง) หรือเข้าไปติดตามการทำพิซซ่าได้ที่ กลุ่ม The One Pizza ได้เลย

เผยแพร่ครั้งแรก วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2563